“ความฝันของเจ้าไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้”
เนี่ยลี่ผสานเข้ากับดวงจิตของจักรพรรรดิปราชญ์ กลิ่นอายลมปราณที่แผ่ออกมาจากร่างของเนี่ยลี่นั้นรุนแรงยิ่งนัก
เมื่อผสานเข้ากับดวงจิตของจักรพรรรดิปราชญ์ ทำให้เนี่ยลี่มีพลังอยู่ในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นสูงสุด
จากนั้นเนี่ยลี่ก็นำกระบี่เทพอัสนีดาวตกมาถือไว้ด้วยมือซ้ายที่เหลืออยู่
“จักรพรรรดิปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นจิตอสูรของมนุษย์ น่าสมเพชยิ่งนัก”
อสูรเทพหัวเราะด้วยความขบขัน กับภาพที่ได้เห็น
“หุบปาก
ที่ข้ายอมที่จะเป็นจิตอสูร ก็เพื่อที่จะได้เห็นจุดจบของเจ้า”
จักรพรรรดิปราชญ์ตอบกลับไปด้วยร่างของเนี่ยลี่
เนี่ยลี่ฟันกระบี่เทพอัสนีดาวตกด้วยมือซ้ายที่เหลืออยู่ไปที่อสูรเทพทันที
ความรุนแรงนั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าตอนที่ต่อสู้กับจักรพรรรดิปราชญ์เสียอีก สายฟ้าที่ประจุอยู่ในกระบี่นั้นมากพอที่จะป่นภูเขาสูงชันให้กลายเป็นผงธุลีได้
เปรี้ยง!
เมื่อฟันออกไป
ก็บังเกิดสายฟ้าฟาดลงไปพร้อมกับกระบี่เทพอัสนีดาวตก ไปยังร่างของอสูรเทพทันที
อสูรเทพใช้กระบี่ในมือทั้งสองข้าง
ต้านรับเอาไว้โดยใช้มือทั้งสองข้างถือกระบี่ประสานกันเอาไว้เป็นรูปกากบาท สายฟ้าฟาดกระจายออกไปจนหมด
อสูรเทพนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
จากนั้นกระบี่เทพ
และกระบี่อสูรในมือของ อสูรเทพนั้นก็ค่อย ๆ ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว
กลายเป็นกระบี่ที่มีสีขาวและดำสลับกันไป และพลังที่แผ่ออกมาจากกระบี่นั้นก็สูงยิ่งกว่าตอนที่แยกกันหลายเท่านั้น
“นี่คือร่างที่แท้จริงของกระบี่เทพอสูร
มีเพียงผู้ที่มีโลหิตแห่งเทพและอสูรไหลเวียนอยู่เท่านั้น
จึงจะสามารถผสานมันให้เป็นหนึ่งได้” อสูรเทพพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกยิ่งนัก
เขานั้นตั้งใจที่จะเหยียดหยามจักรพรรรดิปราชญ์ที่ได้ครอบครองกระบี่วิเศษนี้แต่กลับไม่อาจใช้พลังที่แท้จริงของมันได้
ฟุ่บ!
อสูรเทพตวัดกระบี่เทพอสูรไปทางเนี่ยลี่อย่างแผ่วเบา
ก็บังเกิดคลื่นลมอันรุนแรงพัดเนี่ยลี่ให้กระเด็นออกไปหลายสิบเมตร
นั่นคือพลังเพียงเศษเสี้ยวเดียวของกระบี่เทพอสูร
“เหตุใดอสูรเทพจึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้?” เนี่ยลี่เอ่ยถามจักรพรรรดิปราชญ์
“คงเป็นเพราะมันได้รับพลังจากเทพทั้งหก
และจากร่างแยกของข้า
บางทีระดับพลังของมันอาจจะก้าวล้ำระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าไปแล้วก็เป็นได้”
จักรพรรรดิปราชญ์ตอบกลับไป
“แล้วจะมีหนทางใดที่จะเอาชนะมันได้บ้าง?” เนี่ยลี่ถามด้วยความร้อนใจ
“เทพทั้งหกนั้น
มีอยู่ห้าคนที่เป็นสหายของเจ้ามิใช่หรือ
เจ้าจงปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นมาระหว่างที่ต่อสู้กัน
อาจจะทำให้พอมีหนทางที่จะเอาชนะได้” จักรพรรรดิปราชญ์แนะนำ
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเชื่อมั่นใจเหล่าสหายของข้า”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับยิ้ม
“อย่าได้พูดมาก
อสูรเทพบุกเข้ามาแล้ว” จักรพรรรดิปราชญ์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
อสูรเทพถือกระบี่เทพอสูรบินพุ่งมาอย่างรวดเร็ว
ในครั้งนี้เขาฟาดฟันกระบี่ด้วยพลังที่มากขึ้น จู่ ๆ
ก็บังเกิดไฟลุกขึ้นมาที่กระบี่เทพอสูร พร้อม ๆ กับการโจมตีของอสูรเทพ
ตูม!
บังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
แม้ว่าเนี่ยลี่จะใช้กระบี่เทพอัสนีดาวตกต้านรับเอาไว้
แต่ร่างกายของเขาก็ลุกไหม้จากเปลวไฟของกระบี่
ทำให้เนี่ยลี่ต้องกลิ้งตัวลงไปกับพื้นเพื่อดับไฟที่ลุกอยู่นั้น
ร่างกายของเนี่ยลี่เต็มไปด้วยรอยแผลจากไฟที่ลุกไหม้
ดูเหมือนว่าแผลที่เกิดจากกระบี่เทพอสูรจะไม่อาจฟื้นฟูกลับสู่สภาพปกติได้
ดั่งแขนขวาที่ถูกตัดไปของเขา
“กระบี่ของมันทำร้ายไปจนถึงดวงวิญญาณ
ดังนั้นเจ้าจึงไม่อาจฟื้นสภาพร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บได้” จักรพรรดิปราชญ์อธิบาย
“ข้าทราบเรื่องนั้นตั้งแต่ตอนที่แขนข้าถูกตัดไปแล้ว
แต่การโจมตีของมันไม่มีช่องว่างให้ข้าหลบได้แม้แต่น้อย”
เนี่ยลี่ใช้กระบี่ยันพื้นเพื่อที่จะลุกยืนขึ้นด้วยความลำบาก
แค่รับมือการโจมตีของอสูรเทพก็สร้างความลำบากให้แก่เขายิ่งนัก
แล้วเขาจะมีเวลาปลุกพวกต้วนเจี้ยนให้ตื่นขึ้นมาได้เช่นใดกัน
“เจ้าคงไม่รู้ว่า ที่โลกเบื้องล่าง
ศิษย์แห่งเต๋าฉางกำลังรุมล้อมเหล่าสหายของเจ้า
เพื่อที่จะแย่งชิงกระจกข้ามภพมาให้ข้า”
อสูรเทพบอกกับเนี่ยลี่ด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
“ศิษย์แห่งเต๋าฉางนั้น
ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำร้ายเหล่าสหายของข้าได้” เนี่ยลี่ตอบกลับไป
ก่อนหน้านี้ที่ได้พบกับศิษย์แห่งเต๋าฉางที่เป็นบริวารของจอมมาร
พวกเขานั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ก็เพียงแค่ระดับเทพสงครามเท่านั้น
เหล่าสหายของเขานั้นล้วนแต่มีความแข็งแกร่งระดับขอบเขตแห่งพระเจ้า ดังนั้นศิษย์แห่งเต๋าฉางย่อมไม่ใช่คู่มือของพวกเขาอย่างแน่นอน
“แน่นอนว่าเป็นดั่งที่เจ้าพูด
แต่เหล่าสหายของเจ้าล้วนแต่โง่เง่าไม่ต่างจากเจ้า
พวกเขาไม่คิดที่จะสังหารบริวารของข้า
ดังนั้นพวกมันจึงได้แต่หลบอยู่หลังค่ายกลที่สหายเจ้าสร้างขึ้นเท่านั้น
ก็ขึ้นอยู่เวลาเท่านั้นว่าค่ายกลของสหายเจ้านั้นจะถูกทำลายเมื่อใด”
อสูรเทพพูดพร้อมกับหัวเราะที่เห็นเหล่าสหายของเนี่ยลี่ทำเช่นนั้น
“นั่นไม่ใช่ความโง่
แต่เป็นเพราะพวกเขามีคุณธรรม นั่นคือสิ่งที่เจ้านั้นไม่มี”
เนี่ยลี่ใช้กระบี่เทพอัสนีดาวตกชี้ไปที่หน้าของอสูรเทพ
เขานั้นภูมิใจยิ่งนักที่ได้มีสหายที่มีคุณธรรมถึงเพียงนี้
หากคิดที่จะตอบแทนน้ำใจของพวกเขา เนี่ยลี่ก็จะต้องเอาชนะศึกครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
เนี่ยลี่ถอยหลังไปตั้งหลักสองถึงสามก้าว
พร้อมกับรวบรวมพลังทั้งหมดใช้ที่กระบี่เทพอัสนีดาวตกอีกครั้ง ท้องฟ้าเบื้องบนกลายเป็นก้อนเมฆสีดำที่มีสายฟ้าฟาด
ที่ผ่าลงมาที่กระบี่เทพอัสนีสายฟ้าอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าสายฟ้าจากทุกแห่งบนโลกมารวมกันอยู่ที่กระบี่เทพอัสนีดาวตกในมือของเนี่ยลี่ก็ว่าได้
มันมีประกายสายฟ้าระยิบระยับไปทั่ว ไม่เพียงแต่ที่กระบี่เท่านั้น
สายฟ้ากำลังห่อหุ้มไปทั่วทั้งร่างกายของเนี่ยลี่อีกด้วย
“ไม่เลว
ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้โจมตีข้าหนึ่งกระบวนท่า ข้าเองก็ต้องการรู้ว่าในเวลานี้ข้านั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด”
อสูรเทพยืนกอดอกโดยไม่คิดที่จะหลบหรือป้องกันแม้แต่น้อย
“ต้วนเจี้ยน กู้หลาน เหยียนหยาง
พี่สาวยู่หยาน เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง
จงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยการโจมตีครั้งสุดท้ายของข้า”
เนี่ยลี่ตะโกนออกไปพร้อมกับฟันกระบี่เทพอัสนีดาวตกไปที่อสูรเทพทันที
เปรี้ยง!
เสียงสายฟ้าฟาดดังกึกก้องอีกครั้ง
แต่อสูรเทพยังคงยืนกอดอกอยู่เช่นเดิม
โดยที่ร่างกายของเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่แตกหักไปมีเพียงสิ่งเดียวคือกระบี่เทพอัสนีดาวตกในมือของเนี่ยลี่ แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่เหลือแม้แต่ด้ามกระบี่
คงเป็นเพราะกระบี่เทพอัสนีดาวตกไม่อาจทนต่อพลังสายฟ้ามากมายที่เนี่ยลี่รวบรวมมาได้
หลังจากที่ฟันออกไปมันจึงแตกสลายไปพร้อม ๆ กัน
“ดูเหมือนว่าเจ้านั้นจะพลาดโอกาสที่ข้าได้มอบให้”
อสูรเทพคลายมือที่กอดอกอยู่และค่อย ๆ ก้าวไปหาเนี่ยลี่
“ไม่คิดเลยว่าเจ้านั้น
คิดที่จะปลุกสหายทั้งห้าของข้าให้ตื่นขึ้นมา
เจ้าคงคิดว่าหากพวกเขาตื่นขึ้นมาก็จะทำให้ข้านั้นไม่อาจควบคุมร่างกายนี้ได้สินะ
เป็นแผนที่ไม่เลวนัก แต่พวกเขาเหล่านั้นได้สลายไปจนหมดและกลายเป็นพลังของข้าไปแล้ว
ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของวิญญาณและเจตจำนงของพวกมันอยู่ในตัวข้า”
อสูรเทพพูดพร้อมกับหัวเราะด้วยความสะใจยิ่งนัก
อสูรเทพใช้เท้าเตะไปที่ร่างของเนี่ยลี่
ที่ยืนนิ่งอยู่ด้วยความตกตะลึง จนร่างของเนี่ยลี่กระเด็นไปหลายเมตร
ในตอนนี้เขาไม่เหลือสิ่งใดที่จะใช้ต่อสู้ได้อีกแล้ว แขนก็เหลือเพียงข้างเดียว
อาวุธในมือก็แตกสลายไป ในตอนนี้เนี่ยลี่นั้นได้คลายการผสานเข้ากับดวงจิตของจักรพรรดิปราชญ์แล้ว
“ดูเหมือนว่าเจ้านั้นจะยอมแพ้แล้วสินะ”
อสูรเทพพูดด้วยความยินดี ที่ได้เห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของเนี่ยลี่
“เจ้าเด็กบ้า
คลายการผสานดวงจิตกับข้าทำไม เจ้านั้นรับปากสิ่งใดกับข้าไว้เจ้าลืมไปแล้วหรือ?” จักรพรรดิปราชญ์ตะโกนต่อว่าเนี่ยลี่
“เจ้าเองก็เห็นแล้วว่า
ข้าไม่มีหนทางที่จะเอาชนะมันได้อีกแล้ว” เนี่ยลี่ตอบกลับไป
เขานั้นไม่ได้อยากพ่ายแพ้เช่นนี้ แต่เขาคิดหาหนทางที่จะเอาชนะไม่ได้เลย
“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าได้ตาย
โดยที่ไม่ต้องเจ็บปวดทรมาน”
อสูรเทพชูกระบี่เทพอสูรขึ้นไปด้านบนพร้อมกับเตรียมที่จะฟันลงไปที่คอของเนี่ยลี่
ตูม! ตูม! ตูม!
