เช้าวันต่อมา เนี่ยลี่จึงรีบออกเดินทาง
ในการเดินทางคราวนี้เขาให้ชนเผ่าเมฆาสวรรค์สามคนที่เพิ่งจะทำพันธสัญญากับเขาเมื่อหนึ่งเดือนก่อนติดตามไปด้วย
เพื่อที่จะให้ทั้งสามคนโน้มน้าวชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่เหลืออยู่
“นายท่าน ข้าขอบอกแก่ท่านก่อนว่า
การที่จะให้ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่เหลือมาติดตามนายท่าน คงจะเป็นไปไม่ได้
เนื่องจากพวกเขายินดีที่จะอยู่ในพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
เพราะลูกหลานหรือสามีของพวกเขาที่ขายตนเองออกไป ในบางครั้งก็จะกลับมาเยี่ยม
หากพวกเขากลับมาและไม่พบเจอผู้ใด พวกเขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก” อวิ๋นหลาน [云蓝:เมฆสีคราม] หนึ่งในชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่เขาพามา
พูดกับเขา
“ข้าเข้าใจดี
และข้าได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้แล้ว” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับยิ้มออกไป
ในการเดินทางคราวนี้เขาก็จะมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
เมืองชายแดนพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
สองวันต่อมาเนี่ยลี่และชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งสามได้เดินทางมาถึงเขตเมืองชายแดน
เนี่ยลี่หันมาบอกแก่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งสามว่า
“พวกเจ้าทั้งสามจงกลับไปที่หมู่บ้านของพวกเจ้าและรวมรวมคนที่ยินดีที่จะติดตามข้ากลับไป
และให้พวกเขาไปรวมตัวกันในวันพรุ่งนี้ ข้ามีงานที่ต้องทำที่เมืองนี้!”
“ขอรับ” ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งสามรีบทะยานออกไป
เนี่ยลี่เลือกเขาทั้งสามมาเพราะ ครอบครัวของเขายังอยู่ที่พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด และหากพวกเขาเป็นผู้ชักชวน
จะต้องมีคนยอมติดตามไปไม่น้อย
หลังจากนั้นเนี่ยลี่ก็เดินทางไปยัง
ตำหนักที่ทำการของสมาคมการค้าหลงซี และเข้าไปหา ประธานหลิน เมื่อท่านประธานหลินได้เห็นเนี่ยลี่ก็รีบเชิญเข้าไปต้อนรับในห้องรับรองพิเศษทันที
“ไม่ทราบว่านายน้อย
มีธุระอันใดให้ข้าช่วยเหลือ จึงได้เดินทางมาเช่นนี้?”
ประธานหลินโค้งคำนับและพูดอย่างสุภาพ
“แน่นอนว่า ข้ามายังสมาคมการค้าหลงซี
ก็ย่อมต้องการซื้อสินค้า ไม่ทราบว่าท่านมีชนเผ่าเมฆาสวรรค์ให้ข้าหรือไม่?”
