test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

9 พ.ย. 2559

The Road of Du Ze  บทที่ 6 结果 ผลลัพธ์


         ในคืนนั้นนอกเหนือไปจากการฝึกฝนวรยุทธกิเลนสวรรค์แล้ว ตู่ซื่อและฮวาหั่วก็ได้ดูดซับพลังสวรรค์จากศิลาจิตวิญญาณจนใกล้ที่จะก่อรูปชะตาวิญญาณดวงที่สองได้
         
 เช้าวันต่อมา สนามประลองยุทธ สถาบันกำเนิดฟ้า
         
    “ข้าคิดว่า ในชั้นเรียนแคบ ๆ คงจะต่อสู้กันได้ไม่สะดวกนัก จึงได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ลานประลอง ให้พวกเจ้าได้ประลองฝีมือกัน” อาจารย์เอี่ยนเก๋อพูด
         
    “จงอย่าลืมว่า ถึงอย่างไร การสังหารคู่ต่อสู้ก็ยังนับว่าเป็นความผิดร้ายแรง!” อาจารย์เอี่ยนเก๋ออธิบายต่อ
         

      “พวกข้าเข้าใจในเรื่องนี้ดี!” อู่จินตอบกลับไป เมื่อวานเขาได้ดูดซับพลังสวรรค์จากศิลาจิตวิญญาณจนบรรลุระดับชะตาสวรรค์ขั้นที่สามแล้ว เขาไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน
         
“พวกข้าก็เข้าใจแล้ว” อู่หมิง ตอบกลับไปเช่นกัน
         
     “ถ้าเช่นนั้นก็จงขึ้นมาบนลานประลองได้!!” อาจารย์เอี่ยนเก๋อพูดออกไป
         

     “ฮู่เทียน หลินเจียง พวกเจ้าไปกับข้า”     [护天:ฮู่เทียน:ปกป้องสวรรค์] [林江:หลินเจียง:ป่าไม้และลำธาร] ทั้งสองคนอยู่ในระดับชะตาสวรรค์ขั้นที่สอง
         

     “อู่หมิง เจ้าจัดการกับอู่จิน อีกสองคนข้ากับฮาหั่วจะรับมือเอง!” ตู่ซื่อหันไปมองอู่หมิงและพูดออกไป
         

     ในลานประลอง ฮู่เทียน หลินเจียง ออกมายืนด้านหน้า ส่วนอู่จินกลับยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ราวกับไม่คิดที่จะต่อสู้กับผู้ใด
         

    “ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือ ฮู่เทียน หลินเจียง เพียงสองคนก็สามารถจัดการกับพวกเจ้าได้แล้ว” อู่จินพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
         

    “ดูถูกข้าเช่นนั้นหรือ?” ฮวาหั่วพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าระดับพลังจะด้อยกว่าขั้นหนึ่ง แต่ด้วยวรยุทธกิเลนสวรรค์ที่ตู่ซื่อถ่ายทอดให้นาง ทำให้นางก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก
         

“ฮว่าหั่ว อย่าใจร้อน” ตู่ซื่อเห็นดังนั้นจึงพุ่งตามฮวาหั่วออกไป
         

     ฮู่เทียนนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าบูดบึ้ง ราวกับทหารที่ยืนปกป้องประตูเมือง มีร่างกายอันใหญ่โตและกำลังมากมายแต่ก็เคลื่อนไหวได้ไม่รวดเร็วนัก เขาต่อยหมัดใส่ฮวาหั่วที่พุ่งเข้ามา แต่นางก็มิได้คิดที่จะหลบ นางรวบรวมพลังสวรรค์ไว้ที่หมัดและต่อยสวนกลับไป
         

    “กิเลนทะลวงสวรรค์!” หมัดของนางประสานกับหมัดของฮู่เทียน แต่ด้วยความรุนแรงของ วรยุทธกิเลนทะลวงสวรรค์ ทำให้หมัดของฮู่เทียน ได้รับบาดเจ็บจนกระดูกนิ้วโผล่ออกมา
         

     “อ๊ากกก” ฮู่เทียนร้องด้วยความเจ็บปวด แต่นางยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น นางรวบรวบพลังสวรรค์ไว้ที่เท้าและหมุนตัวแตะไปที่คอของฮู่เทียน ทำให้ฮู่เทียนล้มลงไปและหมดสติในทันที
         

    เมื่อเห็นว่าฮู่เทียน โดนโจมตีและล้มลงไปอย่างรวดเร็ว หลินเจียง เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาคมคาย รูปร่างเล็กเมื่อเทียบกับฮู่เทียน และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว รีบเข้าไปจู่โจมโดยการเตะไปที่ ฮวาหั่วที่หันหลังอยู่
         
