หลงยู่อินที่เดินผ่านประตูเข้าไป
เบื้องหน้าของนางเป็นเส้นทางที่ทอดยาวออกไป
ปลายเส้นทางนี้ราวกับว่ามิได้อยู่ในตำหนัก แต่เป็นเหมือนทุ่งหญ้ากว้าง ๆ
ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
ห่างออกไปไม่ไกลนัก มีคนในชุดคลุมนั่งอยู่บนก้อนหิน
แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของเอาแต่กลิ่นอายลมปราณที่แผ่ออกมานั้น
ก็ทำให้หลงยู่อินรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
“ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้ฆ่ามนุษย์
ก็คงจะเป็นหญิงสาวในชุดขาวที่มีท่าทางเย็นชา
แม้จะถูกสังหารก็ไม่ปริปากอ้อนวอนข้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้ข้ารู้สึกน่าเบื่อยิ่งนัก”
เสียงดังออกมาจากใต้ผ้าคลุม
“มนุษย์ที่เจ้าสังหารนั้นเป็นใครกัน”
หลงยู่อินถามออกไป แม้ว่านางไม่ต้องการที่จะรู้เท่าใดนัก
“นางผู้นั้นมีนามว่า อิงเยว่ลู่
นายเหนือหัวของข้า ท่านได้ตรวจสอบชะตาของนาง
แล้วคิดไปว่านางนั้นอาจจะเป็นจักรพรรดิคงหมิงกลับชาติมาเกิด จึงให้ข้าลงไปตรวจสอบ
แต่ก็พบว่านางนั้นแอบเปลี่ยนแปลงชะตาของตนเองทำให้นายของข้าตรวจสอบโชคชะตาผิดพลาดไป
ข้าจึงทำการสังหารนางซะ” เสียงภายใต้ผ้าคลุมตอบกลับมาพร้อมหัวเราะ
หลงยู่อินรู้สึกตกใจยิ่งนัก
นางไม่ทราบมาก่อนว่าศิษย์พี่ของนางนั้นได้ถูกบริวารแห่งเทพสังหาร เนี่ยลี่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับผู้ใด
“ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอขอบใจเจ้าแล้ว”
หลงยู่อินหยิบ มีดเขี้ยวมังกรเพลิง และ มีดเขี้ยวมังกรอัสนีมาไว้ในมือและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ขอบใจเช่นนั้นหรือ
พวกมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ชอบขัดแย้งกันเอง ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้รับขอบคุณจากมนุษย์ที่ข้านั้นสังหารมนุษย์อีกคนลงไป”
บริวารแห่งเทพตอบกลับมาอีกครั้ง
“ที่ข้าขอบใจเจ้า
หาใช่ว่าเพราะเจ้าสังหารนาง แต่ข้าขอบคุณที่เจ้าทำให้ข้าได้มีโอกาสล้างแค้นให้นาง
ในอดีตข้าเคยทำผิดต่อนางไม่น้อย
ข้าจะชดใช้ด้วยการสังหารเจ้าซะ อสูรชั่ว!”
หลงยู่อินตะโกนออกไปพร้อมกับใช้ มีดเขี้ยวมังกรเพลิงแทงเข้าที่คอของบริวารแห่งเทพทันที
กึก!
เสียงของมีดเขี้ยวมังกรเพลิง
ที่ไม่อาจปักผ่านผิวหนังของบริวารแห่งเทพได้ และร่างกายของบริวารแห่งเทพค่อย ๆ
ขยายใหญ่ขึ้น
ร่างกายของบริวารแห่งเทพใหญ่โตขึ้นไปกว่าร้อยเมตร
ใบหน้าของเขาดุดันและมีใบหน้าอยู่ถึงสามใบหน้า ที่ปากของเขาก็มีเขี้ยวขนาดใหญ่ ภายใต้ชุดสีเงินและเกราะสีดำที่ตัดกัน ทำให้น่าเกรงขามยิ่งนัก มีแขนทั้งหมดหกข้าง
และในมือของมันนั้นถือหอกขนาดใหญ่ ทำให้หลงยู่อินรู้สึกถึงความน่ากลัว
“ซะ...ซิวหลัว” [อสูรที่มีหกแขน ที่รู้จักกันในชื่อ อาชูรา] หลงยู่อินเผลอเรียกชื่ออสูรในตำนานออกมา
“ผู้คนมักเรียกขานข้าด้วยนามนั้น
และข้าก็ไม่ได้รังเกียจเช่นกัน” ซิวหลัวแทงหอกขนาดใหญ่ของเขาลงพื้นดิน
หลงยู่อินที่ขนาดเล็กกว่านับร้อยเท่า ต้องรีบบินหลบหนี ในสายตาของซิวหลัวนั้น
ในตอนนี้หลงยู่อินก็ไม่ต่างไปจากแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น
เสียงพื้นดินแตกกระจาย
เศษหินที่พุ่งไปทั่วทิศทางนั้น ที่พื้นพลายเป็นหลุมขนาดใหญ่หลงยู่อินเข้าใจได้ในทันทีว่า
สถานที่นี้เป็นมิติที่ถูกแยกออกมาจากตำหนักที่นางผ่านเข้ามา
หลงยู่อินที่พยายามหลบก้อนหินอยู่นั้น
ถูกมือข้างหนึ่งของซิวหลัวคว้าเอาไว้ แม้ว่านางจะใช้มีดเขี้ยวมังกรเพลิง และ
มีดเขี้ยวมังกรอัสนีแทงที่มือของซิวหลัว แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของซิวหลัวนั้น
การใช้มีดแทงก็ไม่ต่างจากการที่ถูกเข็มเล็ก ๆ ทิ่มแทงเท่านั้น
“การสังหารเจ้านั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก”
ซิวหลัวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
เขาคิดว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะทำให้เขาสนุกได้บ้าง
แต่ดูเหมือนว่าจะจบลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
“การต่อสู้ยังไม่จบ ซิวหลัว!” หลงยู่อินตะโกนกลับไป นางนั้นเป็นถึงผู้นำตระกูลผนึกมังกร
นางย่อมไม่ยอมให้การต่อสู้จบลงเช่นนี้เป็นแน่
“อัญเชิญเทพมังกร!” หลงยู่ยินเรียกเทพมังกรออกมา
ร่างกายของเทพมังกรเป็นดั่งเงาร่างที่สามารถมองทะลุผ่านไปได้ โดยร่างของเทพมังกรนั้นห่อหุ้มร่างกายของนางเอาไว้
นี่คือวรยุทธลึกลับที่มีเพียงผู้นำตระกูลผนึกมังกรเท่านั้ที่จะได้รับสืบทอดตำรามา
แต่ในหลายพันปีที่ผ่านมาหลงยู่อินเป็นผู้เดียวที่สามารถฝึกได้สำเร็จเมื่อไม่นานมานี้
และนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ใช้ในการต่อสู้
ร่างกายของเทพมังกรนั้นก็มีขนาดใหญ่โตหลายสิบเมตร
หลงยู่อินสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของเทพมังกรได้จากภายในร่างกาย
ที่เป็นดั่งเกราะที่ปกป้องนางไว้อีกชั้นหนึ่ง
หลงยู่ยินเปลี่ยนมีดเขี้ยวมังกรเพลิง
และ มีดเขี้ยวมังกรอัสนีกลายเป็นเขี้ยวทั้งสองข้างของเทพมังกร
ทำให้สามารถโจมตีได้รุนแรงมากขึ้น
ซิวหลัวเมื่อเห็นภาพของเทพมังกรที่อยู่ตรงหน้า
ก็ใช้หอกขนาดใหญ่ในมือแทงไปที่ทำตัวของเทพมังกรทันที
แต่ในตอนนี้เทพมังกรสามารถเคลื่อนไหวได้ในอากาศได้ดั่งใจ
หลงยู่อินควบคุมให้เทพมังกรหลบการโจมตีจากหอกของซิวหลัวได้ไม่ยากเท่าใดนัก
“เทพมังกรสะบัดหาง!” หลงยู่อินม้วนตัวและใช้หางของเทพมังกรพาดเข้าที่ใบหน้าของซิวหลัว
ทำให้ซิวหลัวแทบล้มลงไป แต่ก็ใช้หอกขนาดใหญ่ในมือค้ำเอาไว้ได้
“เจ้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจ
บังอาจเกินไปแล้ว” ซิวหลัวตะโกนด้วยความเจ็บแค้น ร่างกายของซิวหลัวค่อย ๆ
แยกออกเป็นสามร่าง และในแต่ละร่างจะเหลือแขนเพียงสองข้างเท่านั้น
รวมถึงขนาดที่เล็กลงจนเหลือขนาดไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น
ส่วนหอกขนาดใหญ่ที่ถือเอาไว้ในตอนแรกนั้นก็หายไป
ในขณะที่หลงยู่อินกำลังตกใจอยู่นั้น
ซิวหลัวร่าวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาต่อยที่ใบหน้าของเทพมังกรอย่างรุนแรง
ส่งผลให้หลงยู่อินที่อยู่ด้านในได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ทำให้ซิวหลัวรู้ถึงจุดอ่อนของหลงยู่อินทันที อาการบาดเจ็บของเทพมังกรจะส่งผลถึงร่างกายของหลงยู่อินที่เป็นผู้ควบคุมร่างเทพมังกรอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้น
ซิวหลัวทั้งสามร่างจึงเข้ามาโจมตีร่างของเทพมังกรพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง
นั่นก็ทำให้หลงยู่อินได้รับบาดเจ็บไม่น้อย นางรู้สึกเจ็บแค้นเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนหรือโจมตีสวนกลับไปเท่าใด แต่การถูกโจมตีพร้อมกันสามทิศทางก็ทำให้รับมือได้ไม่ง่ายนัก
หลงยู่อินเริ่มควบคุมให้เทพมังกรโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ยิ่งการโจมตีเต็มไปด้วยโทษะ ก็ยิ่งไม่มีความซับซ้อน
ทำให้ซิวหลัวสามารถหลบการโจมตีของเทพมังกรได้ไม่ยากนัก
ซิวหลัวร่างหนึ่งบุกเข้าไปประชิดตัวและจับหางของเทพมังกรเอาไว้
พร้อมกับเหวี่ยงไปโดยรอบ ก่อนที่จะฟาดลงไปกับพื้น
หลงยู่อินที่อยู่ในร่างเทพมังกรก็ได้รับบาดเจ็บจนกระอักเลือดออกมา
ดวงตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น นางต้องการที่จะล้างแค้นให้แก่อิงเยว่ลู่
แต่กลับต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ สิ่งที่นางรู้สึกโกรธแค้นมากที่สุดในเวลานี้
ก็คือตัวของนางเอง
“บริสุทธิ์ดั่งสายนที
เพราะวารีนั้นไม่แข่งขัน”
เสียงคำสอนของคนผู้หนึ่งล่องลอยเข้ามาให้ความคิดของหลงยู่อิน ในตอนนี้ราวกับว่าสายธารแห่งเวลาได้หยุดลงไปชั่วขณะ
“ศิษย์พี่!” หลงยู่อินพูดขึ้นมา นางยังคงจดจำน้ำเสียงของอิงเยว่ลู่ได้เป็นอย่างดี
“ศิษย์น้องผู้โง่เขลา
เหตุใดเจ้าจึงต่อสู้ด้วยความเคียดแค้นเช่นนี้”
อิงเยว่ลู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“หากไม่ใช่ความโกรธแค้นเข้าต่อสู้
แล้วข้าจะใช้สิ่งใดได้?” หลงยู่อินแย้งกลับไป ที่นางโกรธแค้นอยู่นี่ก็เป็นเพราะ
ซิวหลัวนั้นเป็นผู้สังหารอิงเยว่ลู่มิไช่หรือ
หากนางไม่รู้สึกเจ็บแค้นก็คงจะไม่คิดที่จะล้างแค้นให้อิงเยว่ลู่เป็นแน่
เมื่อได้ยินคำโต้แย้งของหลงยู่อิน
อิงเยว่ลู่ก็ได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดู
มัว่าก่อนหน้านี้ความสัมพันธุ์ระหว่างนางและหลงยู่อินจะไม่ดีเท่าใดนัก
เป็นเพราะหลงยู่อินคิดว่า นางนั้นเป็นผู้ที่ทำให้อาจารย์ของนางต้องจบชีวิตลง
แต่หลังจากที่ได้พบกับเนี่ยลี่ และได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากนาง ก็ทำให้หลงยู่อิน
กลับมานับถือนางอีกครั้ง
“หากเจ้าเอาชนะด้วยความโกรธแค้น
แม้จะเป็นฝ่ายที่ได้ชัยชนะ แต่ใจเจ้าก็ไม่อาจสงบ เจ้าไม่จำเป็นต้องแก้แค้นให้ข้า
จงรับรู้เพียงแค่ว่า นี่คือการต่อสู้ของเจ้า ดับความเร่าร้อนของความแค้น
และใช้ความสงบเข้าต่อสู้ แล้วพลังที่แท้จริงของเจ้าจะปรากฏออกมา” อิงเยว่ลู่พูดจบ
ร่างของนางก็ค่อย ๆ สลายไป นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของเจตจำนงที่นางเหลือทิ้งเอาไว้
ด้วยความเป็นห่วงหลงยู่อินนั่นเอง
หลงยู่อินลืมตาขึ้นมา
ด้วยความตกใจในตอนนี้ร่างของเทพมังกรยังคงจมพื้นดินอยู่ นางพยายามครุ่นคิดถึงภาพที่ได้เห็นก่อนหน้านี้
จิตใจของนางค่อย ๆ สงบลงดวงตาของนางจับจ้องไปยังซิวหลัวทั้งสามร่างที่บินอยู่เบื้องบน
“เขี้ยวมังกรอัสนี!” หลงยู่อินใช้พลังของมีดเขี้ยวมังกรอัสนี
แปรเปลี่ยนให้เทพมังกรราวกับเป็นมังกรอัสสี มีสายฟ้าเป็นประกายอยู่โดยรอบ
“ศิษย์พี่ บัดนี้จิตใจข้านั้นสงบแล้ว
ข้าจะทำตามคำสอนของท่าน” หลงยู่อินพูดขึ้นมาพร้อมกับควบคุมให้เทพมังกร
เมื่อผสานเข้ากับพลังของเขี้ยวมังกรอัสนีทำให้การเคลื่อนไหวของ
เทพมังกรนั้นรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก แค่พริบตา
เทพมังกรก็ปรากฏอยู่ด้านหลังของซิวหลัวร่างหนึ่งทันที
เขี้ยวของเทพมังกรกัดลงที่คอของซิวหลัวร่างหนึ่ง
และพลังสายฟ้าจากเขี้ยวอัสนี ก็ไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของซิวหลัว
ทำให้ร่างนั้นระเบิดออกจากภายใน จนชิ้นส่วนของร่างกายของซิวหลัวกระจายไปทั่วพื้น
ในขณะที่ซิวหลัวอีกสองร่างนั้นยังคงตกใจอยู่
หลงยู่อินก็ควบคุมให้เทพมังกรใช้ลำตัวบีดรัดร่างหนึ่งของซิวหลัวเอาไว้
และแปรเปลี่ยนพลังของเทพมังกรด้วยเขี้ยวอัคคี
ทำให้เกล็ดของเทพมังกรแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงชาดและมีเปลวไฟลุกโชนขึ้น
ทำให้ร่างของซิวหลัวนั้นลุกไหม้ และถูกเผาไปจนเหลือแค่เถ้าธุลีเท่านั้น
ซิวหลัวร่างสุดท้าย
มองดูร่างทั้งสองถูกสังหารไปด้วยความเจ็บแค้น หอกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาในมือของซิวหลัวอีกครั้ง
“ตายไปซะ เจ้ามนุษย์โสโครก!” ซิวหลัวตะโกนขนะที่แทงหอกไปที่หัวของเทพมังกร
วูบ!
ร่างของเทพมังกรสลายไปก่อนที่จะสัมผัสกับหอกของซิวหลัว
หลงยู่อินนั้นสลายเทพมังกรที่อัญเชิญมา ในขณะที่มือทั้งสองข้างของนางก็ถือหยิบ
มีดเขี้ยวมังกรเพลิง และ มีดเขี้ยวมังกรอัสนีเอาไว้
“มังกรเพลิงอัสนีเคลื่อนสวรรค์!”
หลงยู่อินถือมีดเขี้ยวมังกรทั้งสองเล่มและหมุนตัวพุ่งเข้าโจมตีซัวหลิวทันที รอบ ๆ
ร่างกายของนางที่พุ่งโจมตีไปนั้นห่อหุ้มด้วยเพลิงอัสนีที่มีทั้งความรวดเร็วและร้อนแรง
พุ่งทะลุผ่านร่างของซัวหลิวไป
ร่างกายของซัวหลิวนั้นถูกเผาไปด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง
และระเบิดออกมาด้วยพลังอัสนี และจบชีวิตไปในทันที
หลงยู่อินยังคงยืนอยู่อย่างสงบ
ด้วยร่ายกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล นางเข้าใจแล้วว่า
การต่อสู้คือการมุ่งเอาชนะศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า
และต้องทิ้งบุญคุณความแค้นเอาไว้เบื้องหลัง หากต่อสู้ด้วยความสับสน
ก็ไม่อาจเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งได้
เมื่อซิวหลัวตายไป
พื้นที่โดยรอบก็ค่อย ๆ แตกสลายไป
ห้วงมิตินี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นจากพลังของซิวหลัว
ดังนั้นมันย่อมแตกสลายไปพร้อมกับชีวิตของซิวหลัว
หลงยู่อินเห็นเช่นนั้นจึงเริ่มมองหาประตูทางออก แต่ดูเหมือนว่านางจะใช้พลังในการต่อสู้มากเกินไป
ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่สะดวกนัก และสติของนางก็ค่อย ๆ
เลือนหายไป.................จบตอน