เนี่ยลี่พูดออกไป จริง ๆ แล้วเนี่ยลี่รู้ดีว่า
ช่วงเวลานี้ไม่อาจที่จะหาชนเผ่าเมฆาสวรรค์ได้
“น่าเสียดายยิ่งนัก นายน้อยคงไม่ทราบว่า
ในช่วงเวลานี้ของทุกปี ชนเผ่าเมฆาสวรรค์จะเก็บตัว
อีกราวสองเดือนจึงจะมีชนเผ่าเมฆาสววรค์ออกมาจากพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
เพื่อทำการซื้อขาย” ประธานหลินรู้สึกเสียดายไม่น้อย
ที่จะต้องพลาดการทำการค้าในครั้งนี้
“ข้าทราบมาว่า
สมาคมการค้าหลงซีนั้น
ปกครองการค้าในเขตชายแดนนี้ทั้งหมด ไม่ทราบว่ามีการบันทึกเอาไว้หรือไม่ว่าได้ขายชนเผ่าเมฆาสวรรค์ให้แก่ผู้ใดไปบ้าง?” เนี่ยลี่ถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ประธานหลินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ประธานหลินอย่าได้กังวล
ข้าย่อมไม่ขอให้ท่านเปิดเผยความลับของลูกค้าอยู่แล้ว
ข้าต้องการทราบว่ามีหรือไม่เท่านั้น!” เนี่ยลี่รับรู้ได้ถึงความกังวลของประธานหลินจึงรีบอธิบาย
“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็พอจะบอกได้
เรามีการบันทึกไว้ทั้งหมด ข้อมูลทั้งหมดจากทุกเมืองชายแดน
จะนำมารวบรวมไว้ที่ส่วนกลางของสมาคมการค้าหลงซี” ประธานหลินตอบกลับไป
“เนื่องจากข้าต้องการชนเผ่าเมฆาสวรรค์จำนวนมาก
ภายในเวลาหนึ่งเดือน ไม่ทราบว่าประธานหลินสามารถติดต่อไปยังลูกค้าของสมาคมการค้าหลงซี
เพื่อขอซื้อชนเผ่าเมฆาสวรรค์กลับคืนมาได้หรือไม่ ข้ายินดีที่จะซื้อจากสมาคมการค้าหลงซีในราคาสองเท่าของที่พวกท่านได้ขายออกไป
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนชรา หรือคนที่ได้รับบาดเจ็บ ข้าต้องการซื้อทั้งหมด” เนี่ยลี่มองไปที่ประธานหลินพร้อมกับพูดออกไป
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเนี่ยลี่
ประธานหลินถึงกับอ้าปากค้าง
หลายปีที่ผ่านมาสมาคมการค้าหลงซีได้ขายชนเผ่าเมฆาสวรรค์ออกไปนับพันคน
ประธานหลินรีบเปิดสมุดดูเพื่อตรวจสอบจำนวนชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งหมดที่ได้ขายออกไป
พบว่ามีถึงหนึ่งพันหนึ่งร้อยยี่สิบห้าคน หากคิดในราคาต่ำที่สุดที่ขายออกไปคือสามหมื่นศิลาจิตวิญญาณ
ต้องใช้เงินกว่าสามสิบล้านศิลาจิตวิญญาณ เป็นจำนวนเงินที่มากเสียจนสมาคมการค้าหลงซีไม่อาจที่จะรวบรวมได้
ก่อนที่ประธานหลินจะพูดอะไรออกมา
เนี่ยลี่ได้ยื่นแหวนห้วงมิติออกไป และพูดขึ้นมาว่า
“ในแหวนวงนี้มีศิลาจิตวิญญาณอยู่ห้าสิบล้านก้อน ด้วยกำลังของสมาคมการค้าหลงซี
เงินจำนวนนี้คงจะมากพอให้ท่านดำเนินการได้
หลังจากที่ซื้อพวกเขามาแล้วจงจัดหาอาหารและที่พักให้แก่พวกเขา
และหากมีคนได้รับบาดเจ็บก็จงรักษาพวกเขาให้ดี ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ท่านสามารถมาเรียกเก็บกับข้าได้ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า”
มือของประธานหลินถึงกับสั่นไหว จนแทบจะประคองแหวนเอาไว้ไม่อยู่
เงินจำนวนนี้มากพอที่จะซื้อนิกาย นิกายหนึ่งได้เลยทีเดียว
เขาพูดออกไปอย่างตื่นเต้นว่า
“สมาคมการค้าหลงซี จะไม่ทำให้คุณชายผิดหวังแน่นอน!”