 “ระวัง!” ตู่ซื่อตะโกนออกไป พร้อมกับใช้ วรยุทธกิเลนคลุมสวรรค์สร้างม่านพลัง ป้องกันให้แก่ฮวาหั่ว
         
    ตูมม!  เสียงเท้าของหลินเจียงปะทะเข้ากับม่านพลังที่ตู่ซื่อสร้างขึ้น หลังจากนั้นตู่ซื่อก็คลายม่านพลังออกมาในทันที
        

   “ข้าคิดเอาไว้แล้ว ว่าเจ้าต้องปกป้องข้า” ฮวาหั่วหันไปยิ้มให้กับตู่ซื่อ แต่ก็ต่อยหมัดไปที่หลินเจียงโดยที่ไม่มอง หมัดของนางซัดเข้าที่หน้าของหลินเจียงอย่างรุนแรง จนเขาล้มลงไป
       
  หลังจากได้ยินคำพูดของฮวาหั่ว ตู่ซื่อก็ถอนหายใจ พร้อมกับคิดว่า


นี่ข้าคิดถูกแล้วใช่ไหม?’


ผู้หญิงก็เป็นเช่นนี้กิเลนฟ้าพูดขึ้นมา และก็ถอนหายใจเช่นกัน


เมื่ออู่จินเห็นว่าลูกน้องของเขาทั้งสอง ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธแค้น


“เจ้าพวกอวดดี!” อู่จินตะโกนออกมาพร้อมกับพุ่งเข้ามาต่อยอู่หมิงทันที


ตูมม!


อู่หมิงต้านรับเอาไว้โดยไม่หลบ แม้จะใช้สองมือกันเอาไว้ได้ แต่ด้วยพลังที่ต่างชั้นกันถึงสองขั้นทำให้อู่หมิงกระอักเลือดออกมา


“หมัดของเจ้ารุนแรงเพียงเท่านี้เองหรือ ข้านั้นขี้ขลาดเอง ที่นึกกลัวมานาน” อู่หมิงเช็ดเลือดพร้อมกับพูดออกไป


เมื่อได้ยินคำพูดของอู่หมิง ตู่ซื่อและฮวาหั่วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่าอู่หมิงจะกล้าหาญขึ้นมาก แต่พวกเขาจะยังไม่ยืนมือเข้าไปช่วยเหลือในตอนนี้


“ปากดีนักนะ ถ้าเช่นนั้นจงรับไปอีกหมัด!” อู่จินต่อซ้ำไปอีกทีแต่คราวนี้อู่หมิง มิได้ตั้งรับเช่นเดิม เขาเบี่ยงตัวหลบและต่อหมัดสวนไปที่หน้าของอู่จิน แต่ว่าจะไม่รุนแรงเท่าใดนัก แต่ก็พอที่จะทำให้เลือดของอู่จินออกที่ริมฝีปากได้


เหล่านักเรียนที่ชมการประลองอยู่ ต่างก็ไม่คิดเลยว่าอู่หมิงจะสามารถทำได้ถึงเพียงนี้


อู่จินรู้สึกโกรธยิ่งนักที่ถูกหมัดของอู่หมิงต่อยเข้าที่หน้า เขายกเท้าและถีบอู่หมิงอย่างรุนแรง จนทำให้อู่หมิงกระเด็นออกไปหลายก้าว ตู่ซื่อเข้าไปประคองอู่หมิงเอาไว้


“เจ้าทำได้ดีแล้ว จากนี้ไปให้ข้ากับฮวาหั่วจัดการเอง” ตู่ซือพูดกับอู่หมิงในขณะที่กำลังประคองอยู่


“พวกเจ้าทำให้ข้ารู้สึกรังเกียจมากเกินไปแล้วแล้ว” อู่จินมองพวกเขาทั้งสามด้วยสายตาที่อาฆาต


“หมาป่าเกล็ดมังกรเพลิง!” อู่จินเรียกจิตอสูรของเขาออกมาและผสานอย่างรวดเร็ว เป็นอสูรหมาป่าที่มีเกล็ดมังกรอยู่รอบตัวราวกับเป็นเพราะป้องกัน และตัวของมันมีเปลวเพลิงอันร้อนแรงอยู่โดยรอบ เป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์


“ลมหายใจมังกร!” อู่จินพ่นลมหายใจมังกรออกมาพร้อมกับเปลวไฟที่พุ่งเข้าหาทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว


“ตู่ซื่อระวัง!” ฮวาหั่วรีบพุ่งเข้าไปขวางเอาไว้ โดยใช้วรยุทธกิเลนคลุมสวรรค์ ขวางเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่า ลมหายใจมังกรนี้ จะรุนแรงเกินไป และนางก็ใช้พลังสวรรค์ไปจนทำให้นางถึงกับกระอักเลือดออกมา


“ฮวาหั่ว!” ตู่ซื่อตะโกน พร้อมกับยื่นมือออกไป เขาวางอู่หมิงไว้ที่พื้นจากนั้นก็เดินไปหาฮวาหั่วที่ยืนปกป้องเขาเอาไว้


“เจ้าทำเกินไปแล้ว อู่จิน” ดวงตาของตู่ซื่อเป็นประกายด้วยความโกรธเกรี้ยว


“กิเลนกลืนสวรรค์!” ลมหายใจมังกรที่อู่จินปล่อยออกมา ถูกวรยุทธกิเลนกลืนสวรรค์ของตู่ซื่อดูดกลืนไป แต่ก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ดูเหมือนว่าอู่จินจะไม่อาจควบคุมพลังของเขาได้อีก หมาป่าเกล็ดมังกรเพลิงยังคงปล่อยลมหายใจมังกรออกไปเรื่อย ๆ และพลังนั้นก็ถูกตู่ซื่อดูดซับไปเรื่อย ๆ เช่นกัน


พลังวิญญาณของอู่จินถูกดูดออกมาจนหมด ในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขาเหลือเพียงชะตาวิญญาณทั้งสามเท่านั้น แต่ชะตาวิญญาณทั้งสามของเขาก็ค่อย ๆ สลายออกเป็นกลุ่มก้อนพลังสวรรค์ และปล่อยออกมาจนหมด


หลังจากที่ตู่ซื่อดูดซับพลังสวรรค์ที่อู่จินปล่อยออกมาทั้งหมด อู่จินก็คลายจากการผสานร่างและล้มลงไป บัดนี้ระดับพลังของอู่จินนั้น ต่ำกว่าระดับชะตาสวรรค์เสียแล้ว


ฮวาหั่วที่ใช้พลังสวรรค์ไปจนหมดเช่นกัน นางกำลังจะล้มลง แต่ตู่ซื่อก็ได้ประคองนางเอาไว้ ดูเหมือนว่านางก็หมดสติไปเช่นกัน


กินเลนฟ้า เจ้ามีหนทางช่วยเหลือนางหรือไม่?’ ตู่ซือ่ถามด้วยความร้อนใจ


ใช้วรยุทธกิเลนกลืนสวรรค์แต่ให้เคลื่อนย้อนกลับ ใช้ในการถ่ายเทพลังสวรรค์ให้นางกิเลนฟ้าตอบกลับไป


เมื่อได้ยินเช่นนั้นตู่ซื่อก็จับนางนั่งสมาธิจากนั้นเขาก็นั่งอยู่ที่ด้านหลังของนาง ใช้สองฝ่ามือประทับไปที่หลังของนางและถ่ายทอดพลังสวรรค์ออกไป แค่เพียงไม่นานนางก็ได้สติ


“เจ้าช่วยข้าอีกแล้วนะ” ฮวาหั่วพูดขึ้นมาด้วยความเหนื่อยอ่อน พร้อมกลับยิ้มด้วยความดีใจ


“เจ้าอย่าได้พูดเช่นนั้น เจ้าช่วยเหลือข้า และข้าก็ช่วยเหลือตอบแทนเจ้า เราต่างก็ช่วยเหลือกัน” ตู่ซื่อตอบกลับไป พร้อมกับยิ้ม รอยยิ้มของนางทำให้ใจของเขานั้นแทบจะละลาย


“การประลองจบแล้ว ฝ่ายที่ชนะคือ อู่หมิง ตู่ซื่อ ฮาหั่ว” อาจารย์เอี่ยนเก๋อประกาศผลการตัดสินออกมา


เหล่านักเรียนที่อยู่โดยรอบต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ตอนนี้พวกเขายกย่องตู่ซื่อและฮาหั่ว ที่เป็นเพียงคนธรรมดาจากโลกใบเลก แต่ก็สามารถเอาชนะคนจากตระกูลใหญ่ได้


เหล่าคนของอู่จินต่างก็เดินไปประคองพวกอู่จินและเดินก้มหน้าจากไป เหลือเพียงมี่เฝิ่นหงที่ยืนอยู่ตรงนั้น นางวิ่งไปหาอู่หมิงโอบกอดเขาพร้อมกับร้องไห้ออกมา ทั้งสองถูกพรากจากกันเพียงเพราะอู่หมิงนั้นไร้ซึ่งพรสวรรค์ แต่บัดนี้หาได้เป็นเช่นนั้นแล้ว

อู่หมิงคลายมือของมี่เฝิ่นหงออก จากนั้นก็ก้มหัวหัวพร้อมกับพูดออกไปว่า


“เฝิ่นหงข้าต้องขอโทษเจ้า ข้านั้นขี้ขลาดและอ่อนแอเกินไป จึงไม่กล้าโต้แย้งที่ถูกยกเลิกการหมั้นหมายกับเจ้า”


มี่เฝิ่นหง เอื้อมมือไปจับอู่หมิงให้ลุกขึ้น และพูดออกไปว่า “เดิมทีข้าเองกน้อยใจ ที่เจ้าไม่ต่อสู้เพื่อข้าเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้ข้าได้เห็นแล้วว่า เจ้าทุ่มเทเพียงใด”


“แต่ที่ชนะหาใช่เพราะฝีมือข้า แต่เป็นเพราะตู่ซื่อกับฮวาหั่ว” อู่หมิงตอบกลับไปพร้อมกับส่ายหน้า


“แต่สักวันข้าจะต่อสู้เพื่อเจ้าด้วยกำลังของเข้าเอง เมื่อถึงเวลาเข้าตำหนักชะตาสวรรค์ เจ้าจงมาทำพันธสัญญากับข้านะ จงมาเป็นคู่หมั้นของข้าเช่นเดิม” อู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง


“สำหรับข้า เจ้าก็เป็นคู่หมั้นเพียงคนเดียวของข้า ข้ายินดีที่จะทำพันธสัญญากับเจ้า” มี่เฝิ่นหงโผเข้ากอดอู่หมิงอีกครั้ง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความยินดี


“เมื่อใดกันที่เจ้าจะพูดเช่นนั้นกับข้าบ้าง” ฮวาหั่วมองหน้าตู่ซื่อและพูดออกไป


เมื่อได้ยินคำพูดของฮวาหั่วตู่ซื่อก็อดที่จะเขินอายไม่ได้ เอาสูดลมหายใจเข้าไปและพูดออกมาว่า “ใจของข้านั้นต้องการที่จะให้เจ้ามาเป็นคู่พันธสัญญา แต่ข้าต้องเล่าบางสิ่งให้เจ้าฟังก่อน เมื่อได้ฟังแล้ว ผู้ที่ตัดสินใจว่าจะตกลงหรือไม่ก็คือเจ้า ในตอนนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้”


“ถ้าเช่นนั้นคืนนี้ เจ้าจงเล่าเรื่องนั้นมา หวังว่าเจ้าคงจะไม่โกหก ที่บอกว่าใจเจ้านั้นต้องการให้ข้าเป็นคู่พันธสัญญา” ฮวาหั่วตอบกลับไป แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเรื่องอันใดกันที่ตู่ซื่อจะเล่า แต่คำพูดที่เขาพูดมาเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้หัวใจของนางหวั่นไหวยิ่งนัก


“วันนี้ข้าจะงดการเรียนการสอนเพียงเท่านี้ พรุ่งนี้จะเป็นการจับคู่ฝึกวรยุทธ พวกเจ้าที่สร้างชะตาวิญญาณได้แล้ว ในอีกสามวัน พวกเจ้าจะได้เข้าไปฝึกในตำหนักชะตาสวรรค์” อาจารย์เอี่ยนเก๋อพูดแล้วเดินออกไป


“พวกเราก็กลับไปพักผ่อนได้แล้ว ข้ายังต้องมอบพลังสวรรค์ที่เจ้าสูญเสียไปอีก หลังจากนั้นข้ามีเรื่องที่จะบอกแก่เจ้า” ตู่ซื่อหันไปพูดกับฮวาหั่ว


“พวกเจ้าจะรีบไปที่ใดกัน ข้ายังมิได้ตอบแทนพวกเจ้าทั้งสองเลย” อู่หมิงรีบพูดขึ้นมา


“ในตอนนี้ข้าไม่มีสิ่งใดที่ต้องการ” ตู่ซื่อตอบกลับไปพร้อมกับยิ้ม


เจ้าบ้า เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น ข้ายังมีเรื่องที่ต้องการอยู่นะกิเลนฟ้าพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ หากไม่ได้สิ่งตอบแทนเขาจะให้ตู่ซื่อช่วยเหลืออู่จินด้วยเหตุใดกัน


ได้ทำให้คนมีความสุขเจ้าก็ควรที่จะพอใจได้แล้วตู่ซื่อตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจนัก


“ส่วนข้าเอง ก็ได้สิ่งอื่นที่ล้ำค่าเป็นการตอบแทนแล้ว” ฮวาหั่วตอบกลับไปพร้อมกับยิ้ม ในตอนนี้ตู่ซื่อยังคงประคองนางอยู่ แม้ว่านางจะพอยืนเองได้ไหว แต่นางต้องการที่จะอยู่เช่นนี้ต่อไปเสียมากกว่า....................จบตอน


แต่งโดย นายมะพร้าว



เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง