test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

20 ก.พ. 2560

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.118 หนึ่งร้อยปี





          กระบี่หมื่นวิญญาณของเนี่ยลี่เริ่มดูดกลืนอะไรบางอย่างที่อยู่โดยรอบ เมื่อเนี่ยลี่จับจ้องดูจึงเห็นได้ชัดว่า เศษของกระเทพอัสนีดาวตกที่แตกกระจายไป กำลังมารวมตัวกันอยู่ที่กระบี่หมื่นวิญญาณ ดูเหมือนว่ากระบี่เทพอัสนีดาวตกยังต้องการที่ต่อสู้ร่วมกับเขา

          หนิงเอ๋อสังเกตุเห็นว่าเนี่ยลี่นั้นไม่มีแขนขวาอยู่แล้ว นางจึงรู้สึกตกใจยิ่งนัก

          “เนี่ยลี่ แขนของเจ้าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดมันจึงไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นฟูกลับมาสภาพเดิมเลย” หนิงเอ๋อถามด้วยความตกใจ

          “การโจมตีของอสูรเทพนั้น ไม่เพียงร่างกายเท่านั้น แต่จะโจมตีไปจนถึงวิญญาณ เมื่อวิญญาณได้รับความเสียหาย ก็จะไม่อาจคืนสภาพร่างกายได้ พวกเจ้าเองก็ต้องระวังตัวให้ดี” เนี่ยลี่ตอบกลับไป พร้อมกับเตือนทุกคน

          “เจ้ามีแผนใดที่จะเอาชนะมันได้หรือไม่?” เอียจื่ออวิ๋นเอ่ยถาม

          “เดิมทีข้าคิดจะปลุกเหล่าผู้กลับชาติมาเกิดให้ตื่นขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่อาจทำเช่นนั้นได้” เนี่ยลี่ส่ายศีรษะพร้อมกับตอบกลับไป แม้ว่าจะได้เหล่าสหายมาช่วย แต่อสูรเทพนั้นแข็งแกร่งเกินไป

          “แม้ว่าจะพาพวกของเจ้าทั้งหมดขึ้นมา ก็ไม่อาจที่จะเอาชนะข้าได้  ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ ต่อให้พวกเจ้าฝึกฝนอีกนับร้อยปีก็ไม่อาจเทียบเท่าข้าได้” อสูรเทพพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

          คลื่นลมปราณที่แผ่ออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของอสูรเทพ นั้นทำให้พวกเขาแทบจะถูกพัดปลิวออกไป อสูรเทพต้องการแสดงให้เห็นว่าคำพูดของเขานั้นเป็นเรื่องจริง

          “ร้อยปีเช่นนั้นหรือ ข้าคิดแผนบางอย่างขึ้นมาได้แล้ว” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปากของเขา

          “เจ้ามีแผนเช่นใดกัน?” จักรพรรดิปราชญ์ถามด้วยความสงสัย

          “จากนี้ไป ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ควบคุมร่างของข้า เจ้าจะต้องช่วยปกป้องเหล่าสหายของข้าและช่วยถ่วงเวลาให้ข้าด้วย” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับมอบร่างของตนให้จักรพรรรดิปราชญ์ควบคุม ก่อนที่จะเข้าไปในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขา

          “ถ่วงเวลาเช่นนั้นหรือ นานแค่ไหนกัน?” จักรพรรรดิปราชญ์รีบถามออกไป ขณะที่จิตของเนี่ยลี่ค่อย ๆ หายไป

          “หนึ่งร้อยปี!” เนี่ยลี่ตอบกลับมาเป็นครั้งสุดท้ายและเงียบหายไป

          “หนึ่งร้อยปี เจ้าพูดบ้าอันใดกัน” จักรพรรดิปราชญ์พูดด้วยความไม่พอใจการที่เนี่ยลี่พูดล้อเล่นในเวลาเช่นนี้ มันไม่น่าขันเลยแม้แต่น้อย

          “เขามิได้โกหกเจ้า” เสียงของจักรพรรรดิคงหมิงดังขึ้นมาในห้วงขอบเขตวิญญาณของเนี่ยลี่

          “คงหมิง อย่าได้บังอาจมาพูดกับข้า” จักรพรรดิปราชญ์พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ที่คงหมิงเอ่ยปากพูดกับเขา ความแค้นที่เขามีแม้จะลดน้อยลงไปบ้าง แต่การที่คงหมิงพูดกับเขานั้น ทำให้ความแค้นของเขากลับคืนมาอีกครั้ง

          เมื่อเห็นว่าจักรพรรรดิปราชญ์รู้สึกไม่พอใจเขาจึงกลับเข้าไปในห้วงขอบเขตวิญญาณ เพื่อไปเฝ้าดูสิ่งที่เนี่ยลี่กำลังทำอยู่

