ทางด้านกู้เบ่ยที่เดินเข้าไปยังประตู
เส้นทางที่กู้เบ่ยเดินนั้นเป็นเพียงสะพานที่ทอดยาวไป
ด้านข้างเต็มไปด้วยมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ และมีตำหนักที่ใหญ่โตอยู่กลางมหาสมุทรนั้น
“เจ้าคงเป็นมนุษย์ที่โง่เขลา
ที่คิดจะท้าทายอำนาจท่านจักรพรรดิปราชญ์สินะ?” มีเสียงดังขึ้นมาจากพื้นน้ำที่อยู่ด้านหลังตำหนัก
พร้อมกับน้ำที่ระเบิดกระจายออกไปทั่ว ในขณะที่ร่างของอสูรตนหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมา ใบหน้าของเขานั้นมองเห็นได้ชัดว่าเป็นอสูร
ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกาย
มีเขาขนาดใหญ่อยู่บนศีรษะ ร่างกายส่วนบนของเขานั้นมีแขนไม่ต่างกับกับมนุษย์
แต่ก็ถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดที่คล้ายกับชุดเกราะไปทั่วทั้งร่าง ตรงส่วนล่างของเขามีลักษณะเป็นลำตัวของงูขนาดใหญ่
“รูปลักษณ์ของเจ้านั้นคล้ายกับเทพที่ข้านับถือ”
กู้เบ่ยพูด พร้อมกับเดินต่อไปโดยที่ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย
“ยังมีมนุษย์ที่ยังนับถือบิดาเละมารดาข้าอีกหรือนี่
ข้าคิดว่าพวกเจ้านั้นลืมเลือนพวกเขาไปแล้ว” บริวารแห่งเทพตอบกลับมา
“นี่เจ้าคือทายาทของเทพฝูฉีและเจ้าแม่หนี่วาเช่นนั้นหรือ?” กู้เบ่ยพูดด้วยความตกใจ [เทพฝูฉี 伏羲
และเจ้าแม่หนี่วา 女媧 นั้นเป็นเทพที่ชาวจีนนับถือ เทพทั้งสองมีครึ่งบนเป็นมนุษย์ส่วนครึ่งล่างเป็นงู]
“บิดาและมารดาเจ้าเป็นถึงเทพในอดีต
แต่เหตุใดเจ้าจึงลดตัวมาเป็นลูกน้องของจักรพรรดิปราชญ์เช่นนี้?” กู้เบ่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้านั้นมีนามว่าต้าเสอ
[大蛇:อสรพิษผู้ยิ่งใหญ่] หลังจากที่มารดาข้า
เจ้าแม่หนี่วาได้ช่วยอุดรูรั่วของสวรรค์ เพื่อช่วยเหลือพวกมนุษย์
แต่พวกมนุษย์กลับกล่าวหาว่ามารดาข้าเป็นผู้สร้างภัยพิบัติต่อโลกมนุษย์
และขับไล่นาง สุดท้ายบิดาและมารดาของข้าจึงกลับขึ้นสวรรค์และไม่เหลียวแลพวกมนุษย์อีกเลย เมื่อท่านจักรพรรดิปราชญ์ได้มอบโอกาสให้ข้าได้ลางแค้นมนุษย์ เหตุใดข้าจึงต้องปฏิเสธด้วยเล่า”
ต้าเสอพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่มารดาของเขาถูกพวกมนุษย์ขับไล่ด้วยความเจ็บแค้น [เนื้อหาบางส่วนนำมาจากตำนานของเจ้าแม่หนี่วา]
“ในตอนนั้น
เป็นเพราะมนุษย์รู้สึกหวาดกลัวเพราะไม่ทราบความจริง
หลังจากที่ความจริงกระจ่างชัดมนุษย์ก็ได้สร้างวิหารและเทวรูปของท่านทั้งสองเพื่อบูชากราบไหว้
แล้วมิใช่หรือ” กู้เบ่ยแย้งกลับไป
“หลังจากที่กลับขึ้นสู่สรวงสวรรค์
มารดาได้ให้กำเนิดข้าและจบชีวิตลง
ไม่นานหลังจากนั้นบิดาของข้าก็ได้ตรอมใจตามมารดาข้าไป วิหารและรูปปั้นที่ไร้ชีวิตพวกนั้นมันจะมีประโยชน์อันใดกัน?” ต้าเสอใช้หางฟาดลงพื้นมหาสมุทรด้วยความโกรธแค้น
เมื่อได้ยินคำพูดของกู้เบ่ย
กู้เบ่ยได้แต่นิ่งเงียบไป
เขาไม่มีสิ่งใดจะโต้แย้งกับคำพูดเหล่านี้
“และเมื่อไม่นานมานี้
บุตรชายข้า สุ่ยเสอที่อาศัยอยู่ที่อาณาจักรธาราสวรรค์ก็ถูกมนุษย์ผู้หนึ่งสังหาร
เจ้ายังคิดที่จะให้ข้าทำดีกับพวกมนุษย์อีกหรือ?”