“ขอบคุณประธานหลินยิ่งนัก
ไม่เพียงชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่พวกท่านจะซื้อคืนจากลูกค้าเท่านั้น หากประธานหลินมีชนเผ่าเมฆาสวรรรค์อยู่ในสมาคมการค้าหลงซี
ข้าก็ต้องการซื้อทั้งหมด”
เนี่ยลี่กำชับออกไปอีกครั้ง
ประธานหลินไม่รู้ว่าเนี่ยลี่ต้องการรวบรวมชนเผ่าเมฆาสวรรค์ไปเพื่อเหตุใด
เมื่อเนี่ยลี่ให้ราคางามถึงเพียงนี้เขาก็จะยอมขายแม้แต่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่อยู่ในมือของเขา
เพราะถึงอย่างไรในอีกสองเดือนก็จะมีชนเผ่าเมฆาสวรรค์ออกมาให้ซื้อขายเช่นเดิม นี่คือสิ่งที่ประธานหลินคิด
เนี่ยลี่ออกมาจากสมาคมการค้าหลงซีและหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อน
หลังจากนี้หนึ่งเดือน ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งหมดจะต้องไม่ตกเป็นทาสของผู้ใดอีก หลังจากนั้นเนี่ยลีก็นอนหลับไป
วันต่อมาเนี่ยลี่เดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านของชนเผ่าเมฆาสวรรค์
ดูเหมือนว่าอวิ๋นหลานและพวกสามารถชักชวนชนเผ่าเมฆาสวรรค์มาได้ถึงสองพันคน
เหลือเพียงห้าร้อยคนที่ต้องการอยู่ในพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
เนี่ยลี่ได้ทำพันธสัญญากับพวกเขาและนำพวกเขาเข้าไปอยู่ในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับในทันที
หลังจากที่กลับมาถึงนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
เนี่ยลี่พบว่าตระกูลใหญ่ทั้งสามได้ มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้แก่ หลี่ชิงอวิ๋น
กู้เบ่ย และ หลงยู่อิน ตามที่เขาได้ส่งจดหมายไป ในตอนนี้ดูเหมือนว่าตระกูลหลักทั้งสามจะยินดีเชื่อฟังคำสั่งของเนี่ยลี่โดยไร้ซึ่งข้อโต้แย้งใด
ๆ
เขาได้นำชนเผ่าเมฆาสวรรค์ออกมาหาครอบครัว
และตัวเขานั้นก็เข้าไปในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
เขามองดูต้นไม้แห่งพระเจ้าที่ได้นำเข้ามาก่อนหน้านี้
ด้วยพลังสวรรค์อันเข้มข้นทำให้มันเริ่มที่จะผลิดอกออกมา อีกไม่นานคงจะออกผลเป็นแน่
เนี่ยลี่รู้สึกยินดีไม่น้อย
“เนี่ยลี่
ข้ารออยู่ว่าเมื่อใดกันที่เจ้าจะเข้ามาข้างในนี้”
เซี่ยวหยู่บินมาหาเนี่ยลี่พร้อมกับยิ้ม
“นี่เจ้าบรรลุขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้วเช่นนั้นหรือ”
เนี่ยลี่สัมผัสได้ถึงพลังของเซี่ยวหยู่ ดูเหมือนว่านางจะได้พบกับบิดามารดาของนางแล้ว
“ราวหนึ่งเดือนก่อนหลังจากที่เจ้าออกไป
ข้าก็ได้บรรลุถึงระดับเทพสงคราม และได้รับพลังจากบิดามารดาของข้า
และได้รับรู้เรื่องราวทุกสิ่งแล้ว
บัดนี้ข้ารู้แล้วว่าข้ามีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่เพียงใด
ข้าจะช่วยเจ้ากำจัดกับจักรพรรดิปราชญ์ให้ได้” เซี่ยวหยู่พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
“และอีกเรื่อง
ข้าได้ก่อรูปให้แก่วิญญาณในกระจกวิญญาณจนใกล้จะสำเร็จแล้วอีกราวสามวัน
ข้าคิดว่าวิญญาณของคนผู้นี้จะกลับเข้าร่างได้” เซี่ยวหยู่พูดต่อ
“ขอข้าดูได้หรือไม่?” เนี่ยลี่รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ไดยินเช่นนี้
เซี่ยวหยู่นำกระจกวิญญาณออกมา ภายในกระจกวิญญาณนอกจากเส้นสายบาง ๆ
ของวิญญาณสามจุดแล้ว ยังมีร่างของชายผู้หนึ่งกำลังนอนหลับอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้นน้ำตาของเนี่ยลี่ก็รินไหลออกมา นั่นคือร่างของเอียเซิ่งไม่ผิดแน่
เขายังคงจดจำได้เป็นอย่างดี
“ดูเหมือนว่าเขาจะสำคัญกับเจ้ามาก”
เซี่ยวหยู่พูดขึ้นมา
“เขาเป็นดั่งบิดาอีกคนของข้า
ข้าฝากเจ้าดูแลเขาด้วย อีกสามวันข้าจะกลับเข้ามา”
เนี่ยลี่คืนกระจกวิญญาณให้แก่เซี่ยวหยู่พร้อมกับเช็ดน้ำตา และกลับออกไป
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคิดเอาไว้จะดำเนินไปได้ด้วยดี
ศิลาเร้นเมฆาที่เขามอบหมายให้หลี่ชิงอวิ๋นไปดำเนินการ
ดูเหมือนว่าจะตัดแบ่งออกมาได้นับแสนชิ้น
เนี่ยลี่จึงให้ทำการแจกจ่ายแก่เหล่าศิษย์ในนิกาย
ในคืนนั้น
ที่คุมขังของตระกูลผนึกมังกร
“หลงเทียนหมิง
ข้ามาตามสัญญาแล้ว” อู๋เหยี่ยนกลับมาที่ห้องคุมขังอีกครั้ง
“ข้าก็คิดอยู่ว่าท่านจะกลับมาหรือไม่”
หลงเทียนหมิงตอบกลับไป
“เจ้าตัดสินใจเช่นใด?” อู่เหยี่ยนถามอย่างตรงไปตรงมา ในเวลานี้เขาเองก็ต้องรีบดำเนินการในเรื่องนี้เช่นกัน
“ถ้าหากท่านจะร่วมมือกับข้า
จงรอให้ถึงวันที่ข้าถูกปล่อยตัวอีกเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น” หลงเทียนหมิงพูดออกไป
“ข้าไม่มีเวลามากถึงเพียงนั้น
ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ต้องหาช่องทางให้ข้าได้ติดต่อกับนิกายเทพอสูร”
อู๋เหยี่ยนพูดต่อรอง
“ที่ห้องพักของข้ามีห้องลับอยู่
ข้างในนั้นมีเหรียญตราของนิกายเทพอสูร
ท่านสามารถนำไปที่นิกายเทพอสูรและขอพบกับปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงได้
และให้เขาส่งคนมาช่วยเหลือข้าออกไป” หลงเทียนหมิงเองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
ในตอนที่เขาถูกปล่อยตัว ใครจะรู้ว่าเนี่ยลี่จะทำอะไรกับเขาอีก
เขาจำเป็นที่จะต้องหากำลังเสริมที่จะพาเขาหลบหนีออกไปได้
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปที่ห้องของเจ้า
อีกไม่นานข้าจะกลับมา” อู๋เหยียนพูดพร้อมกับเงียบหายไป
ที่ห้องพักของหลงเทียนหมิง
อู๋เหยียนตรวจสอบผนังโดยรอบและพบว่ามีกลไกของประตูลับอยู่
เมื่อเปิดเข้าไปเขาก็พบเหรียญของนิกายเทพอสูรดั่งที่หลงเทียนหมิงบอก เขาจึงรีบกลับไปยังที่คุมขังในทันที
“หลงเทียนหมิงข้าพบเหรียญที่เจ้าบอก
แล้วข้าต้องทำเช่นใด” อู๋เหยียนมาถึงและถามออกไป
“ท่านจงลอบหาทางเดินทางไปยังนิกายเทพอสูร
บอกว่าเป็นตัวแทนของหลงเทียนหมิงผู้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง พวกเขาจะให้การต้อนรับท่านเอง”
หลงเทียนหมิง ตอบกลับไป
แท้จริงแล้วหลงเทียนหมิงก็เป็นศิษย์ของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง ดังนั้น
ตอนที่อยู่ ตำหนักซีอิงเสิ่นเขาจึงสามารถกลับออกมาได้ พร้อมกับได้รับสมบัติ
ติดมือมามากมายเช่นนั้น
“ท่านประมุขเนี่ยและผู้นำตระกูลผนึกมังกร
พวกท่านได้ยินแล้วใช่หรือไม่ และเหรียญนี้ก็นับว่าเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี”
อู๋เหยี่ยนหันมาพูดกับเนี่ยลี่ หลงยู่อิน และหลงซูอวิ๋น ที่อยู่ด้านหลัง
“นี่เจ้า.....”
หลงเทียนหมิงตะโกนออกมา.................จบตอน