          “เนี่ยลี่เหตุใดเจ้าจึงนิ่งเงียบไป?” ลู่เพียวตบไปที่ไหล่ของเนี่ยลี่ เมื่อเห็นว่าหลังจากที่พูดกับเอียจื่ออวิ๋นแล้วเนี่ยลี่ก็ยืนนิ่งราวกับว่าหมดสติไป เขาจึงตบไปเพื่อที่จะให้เนี่ยลี่ได้สติ

          “เจ้ากล้าดีเช่นใดจึงมาตบไหล่ของข้า” จักรพรรรดิปราชญ์หันไปพูดกับลู่เพียวด้วยความไม่พอใจ

          “นี่เจ้าไม่ใช่เนี่ยลี่หรอกหรือ?” ลู่เพียวรู้สึกตกใจเสียงที่เขาได้ยินในตอนนี้ ต่างกับเสียงของเนี่ยลี่อย่างเห็นได้ชัด

          “ข้าคือจักรพรรดิปราชญ์ เนี่ยลี่ได้บอกกับข้าว่า ให้ข้านั้นปกป้องพวกเจ้า และถ่วงเวลาให้กับเขา” จักรพรรดิปราชญ์ตอบกลับไป ในเวลานี้เขายังเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ

          “ถ่วงเวลา เนี่ยลี่บอกไว้หรือไม่ว่า นานแค่ไหนกัน?” ตู่ซื่อถามออกไป กิเลนฟ้าได้บอกกับเขาว่า จักรพรรดิปราชญ์ในตอนนี้อยู่ในสภาพเช่นเดียวกับกิเลนฟ้าและกิเลนเพลิง นั่นทำให้เขารู้สึกคลายกังวลขึ้นมาบ้าง

          “เขาบอกว่าหนึ่งร้อยปี และเมื่อครู่นี้เจ้าคงหมิงเองก็บอกว่า คำพูดนี้เป็นเรื่องจริง” จักรพรรดิปราชญ์ตอบกลับไป แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่ที่เขาได้ยินมาก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้น

          “หนึ่งร้อยปีนี่เจ้าพูดล้อเล่นหรือไม่ แค่ครึ่งชั่วยามข้าก็ยังไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย” ลู่เพียวพูดขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น

          “เนี่ยลี่ไม่ใช่คนที่จะพูดล้อเล่น คำพูดที่ว่าหนึ่งร้อยปีของเขาต้องมีความหมายอันใดซ่อนเร้นอยู่เป็นแน่” กู้เบ่ยพูดขึ้นมา เขาได้เห็นเนี่ยลี่วางแผนในหลายครั้งที่ผ่านมา ทุกคำพูดของนี่ยลี่ล้วนแต่มีความหมาย

          “ข้าให้เวลาพวกเจ้าพูดคุยกันมากพอแล้ว ใครต้องการตายเป็นคนแรกก็จงเข้ามา” อสูรเทพพูดออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง

          “ข้าจะสังหารเจ้าซะ เพื่อตอบแทนให้แก่นายท่านเนี่ยลี่” เสวียนอวี่พูดพร้อมกับถือดาบพุ่งเข้าไปโจมตีอสูรเทพทันที

          “ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่พ่ายแพ้ต่อจักรพรรดิปราชญ์จนถูกสาปให้อยู่ภายในดินแดนแห้งแล้งไร้ที่สิ้นสุด นับว่าใจกล้าไม่เลว ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเป็นคนแรก” อสูรเทพตวัดกระบี่เทพอสูรไปทางเสวียนอวี่ที่พุ่งเข้ามา คลื่นลมปราณจากกระบี่ที่พุ่งออกมานั้นรุนแรงมากพอที่จะสังหารเสวียนอวี่ได้ในคราวเดียว

          “เจ้าโง่เอ๊ย” จักรพรรรดิปราชญ์ที่ควบคุมร่างกายของเนี่ยลี่รีบพุ่งตามเสวียนอวี่ไป พร้อมกับใช้เท้าถีบให้เสวียนอวี่กระเด็นไป เพื่อให้พ้นจากคลื่นลมปราณที่อสูรเทพปล่อยออกมา

          “เนี่ยลี่บอกให้ข้าปกป้องพวกเจ้า แต่หากพวกเจ้ายังรนหาที่ตายเช่นนี้ ข้าคงไม่อาจทำตามคำพูดนั้นได้เป็นแน่” จักรพรรดิปราชญ์พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

ร่างของเสวียนอวี่กระแทกลงไปกับพื้นและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่คิดที่จะต่อว่าจักรพรรรดิปราชญ์แต่อย่างใด สิ่งที่จักรพรรรดิปราชญ์ทำนั้น ทำให้เขารอดชีวิตมาได้