ต้าเสอพูดด้วยความเจ็บแค้น เขาคิดว่าอีกไม่นานจะพาสุ่ยเสอขึ้นมาอยู่บนสรวงสวรรค์ด้วยกัน
แต่ไม่มีโอกาสเพราะจักรพรรดิปราชญ์ยังไม่ยินยอมให้เขาลงไปยังโลกเบื้องล่าง และเขาเชื่อว่าบุตรชายของเขาจะต้องถูกมนุษย์สังหาร
เพราะเขาได้มอบกระจกข้ามภพให้แก่บุตรชายของเขาไว้
กู้เบ่ยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
สุ่ยเสอคืออสูรที่เขาต่อสู้ด้วยที่อาณาจักรธาราสวรรค์
นี่คงเป็นชะตาลิขิตที่ให้เขาเลือกประตูบานนี้เป็นแน่
กู้เบ่ยนำกระบี่ธาราสวรรค์ออกมาถือในมือและเตรียมต่อสู้ทันที
“ข้าจะสังหารพวกมนุษย์ให้สิ้นซาก
เพื่อล้างแค้นให้กับ บิดามารดา และบุตรชายของข้า”ต้าเสอใช้หางของตน
สะบัดน้ำในมหาสมุทรด้วยความรุนแรง ทำให้เกิดคลื่นน้ำ พัดพาไปทางกู้เบ่ย
ซึ่งคลื่นน้ำนั้นมีสูงใหญ่หลายร้อยเมตร
“กระบี่กลืนสมุทร!” กู้เบ่ยใช้กระบี่ธาราสวรรค์ดูดซับคลื่นน้ำนั้นเข้ามาไว้ในกระบี่ จนหมด
ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีในครั้งนี้แม้แต่น้อย
“หึ
กระบี่วิเศษที่สามารถดูดซับน้ำได้เช่นนั้นหรือ?”
ต้าเสอพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีกู้เบ่ยทันที
ในมือทั้งสองข้างของต้าเสอนั้น มีดาบขนาดใหญ่อยู่สองเล่มอยู่ในมือ
ดาบเล่มหนึ่งของต้าเสอฟันลงไปที่ร่างของกู้เบ่ยทันที
ส่วนอีกข้างนั้นดูเหมือนว่าจะรอโจมตีซ้ำหากกู้เบ่ยคิดจะหลบหนี
“เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชน!” กู้เบ่ยไม่คิดที่จะหลบแม้แต่น้อย เขาสร้างเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนขึ้นมา
และถือเอาไว้ด้วยมือซ้าย เขาคิดที่จะต่อสู้ต้าเสอที่ถือดาบสองเล่มด้วยกระบี่สองมือ
เสียงกระบี่และดาบทั้งสี่เล่มปะทะกัน
จนเกิดประกายไปทั่ว มหาสมุทรที่อยู่โดยรอบเกิดความปั่นป่วน
จากพลังอันแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน แม้ว่ากู้เบ่ยจะเสียเปรียบทางด้านพลัง
แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในกระบี่ของเขาจึงสามารถต้านรับเอาไว้ได้
โดยใช้พลังที่น้อยกว่าให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด
ต้าเสอพยายามใช้หางสบัดน้ำจากมหาสมุทรโดยรอบ
ในการโจมตีกู้เบ่ย แต่ก็ถูกกระบี่ธาราสวรรค์ดูดซับไปจนหมด
