ก๋ายเหล่าที่อยู่ในร่างของมังกรคางคกมรกต บินขึ้นมาจากหลุม
ร่างกายของเขานั้นบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากการโจมตีของมังกรพสุธาเขาทองคำ
ทำให้เอียฮั่นอดที่จะตกใจไม่ได้
การต่อสู้อันรุนแรง
สามารถรับรู้ได้ไปในระยะหลายสิบลี้
มีนกเหล็กตัวหนึ่งบินผ่านมาเห็นการต่อสู้ครั้งนี้ นั่นคือหุ่นเชิดวิญญาณ
ที่บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยานสิงสถิตอยู่นั่นเอง
“นี่มันการต่อสู้ของอสูรอย่างเห็นได้ชัด
ข้าต้องนำเรื่องนี้ไปบอกแก่เอียมัว” ที่บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยานพูดขึ้นมา
ก่อนที่จะรีบบินออกไปโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้
หลายเดือนมานี้เขาบินสำรวจไปทั่วหุบเขาบรรพชน
เพื่อดูท่าทีของพวกสัตว์อสูร ในบางครั้งก็จะกลับไปแจ้งให้เอียมัวทราบ
“หากเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้
ข้าก็จะสังหารเจ้าซะ” ก๋ายเหล่าพูดขณะที่ยื่นมือขวาของมังกรคางคกมรกตไปข้างหน้า
“พิษคางคกมรกต!” มีเมือกสีเขียวพุ่งออกจากมือของ
มังกรคางคกมรกตพุ่งไปยังร่างของ มังกรพสุธาเขาทองคำ เอียฮั่นเห็นดังนั้นจึงรีบใช้หางของมังกรพสุธาเขาทองคำ
แหวกอากาศเพื่อพัดพิษกระจายออกไป
ฟู่วว
เมื่อเศษพิษกระเด็นไปถูกก้อนหินและพื้นดินโดยรอบ
ก็กรัดกร่อนก้อนหินและพื้นจนละลายอย่างรวดเร็ว
แม้แต่หางของมังกรพสุธาเขาทองคำเองก็ถูกกรัดกร่อนละลายหายไปเล็กน้อย
“เจ้าจะป้องกันไปได้นานสักเท่าใดกัน” มังกรคางคกมรกตกระโดดขึ้นไปด้านบน
และปล่อยพิษคางคกมรกต ออกมาจากทั้งสองมือ
“เพลิงโทสะมังกร!” เอียฮั่นรีบพ่นไฟสวนกลับไป ความร้อนจากเปลวไฟของเอียฮั่น
ทำให้พิษระเหยไปจนหมด ดูเหมือนว่าเอียฮั่นจะไม่ได้มีฝีมือด้อยกว่าสักเท่าใดนัก
การต่อสู้ผ่านไปยาวนานนับชั่วยาม
ที่บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยานบินมาถึงเมืองกลอรี่
และรีบบินไปหาเอียมัวที่ตำหนักเจ้าเมืองทันที
“ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน”
เอียมัวและเอียเซิ่งพูดขึ้นมาเมื่อเห็น บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน บินเข้ามา
เนี่ยลี่เองก็นั่งพูดคุยอยู่กับทั้งสองคนอยู่
“เอียเซิ่งเจ้าตายไปแล้วมิใช่หรือ
เนี่ยลี่เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อใดกัน?” บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยานพูดขึ้นด้วยความสงสัย
เมื่อได้เห็นเนี่ยลี่และเอียเซิ่ง
“ข้านั้นกลับมาเป็นเวลาหนึ่งแล้ว
ท่านมีเรื่องอันใดกัน จึงได้ดูรีบร้อนยิ่งนัก” เนี่ยลี่ถามกลับไป
“ห่างจากเมืองกลอรี่ไปราวยี่สิบลี้
มียอดฝีมือสองคนกำลังต่อสู้กัน ระดับพลังของพวกเขานั้นข้าไม่อาจที่จะประเมินได้”
บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยานรีบแจ้งข่าว พร้อมกับกระพือปีกด้วยความร้อนใจ
“คงจะเป็นเอียฮั่นและผู้สืบทอดมรดกของจักรพรรดิคงหมิงคนอื่น
ๆ” เนี่ยลี่พูดขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของบรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน
“พวกเขาต่อสู้กันทางทิศใด
ข้าจะเดินทางไปดูด้วยตาของเข้าเอง” เนี่ยลี่หันไปถามบรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน
“หากมุ่งหน้าไปทางประตูบูรพา
ก็มุ่งตรงไปทางประตูสู่ดินแดนนรกจองจำ พวกเขาต่อสู้กันอยู่บรเวณนั้น”
บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน พูดขึ้นมาหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ข้าจะเดินทางไปเพียงลำพัง
นี่คือชะตาของผู้สืบทอดมรดกของจักรพรรดิคงหมิง”
เนี่ยลี่หันไปบอกกับเอียมัวและเอียเซิ่ง
“นี่เจ้า.....”
เอียเซิ่งพูดได้เพียงเท่านี้ ก็นิ่งเงียบและพยักหน้ายอมให้เนี่ยลี่ไป
เนี่ยลี่จึงรีบบินออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาไปบอกต้วนเจี้ยนให้อยู่ปกป้องเมืองที่นี่และบินออกไปเพียลำพัง
เมื่อไปถึงเขาพบว่าการต่อสู้ยังไม่จบจึงรีบผสานเข้ากับจิตอสูรเงาพราย
และไปแอบดูอยู่ไม่ไกลนัก
สภาพพื้นผิวโดยรอบกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ
หุบเขาที่เคยเป็นแนวยาว ก็ถูกทำลายจนราบ
แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการต่อสู้จากทั้งสองฝ่าย
ร่างของมังกรพสุธาเขาทองคำนั้นได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
ตามร่างกายมีแผลพุพอง คงเป็นผลจากการถูกโจมตีด้วยพิษของ มังกรคางคกมรกต
กรอดด
เสียงของมังกรทั้งสองที่ใช้มือทั้งสองข้างยันกันไว้
ราวกับการประลองกำลัง
ดูเหมือนว่ากำลังของมังกรพสุธาเขาทองคำนั้นจะเหนือกว่าเล็กน้อย จึงค่อย ๆ
กดมังกรคางคกมรกตให้ค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้นได้
“เจ้าโง่!”
ก๋ายเหล่าพูดขึ้นมาพร้อมกับปล่อยพิษออกจากมือทั้งสองข้างที่ถูกเอียฮั่นจจับไว้
ทำให้มือของมังกรพสุธาเขาทองคำนั้นค่อย ๆ ละลาย
“อะไรกัน!” เอียฮั่นพูดพร้อมกับรีบปล่อยมือด้วยความตกใจ
“ตายซะ!”
ก๋ายเหล่าพูดพร้อมกับใช้หางของมังกรคางคกมรกตแทงเข้าที่หน้าอกของ
มังกรพสุธาเขาทองคำอย่างรวดเร็ว
เอียฮั่นพยายามที่จะหลบแม้จะรอดพ้นจากจุดตาย
แต่ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ร่างของเขาค่อย ๆ คลายจากการผสาน
กลับคืนรูปลักษณ์ของมนุษย์ ดูเหมือนว่าเขาจะพ่ายแพ้ในศึกนี้แล้ว
ก๋ายเหล่าใช้ร่างของมังกรคางคกมรกตเหยียบเอียฮั่นเอาไว้กับพื้นก่อนที่จะคลายการผสานร่างเช่นกัน
“คงต้องขอบใจเจ้า ที่ทำให้ข้ากลายเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของจักรพรรดิคงหมิง”
ก๋ายเหล่าพูดขึ้นมาพร้อมกับใช้เท้าขยี้ไปที่แผลของเอียฮั่น
หากเขาสังหารเอียฮั่นได้ เขาก็จะได้ครอบครองตัวอักษรถึงแปดตัว
ตัวอักษรอีกสองตัวสุดท้ายก็คงไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าใดนัก
ฉึกก!
“เอียเซิ่งเคยบอกสอนข้าว่าจงอย่าได้ประมาท
ข้ารู้ซึ้งแล้ว” เอียฮั่นพูดขึ้นมาพร้อมกับ
นำมีดสั้นออกมาจากแหวนห้วงมิติและแทงเข้าไปที่หน้าอกของก๋ายเหล่าทันที
ซึ่งมันทำให้ ก๋ายเหล่า
ถึงกับเดินเซไปทางด้านหลังและล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น
“นี่มันอะไรกัน?” ก๋ายเหล่าพยายามพูดออกมา
ในตอนนี้เขาไม่อาจที่จะรวบรวมลมปราณได้เลย
“มีดสั้นเล่มนั้น
ถูกอาบไปด้วยพิษจากหญ้าลิ้นมังกร
แม้แต่ผู้ใช้มังกรธาตุพิษเช่นเจ้าก็ไม่อาจที่จะต้านพิษชนิดนี้ได้”
เอียฮั่นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
หญ้าลิ้นมังกร เป็นหญ้าพิษที่เอียฮั่นเคยใช้ลอบสังหารเอียเซิ่ง
ซึ่งพิษของมันมีผลให้ผู้ที่ผสานเข้ากับจิตอสูรประเภทมังกรสูญเสียพลัง
จนไม่อาจที่จะรวบรวมลมปราณได้ และตายไปอย่างรวดเร็ว
“เพียงเท่านี้ ข้าก็เป็นผู้ชนะ”
เอียฮั่นพยายามที่จะลุกขึ้น แต่ก็ทำได้เพียงยันมือให้ลุกขึ้นนั่งได้เท่านั้น ตัวหนังสือสี่ตัวจากร่างของก๋ายเหล่า
ค่อย ๆลอยเข้ามาในร่างของเอียฮั่น
และหลอมรวมชะตาวิญญาณทั้งเก้าดวงของเขาให้เป็นหนึ่ง
เดิมทีเขานั้นอยู่ในระดับดาราสวรรค์ขั้นที่เก้า
แต่ด้วยตัวอักษรทั้งแปดทำให้ระดับพลังของเขาค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น
จากระดับดาราสวรรค์ขั้นที่เก้า เป็นแก่นแท้แห่งสวรรค์ขั้นที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
หก เจ็ด แปด เก้า
หลังจากนั้นชะตาวิญญาณของเขาก็หลอมรวมกัน
แม้แต่ชะตาวิญญาณที่เอาเอาไปซ่อนไว้ก็กลับเข้ามาในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขา ระดับพลังของเขากำลังก้าวเข้าสู่ระดับวิถีแห่งมังกร
ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเขาค่อย
ๆ หายไป
ระดับพลังของเขาหลังจากที่ขึ้นถึงระดับวิถีแห่งมังกรก็ค่อย
ๆ เพิ่มสูงขึ้น เป็นขั้นที่สอง ขั้นที่สาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า
อีกไม่นานเมืองกลอรี่จะต้องเป็นของข้า!” เอียฮั่นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
ระดับพลังของเขาในตอนนี้เหนือกว่าเอียเซิ่งแล้ว ทำให้เขารู้สึกยินดียิ่งนัก
ฉึกก!
เสียงของมีคมที่แทงเข้าทางด้านหลังของเอียฮั่น
จนทะลุมาทางหน้าอก
“คะ...ใครกัน?” เอียฮั่นรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อที่จะหันไปมอง เขามองเห็นแพนด้าเขี้ยวอสูรที่สวมใส่กาตาร์อยู่
ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
“จะ.....เจ้าคือ
เนี่ยลี่!” เอียฮั่นพูดขึ้นมา
เขายังจดจำร่างของเนี่ยลี่ที่ผสานเข้ากับแพนด้าเขี้ยวอสูรได้
เพราะเคยเผชิญหน้ากันมาแล้วครั้งหนึ่ง
“เจ้ามัน...สุนัขลอบกัด”
เอียฮ่นพูดด้วยความเจ็บแค้น พร้อมกับกระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวด และขาดใจตาย
“กับคนเลวเช่นเจ้า
ข้าไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา” เนี่ยลี่พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
พร้อมกับดึงกาตาร์ที่แทงอยู่ออกจากหลังของเอียฮั่น
เนี่ยลี่ที่แอบดูอยู่
เมื่อเห็นว่าเอียฮั่นได้รับตัวอักษรทั้งแปดไป และระดับพลังค่อย ๆ
เพิ่มขึ้นจนถึงระดับวิถีแห่งมังกร เขาก็รีบเก็บศิลาเร้นเมฆา
และผสานเข้ากับแพนด้าเขี้ยวอสูร พร้อมกับนำกาตาร์วิญญาณออกมาใช้
พุ่งเข้ามาโจมตีทันที
เป็นเพราะเอียฮั่นประมาทเกินไป
จึงไม่ทันได้ตรวจสอบตำแหน่งของผู้สืบทอดคนสุดท้ายที่อยู่ใกล้ ๆ หากไม่เช่นนั้น
เนี่ยลี่คงจะไม่สามารถจบการต่อสู้ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
ทันใดนั้น
ร่างของเอียฮ่นก็มีตัวอักษรทั้งแปดลอยขึ้นมา
และพุ่งมารวมตัวกันที่เนี่ยลี่อย่างรวดเร็ว
“ไม่มี, ปลายทาง, เมื่อ, ไม่มี, จุดเริ่มต้น , ไม่มี, จุดเริ่มต้น, ก็, ไม่มี, จุดสิ้นสุด” มีเสียงดังก้องเข้ามาในหัวของเนี่ยลี่
โดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา ห้วงขอบเขตวิญญาณของเขา ขยายใหญ่ขึ้น
เพื่อรองรับพลังอันมหาศาลจากตัวอักษรทั้งสิบ ต้นเถาวัลย์ในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขาก็ผลิดอกออกมาอีกหลายดอก
จนทั่วต้นเถาวัลย์เต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวที่ผลิบาน
ตูมม! ตูมม! ตูมม! ตูมม!
ตูมม!
ห้วงขอบเขตวิญญาณของเนี่ยลี่ระเบิดขึ้นหลายครั้ง
ระดับพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บัดนี้เขานั้นบรรลุระดับเทพสงครามแล้ว
เหงื่อท่วมออกมาทั่วทั้งตัวของเนี่ยลี่ เขาไม่คิดเลยว่า
ตัวอักษรทั้งสิบจะมีพลังมากมายถึงเพียงนี้
“ในที่สุดข้าก็ได้พบเจอ ผู้สืบทอดที่แท้จริงของข้า
ข้าคิดเอาไว้แล้วต้องเป็นเจ้า” มีเสียงดังอยู่ในห้วงขอบเขตวิญญาณของเนี่ยลี่
“ท่านคือจักรพรรดิคงหมิงเช่นนั้นหรือ?” เนี่ยลี่ถามออกไป
แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะไม่มีแรงแม้แต่น้อย จนเกือบจะล้มลง
“ข้าคือจักรพรรดิคงหมิง ดูเหมือนร่างกายของเจ้าคงยังไม่เคยชินกับพลังมากมายถึงเพียงนี้”
เสียงนั้นตอบกลับมา
หลังจากนั้น
เนี่ยลี่ก็สลบไป
ผ่านไปราวครึ่งวัน
เอียมัว เอียเซิ่ง เห็นว่าเนี่ยลี่ยังไม่เดินทางกลับมา
จึงได้บอกเรื่องนี้แก่สหายของเนี่ยลี่ และได้ให้บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน นำทางไป
ก็ได้พบกับเนี่ยลี่ที่นอนสลบอยู่ที่พื้น
ต้วนเจี้ยนจึงอาสาอุ้มเนี่ยลี่
และเดินทางกลับไปยังตำหนักเจ้าเมือง
“ที่นี่คือที่ใดกัน?” เนี่ยลี่ได้สติขึ้นมา ในห้องที่มีแต่ความมืดมิด
“ที่นี่คือส่วนหนึ่งของห้วงขอบเขตวิญญาณของเจ้า
เมื่อเจ้าสามารถรวบรวมมรดกทั้งสิบของข้าได้
ข้าจึงปรากฏขึ้นมาในห้วงขอบเขตวิญญาณของเจ้า” เสียงของจักรพรรดิคงหมิงตอบกลับมา………………………..จบตอน