“จากนี้ไปอย่าบุกเพียงลำพัง เมื่อกำลังของพวกเรานั้นด้อยกว่า พวกเราต้องช่วยสนับสนุนการต่อสู้ของเขา” เอียจื่ออวิ๋นพูดขึ้นมาพร้อมกับบอกให้ทุกคนถอยมาอยู่ด้านหลังจักรพรรรดิปราชญ์

“จื่ออวิ๋นพูดถูกต้องแล้ว ข้าจะใช้เทคนิคทำนายสวรรค์ แจ้งเตือนพวกเจ้าจากการโจมตีของมัน พวกเราจะต้องถ่วงเวลาจนกว่าเนี่ยลี่จะกลับมา” หลงยู่อินกล่าวสนับสนุน

“หากทำเช่นนั้นชีวิตของเจ้าก็จะ.....” กู้เบ่ยพูดขึ้นมาแต่ก็หลงยู่อินก็ยกมือให้เขาหยุดพูดทันที

“ที่ข้าเลือกจะเป็นผู้สืบทอดเทคนิคทำนายชะตาสวรรค์ ก็เพื่อที่จะร่วมต่อสู้กับพวกเจ้า หากเราไม่อาจเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้ โลกก็จะอยู่ภายใต้การปกครองของมัน” หลงยู่อินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“จักรพรรรดิปราชญ์ พวกเราจะช่วยสนับสนุนเจ้าเอง กระบวนท่าต่อไปของมันจะโจมตีไปที่พวกเขาสามคนนั่น” หลงยู่อินใช้เทคนิคทำนายชะตาสวรรค์ทำให้เห็นการโจมตีล่วงหน้าของอสูรเทพ เป้าหมายของมันคือ เว่ยหนาน จางหมิงและซูเซียงจิ้ง

เมื่อรู้ว่าพวกเขานั้นเป็นเป้าหมาย ทั้งสามคนจึงแยกตัวออกห่างจากคนอื่น ๆ เพื่อที่จะเป็นเหยื่อล่อ การแยกตัวออกจากกลุ่มจะทำให้จักพรรรดิปราชญ์นั้นโจมตีสวนกลับได้ง่ายขึ้น

อสูรเทพพุ่งเข้าโจมตีทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว แม้จะแปลกใจที่เห็นทั้งสามแยกตัวออกไปจากกลุ่ม แต่นั่นก็ทำให้เขาโจมตีได้ง่ายยิ่งขึ้น แค่เพียงพริบตาเขาก็เข้าประชิดตัวทั้งสามคนได้

“อัญเชิญเทพอัสนี!

ก่อนที่กระบี่จะฟันร่างของทั้งสามคน เซี่ยวหนิงเอ๋อได้อัญเชิญสายฟ้าให้มารวมอยู่ที่กระบี่หมื่นวิญญาณในมือจักรพรรรดิปราชญ์ จากนั้นก็จักรพรรรดิปราชญ์ ใช้กระบี่หมื่นวิญญาณที่อาบไปด้วยพลังของเทพอีสนี ฟันไปที่ร่างของอสูรเทพ แม้จะเป็นแค่เพียงพริบตาแต่อสูรเทพก็หยุดกระบี่ที่จะโจมตีทั้งสามคนเอาไว้และหลบการโจมตีของจักรพรรรดิปราชญ์ได้ คลื่นพลังจากสายฟ้าที่พุ่งออกไปราวกับแยกท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน แต่น่าเสียดายที่ไม่อสูรนั้นนั้นสามารถหลบไปได้

 แม้ว่าอสูรเทพจะหยุดการโจมตีเอาไว้ แต่พลังของอสูรเทพก็ยังกระแทกเว่ยหนาน จางหมิงและซูเซียงจิ้งให้กระเด็นออกไป แม้ว่าจะไม่ถึงแก่ชีวิตแต่ก็ทำให้พวกเขาบาดเจ็บไม่น้อย

การหยุดชะงักของอสูรเทพ นั้นตู่ซื่อไม่ปล่อยให้โอกาสนี้พลาดไป เขาผสานเข้ากับกิเลนฟ้า และใช้หมัดกิเลนทะลวงสวรรค์ต่อยเข้าที่ลำตัวของอสูรเทพอย่างจัง แม้ว่าจะไม่อาจสร้างบาดแผลให้แก่มันได้ แต่ก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ภายในเล็กน้อยจนชะงักไป แต่นี่ก็เป็นพลังทั้งหมดที่ตู่ซื่อเหลืออยู่แล้ว

เมื่อเห็นว่าตู่ซื่อไม่มีแรงที่จะขยับตัวได้แล้ว อสูรเทพจึงหันมาจัดการกับตู่ซื่อก่อนเป็นคนแรก ทางด้านลู่เพียวเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงรวบรวมพลังทั้งหมดพุ่งง้าวเทพนักรบสวรรค์ออกไป