คลื่นลมปราณจำนวนนับไม่ถ้วน
พุ่งเข้ามาปะทะร่างของอสูรเทพ จนทำให้เขาหยุดชะงัก ไม่อาจฟันกระบี่ลงไปได้
“เนี่ยลี่ การต่อสู้ยังไม่จบข้าไม่ยอมให้เจ้ายอมแพ้เช่นนี้”
เอียจื่ออวิ๋นพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเนี่ยลี่คิดที่จะยอมแพ้
“เจ้าเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้ข้า
เหตุใดเจ้าจึงไม่คิดเปลี่ยนแปลงผลในการต่อสู้ครั้งนี้”
เซี่ยวหนิงเอ๋อพูดขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“พะ.....พวกเจ้า” เนี่ยลี่รีบเงยหน้าไปมองและพบว่าเหล่าสหายของเขา
ได้กลับขึ้นมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อต่อสู้ร่วมกับเขา
“พวกเราเป็นพี่น้องกันมิใช่หรือ
เหตุใดจึงไม่ขอความช่วยเหลือจากพวกข้า”
ลู่เพียวพูดพร้อมกับพุ่งเข้าไปพยุงตัวเนี่ยลี่และนำตัวเขากลับมาหาทุกคน
“เจ้าบอกเองว่าหลังจบศึกนี้พวกเราจะมาดื่มฉลองด้วยกันมิใช่หรือ
หากเจ้าผิดสัญญาข้าคงไม่อาจยอมรับได้” ตู่ซื่อพูดพร้อมกับตบไปที่ไหล่ของเนี่ยลี่
“แม้ว่าพวกข้าสามคนจะมีฝีมือไม่มากนัก
แต่พวกข้าก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้งเจ้า” ซูเซียงจิ้ง เว่ยหนาน
และจางหมิงพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“พี่สาวของข้านางต้องสละชีวิตเพื่อให้เจ้าได้ต่อสู้กับศัตรู
หากเจ้ายอมแพ้เช่นนี้ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าเป็นแน่”
กู้เบ่ยจับจ้องไปที่เนี่ยลี่ด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
“ชีวิตของข้าเป็นของนายท่านเนี่ยลี่
หากท่านต้องตายไปแม้ว่าสวรรค์จะให้อภัย
แต่บรรพชนแห่งชนเผ่าเมฆาสวรรค์คงไม่อภัยให้ข้าเป็นแน่” เสวียนอวี่พูดพร้อมกับคุกเข่าให้แก่เนี่ยลี่
“แม้ว่าศิษย์พี่อิงเยว่ลู่
จะไม่ฝักใฝ่ในการต่อสู้ แต่นางก็ไม่เคยยอมแพ้กับสิ่งใด
นางเผชิญหน้ากับทุกสิ่งด้วยความมุ่งมั่น เจ้าลืมไปแล้วหรือ”
หลงยู่อินพูดขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย
คนที่กลับขึ้นมามีเพียงแค่
เอียจื่ออวิ๋น เซี่ยวหนิงเอ๋อ ลู่เพียว ตู่ซื่อ ซูเซียงจิ้ง เว่ยหนาน จางหมิง กู้เบ่ย เสวียนอวี่
และหลงยู่อินเท่านั้น สำหรับคนอื่น ๆ
หลงยู่อินขอให้ทุกคนช่วยกันสร้างม่านพลังป้องกันเอาไว้ที่เบื้องล่าง
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีสหายที่ดีถึงเพียงนี้
หากข้าได้มีสหายดั่งที่เจ้ามี ข้าคงไม่จมอยู่กับความแค้นยาวนานถึงเพียงนี้”
จักรพรรดิปราชญ์พูดชื่นชม
“ดูเหมือนว่ากระบี่เทพอัสนีดาวตกจะสลายไปแล้ว
แต่เจ้ายังมีกระบี่หมื่นวิญญาณอยู่มิใช่หรือ เหตุใดจึงไม่นำมันออกมา”
หลงยู่อินพูดขึ้นมา นางได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมดด้วยเทคนิคทำนายชะตาสวรรค์
ทำให้นางรู้ว่าเนี่ยลี่ยังมีกระบี่หมื่นวิญญาณอยู่
“ข้าเองก็ลืมไป”
เนี่ยลี่นำกระบี่หมื่นวิญญาณออกมาพร้อมกับผสานเข้ากับดวงจิตของจักรพรรดิปราชญ์อีกครั้ง
“ก็แค่พวกขยะที่มารวมตัวกัน
พวกเจ้าคิดหรือว่าจะทำอะไรข้าได้” อสูรเทพระเบิดลมปราณที่ดุดันราวกับพายุออกมา
พร้อมกับตะโกนออกไปด้วยความกราดเกรี้ยว..............จบตอน