ในตอนนี้ต้าเสอจึงมีเพียงดาบในมือเท่านั้นที่โจมตีได้ผล
ทางด้านกู้เบ่ยแม้จะต้านรับเอาไว้ได้
แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายจู่โจมได้เลย
เป็นเพราะการโจมตีด้วยดาบทั้งสองต้าเสอนั้นรวดเร็ว และรุนแรงเป็นอย่างมาก
จนทำให้มือทั้งสองข้างของกู้เบ่ยทำได้เพียงใช้กระบี่ปัดป้องเท่านั้น
ต้าเสอใช้หางสร้างคลื่นยักษ์ขึ้นมาอีกครั้ง
ซึ่งกู้เบ่ยก็คิดที่จะใช้กระบี่ธาราสวรรค์ดูดซับคลื่นน้ำเช้นเดิม แต่ปรากฏว่า
ในครั้งนี้หลังจากที่ดูดซับคลื่นจนหายไปหมด หางของต้าเสอกลับพุ่งเข้ามาด้วย
ซึ่งต้าเสอคิดที่จะใช้คลื่นน้ำบดบังการโจมตีนี้เอาไว้
เป้าหมายของการโจมตีในครั้งนี้อยู่ที่มือขวาของกู้เบ่ยที่ถือกระบี่ธาราสวรรค์เอาไว้นั่นเอง
หางของต้าเสอปักเข้าที่มือขวาของกู้เบ่ย
ทำให้กู้เบ่ยบาดเจ็บจนกระบี่ธาราสวรรค์หลุดมือจมไปในมหาสุทรที่อยู่โดยรอบ
กระบี่ธาราสวรรค์ที่หลุดมือไปนั้น
มิได้หลุดพ้นไปจากการควบคุมของกู้เบ่ยแต่อย่างใด กู้เบ่ยใช้ลมปราณควบคุมให้กระบี่ธาราสวรรค์ดูดซับน้ำในมหาสมุทรไปทีละนิด
เพื่อไม่ให้ต้าเสอนั้นรู้ตัว
กู้เบ่ยพยายามฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่มือขวา และใช้มือซ้ายที่มีเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนอยู่ต้านรับเพียงข้างเดียวด้วยความลำบาก
ทางด้านต้าเสอที่เห็นว่ากำลังได้เปรียบอยู่นั้นก็โหมกระหน่ำโจมตีด้วยดาบทั้งสองมือ
พร้อมกับใช้หางสร้างคลื่นน้ำอย่างต่อเนื่อง
กู้เบ่ยที่ไม่ได้ถือกระบี่ธาราสวรรค์เอาไว้ จึงไม่อาจดูดซับคลื่นน้ำเอาไว้ได้
จนทำให้ถูกคลื่นน้ำที่โหมกระหน่ำเข้ามาทำให้เสียหลัก ยิ่งรับมือดาบของต้าเสอได้ยากขึ้นไปอีก
แม้ว่ากระบี่ธาราสวรรค์จะค่อยๆ ดูดซับน้ำในมหาสมุทรโดยรอบอย่าง ๆ ช้า
เมื่อเวลาผ่านไป ต้าเสอก็รู้สึกผิดสังเกตุที่ระดับน้ำนั้นลดลง
เดิมทีเขานั้นนำน้ำจากมหาสมุทรเบื้องล่างมาไว้ที่ตำหนักของตน เพราะร่างกายที่เป็นงูของเขาต้องการความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา
“นี่เจ้าทำอะไรกับมหาสมุทรของข้า?” ต้าเสอถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจยิ่งนัก
“เจ้ารู้ตัวช้าเกินไปแล้ว
กระบี่ธาราสวรรค์ เคลื่อนย้ายวารี!”
กู้เบ่ยใช้ลมปราณควบคุมกระบี่ธาราสวรรค์ที่จมอยู่ในมหาสมุทรพุ่งเข้าปักร่างของต้าเสอในทันที
น้ำที่กระบี่ธาราสวรรค์ดูดซับเอาไว้ทั้งหมด
ถูกปล่อยเข้าไปในร่างกายของต้าเสอผ่านบาดแผลที่กระบี่ธาราสวรรค์ปักอยู่
ทำให้ร่างกายของต้าเสอ พองขึ้นจากน้ำที่ถูกปล่อยเข้าไป จนแทบจะระเบิดออกมา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีจุดจบไม่ต่างจาก
สุยเสอ บุตรชายของเจ้า” กู้เบ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
สุยเสอนั้นก็ถูกเขาทะลวงออกมาจากร่างกายที่พองโตจากพลังสวรรค์ของเขา
กู้เบ่ยคิดว่าสุยเสอคงมีสภาพที่ไม่ต่างจากต้าเสอในเวลานี้เท่าใดนัก
“หมายความว่า
เจ้าเป็นผู้สังหาร สุยเสอ บุตรชายข้าเช่นนั้นหรือ?” ต้าเสอพูดด้วยความโกรธแค้น
เขาไม่คิดเลยว่าสวรรค์จะให้โอกาสเขาได้ล้างแค้นให้กับบุตรชายโดยการส่งคนผู้นี้
มายังประตูตำหนักของเขา
“เมื่อได้รู้ความจริง
เจ้าคงไม่มีสิ่งใดติดค้างใจอีกแล้วสินะ เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนทะลวงสวรรค์!” กู้เบ่ยปล่อยเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนให้พุ่งไปโจมตีต้าเสอ
ที่ร่างกายกำลังจะระเบิดนั้น
แต่เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชน
ที่ควรจะแทงทะลุร่างของต้าเสอนั้น กลับถูกสะท้อนกลับมา
ร่างกายที่พองโตของต้าเสอนั้นไม่แตกออก แต่กลับค่อย ๆ ยุบตัวลงมา
และดูเหมือนว่าจะมีพลังเพิ่มมากขึ้นไปเสียอีก
“มิใช่เจ้าผู้เดียว
ที่สามารถดูดซับน้ำได้ น้ำคือบ่อเกิดพลังของข้า
แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการดูดซับอยู่บ้าง
แต่น้ำจากกระบี่ของเจ้านั้นเสริมพลังให้ข้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
ต้าเสอพูดขึ้นมา ในขณะที่ร่างกายของเขากลับสู่สภาพเดิม และมีพลังเพิ่มขึ้นไปอีก
ต้าเสอหยิบแหวนห้วงมิติสำหรับเก็บของขึ้นมาวงหนึ่ง
พร้อมกับดึงกระบี่ธาราสวรรค์ที่ปักร่างกายของเขาอยู่ออก และโยนเข้าไปในแหวน
กระบี่ธาราสวรรค์นั้นเป็นอาวุธวิเศษ เมื่อถูกจับแยกจากเจ้าของมันก็พยายามดิ้นรน
เพื่อที่จะทำลายแหวนออกมา แต่ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย
“กระบี่ธาราสวรรค์ของข้า”
กู้เบ่ยยังคงสัมผัสได้ถึงกระบี่ธาราสวรรค์
เขาจึงใช้พลังของตนช่วยนำทางให้กระบี่ธาราสวรรค์ออกมาจากแหวน
แต่ดูเหมือนว่าต้าเสอจะไม่ยอมให้เขาทำเช่นนั้น
“โชคดียิ่งนัก
ที่สวรรค์ให้เจ้าเลือกประตูสู่ตำหนักของข้า ทำให้ข้าได้ล้างแค้นให้กับสุยเสอ
บุตรชายคนเดียวของข้า” ต้าเสอใช้ดาบเข้าโจมตีกู้เบ่ยอีกครั้ง
โดยที่กู้เบ่ยไม่ทันสังเกตุดาบในมือของต้าเสอเหลือเพียงแค่ที่ถืออยู่ในมือขวาเท่านั้น
กู้เบ่ยใช้เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนต้านรับเอาไว้ได้
แต่ด้วยความรุนแรงจากการโจมตีของต้าเสอ ทำให้เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนกระเด็นหลุดมือกู้เบ่ยไป
ทันใดนั้น กู้เบ่ยก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมืออีกข้างของต้าเสอ
“ตรวนศิลาพันปี!” ต้าเสอนำโซ่ตรวนที่ทำจากศิลาพันปี มัดที่แขนและขาของกู้เบ่ยเอาไว้
จากนั้นเสาศิลาสี่ต้นก็ปรากฏขึ้นมาบนมหาสมุทร
ขึงร่างของกู้เบ่ยนอนราบไปกับผิวมหาสมุทร
ในตอนนี้กู้เบ่ยสามารถขยับได้เพียงแค่ข้อมือเท่านั้น
ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าใด กู้เบ่ยก็ไม่อาจที่จะหลุดจากพันธนาการได้
“เดิมทีข้าคิดที่จะให้เจ้า
ตายอย่างช้า ๆ โดยการเพิ่มน้ำในมหาสมุทรขึ้น แค่ทำให้เจ้าค่อย ๆ จมลง
แต่ดูเหมือนว่า กระบี่ธาราสวรรค์ของเจ้า ใกล้ที่จะออกมาจากแหวนได้แล้ว ข้าคงไม่มีเวลามากพอที่จะทำเช่นนั้น”
ต้าเสอเคลื่อนตัวมาอยู่ด้านบนของกู้เบ่ย พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างต่อยและทุบตีกู้เบ่ยด้วยความเจ็บแค้น
ที่สังหารบุตรชายของเขา เมื่อชกจนสาแก่ใจแล้ว ต้าเสอก็ยกดาบขึ้นเพื่อที่จะหั่นร่างของกู้เบ่ยให้เป็นชิ้น
ๆ
“เจตจำนง....แห่ง....กระบี่.....บรรพชน.....กระบี่....หมื่น...พิ...รุณ”
กู้เบ่ยที่ถูกทำร้ายจนแทบหมดสตินั้นใช้กระบวนท่าสุดท้ายด้วยกำลังทั้งหมดที่เขามี
การควบคุมเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนนั้น แค่สามารถขยับนิ้วมือได้ก็เพียงพอแล้ว โดยปกติแล้วกระบวนท่านี้จะแปรเปลี่ยนเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนให้กลายเป็นกระบี่เล่มเล็ก
ๆ ที่ร่วงลงมาราวกับหยาดฝน แต่ในครั้งนี้กู้เบ่ยส่งพลังสวรรค์ทั้งหมดออกไป
เพื่อคงสภาพให้เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชนนั้นมีขนาดใหญ่เท่าเดิม
จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลังอยู่ไม่น้อย
กู้เบ่ยรวบรวมพลังทั้งหมด
ให้เจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชน ร่วงหล่นลงมาราวกับหยาดฝนนับหมื่น จากเบื้องบน
การที่ต้าเสอถือดาบอยู่เหนือร่างของกู้เบ่ยนั้น
ทำให้ต้าเสอถูกกระบี่หมื่นพิรุณโจมตีเข้าอย่างเต็มที่ และมีกระบี่หมื่นพิรุณนับสิบเล่มที่ปักลงมาโดนร่างของกู้เบ่ย
ซึ่งก็ทำให้กู้เบ่ยได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
สภาพของต้าเสอที่ถูกกระบี่หมื่นพิรุณนับร้อยนับพันเล่มปักทั่วไปทั้งตัว
ทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก กู้เบ่ยคงสภาพกระบี่หมื่นพิรุณเอาไว้
แม้ว่าจะสิ้นเปลืองพลังเป็นอย่างมาก
แต่ก็ทำให้ต้าเสอนั้นได้รับความเจ็บปวดมากขึ้นหลายร้อยเท่า
กระบี่ธาราสวรรค์ที่อาละวาดจนสามารถทำลายห้วงมิติของแหวนออกมาได้
พุ่งตรงไปยังหน้าของต้าเสอ ที่ไม่อาจปกป้องตัวได้ ทำให้ต้าเสอค่อย ๆ
ล้มลงและหมดลมหายใจไปในที่สุด
กระบี่หมื่นพิรุณนั้นค่อย
ๆ จางหายไป
เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณของต้าเสอที่ถูกกระบี่ธาราสวรรค์ที่ปักอยู่ที่หน้าอกของเขาเท่านั้น
ในตอนนี้กู้เบ่ยยังคงถูกตรวจศิลาพันปีล่ามเอาไว้
เขาไม่มีแรงมากพอที่จะทำลายมันได้ ดวงตาของกู้เบ่ยก็ค่อย ๆ ปิดลง
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องพักฟื้นพลังในสภาพเช่นนี้ไปก่อน
ขณะที่ห้วงมิติของตำหนักนี้ค่อย ๆ พังลงไป.............จบตอน