ง้าวเทพนักรบสวรรค์ของลู่เพียวปักเข้าไปที่กลางหลังของอสูรเทพ แต่ก็สามารถแทงทะลุผิวหนังอันแข็งแกร่งของอสูรเทพได้เพียงแค่เล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถถ่วงเวลาให้เสวียนอวี่นั้นไปช่วยตู่ซื่อกลับมาได้

“เจ้าพวกมนุษย์โสโครก” อสูรเทพตะโกนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เขาดึงง้าวเทพนักรบสวรรค์ออกมาจากหลังและโยนทิ้งไป แม้ว่าการโจมตีของพวกตู่ซื่อและลู่เพียวนั้นจะไม่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บมากเท่าใด แต่เขาก็รู้สึกราวกับว่าถูกพวกแมลงบินมารบกวนไม่หยุด

“เดิมทีข้าคิดจะสังหารพวกเจ้าทีละคน แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” อสูรเทพพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยลมปราณอันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมออกมาอีกครั้ง

“เจตจำนงแห่งกระบี่บรรชน ม่านกำแพงสวรรค์” กู้เบ่ยสร้างเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนแล้วสร้างเป็นกำแพงป้องกันลมปราณของอสูรเทพ

“กำแพงน้ำแข็งนิรันดิ์!” เอียจื่ออวิ๋นได้สร้างกำแพงน้ำแข็งช่วยป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

กู้เบ่ยและเอียจื่ออวิ๋นที่ใช้พลังทั้งหมดต้านเอาไว้ แค่เพียงไม่นาน พลังของพวกเขาก็หมดลง ม่านกำแพงสวรรค์และกำแพงน้ำแข็งนิรันดิ์ของทั้งสองคนก็สลายไป ซึ่งก็ทำให้ทั้งสองคนถึงกับกระอักเลือดออกมา

“เนี่ยลี่ เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมาเสียที” หนิงเอ๋อตะโกนเรียกเนี่ยลี่ทั้งน้ำตา ในตอนนี้ทุกคนนั้นไม่เหลือพลังมากพอที่จะต้านอสูรเทพเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

“เนี่ยลี่จะต้องกลับมา ข้าเชื่อมั่นในตัวเขา” เอียจื่ออวิ๋นที่ใช้พลังทั้งหมดไปกับการสร้างกำแพงน้ำแข็งนิรันดิ์พูดขึ้นมาพร้อมกับเช็ดเลือดที่มุมปาก

“เนี่ยลี่ไม่เคยผิดสัญญาที่ให้ไว้กับพวกเรา เขาจะต้องกลับมา” ลู่เพียวพยายามลุกยืนขึ้นด้วยพลังที่เหลืออยู่

“อีกไม่นานเขาจะกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่พวกเราคุ้นเคย” ตู่ซื่อเองก็ลุกยืนขึ้นมายืนข้าง ๆ ลู่เพียว

“เขาจะต้องกลับมาและเอาชนะอสูรเทพ จากนั้นพวกเราก็จะกลับไปดื่มฉลองด้วยกัน” กู้เบ่ยเช็ดเลือดที่มุมปากของเขาและลุกขึ้นมายืนเคียงข้างทุกคน

“แม้ว่าจะต้องสละชีวิต ข้าก็จะปกป้องทุกคนเอาไว้ให้ได้” เสวียนอวี่พูดแทรกขึ้นมา

“เหตุใดพวกเจ้าจึงเรียกหาเนี่ยลี่ มันก็ยืนอยู่ตรงนั้นมิใช่หรือ?” อสูรเทพถามด้วยความสงสัย

ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน จนเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นมา

“ข้ากลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะลำบากกันไม่น้อย” เนี่ยลี่พูดขึ้นมา พร้อมกับยิ้มให้เหล่าสหายของเขา ในตอนนี้เขากลับมาควบคุมร่างกายของตนเองแล้ว

“นี่เจ้าไปทำอันใดมา หรือว่านี่ผ่านไปหนึ่งร้อยปีแล้ว” จักรพรรรดิปราชญ์ถามขึ้นมา เขารับรู้ได้ว่าเนี่ยลี่นั้นแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า

“ข้าต้องขอโทษด้วย เมื่อได้บ่มเพาะพลังจนครบร้อยปี ข้าก็พบว่าพลังของข้านั้นตอนนั้น ยังไม่อาจเอาชนะอสูรเทพได้ ข้าจึงต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นเป็นเวลาหนึ่งพันปี” เนี่ยลี่ตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม............จบตอน

แต่งโดย นายมะพร้าว






               

เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง