test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

30 ม.ค. 2560

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.96 จอมมารปรากฏ





          แม้ว่าเนี่ยลี่จะสามารถบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้แล้ว แต่ด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้เนี่ยลี่นั้นขาดสติ พุ่งเข้าจู่โจมจักรพรรดิปราชญ์ในทันที โดยการฟันกระบี่เทพอัสนีดาวตกออกไป


          “เจ้าต้องขอบใจข้า ที่ทำให้เจ้าบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้ แต่กระบี่ของเจ้านั้น มันน่ารำคาญยิ่งนัก” จักรพรรดิปราชญ์พูดพร้อมกับใช้มือฟันไปทางด้านหน้า คลื่นลมปราณจากมือของเขา พุ่งออกไปตัดแขนของเนี่ยลี่ขาดในทันที กระบี่เทพอัสนีดาวตกก็ร่วงหล่นไปพร้อมกับแขนที่ถูกตัดขาด เนี่ยลี่ร้องด้วยความเจ็บปวด


          “เนี่ยลี่ข้าจะรักษาให้เจ้าเอง” กู้หลานรีบพุ่งเข้าไปเพื่อใช้ลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บของเนี่ยลี่ แต่จักรพรรดิปราชญ์ก็เคลื่อนที่มาทางด้านหลังของกู้หลานอย่างรวดเร็ว


          “เทพโอสภ ผู้มีพลังในรักษา ความสามารถของเจ้าเองก็น่ารำคาญไม่ต่างกัน” จักรพรรดิปราชญ์ใช้มือแทงทะลุหน้าอกของกู้หลาน เลือดสีแดงฉานกระจายไปทั่ว


          “ท่านพี่!” กู้เบ่ยตะโกนออกไปด้วยความโกรธ พร้อมกับผสานเจตจำนงกระบี่แห่งบรรพชนเข้ากับกระบี่ธาราสวรรค์ เข้าโจมตีจักรพรรดิปราชญ์ทันที


          “บรรลุเจตจำนงกระบี่แห่งบรรพชน ด้วยอายุเพียงเท่านี้ นับว่ามีพรสวรรค์ยิ่งนัก แต่ด้วยระดับพลังเพียงเท่านี้ ก็ยังนับว่าอ่อนหัด” จักรพรรดิปราชญ์พูดพร้อมกับปล่อยพลังจากฝ่ามือกระแทกเข้าร่างกู้เบ่ยที่กำลังโจมตีเข้ามา ทำให้กู้เบ่ยถูกกระแทกกลับไปพร้อมกับบาดเจ็บอย่างหนัก


          เนี่ยลี่ที่บาดเจ็บอยู่นั้นจ้องมองเหล่าสหายที่กำลังถูกเล่นงานทีละคน เขารู้สึกเจ็บแค้นยิ่งนัก แม้ว่าจะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่เขาก็ไม่อาจปกป้องใครได้ 


          หลี่ชิงอวิ๋นและหลงยู่อิน ที่ได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่แรกนั้น ก็เริ่มที่จะเพลี่ยงพล้ำให้แก่บริวารแห่งเทพ แค่เพียงไม่กี่กระบวนท่า ทั้งสองคนก็ลงไปนอนกับพื้น


          เทพธิดายู่หยาน ที่สามารถบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้แล้ว แต่เมื่อเทียบกับบริวารแห่งเทพแล้ว ระดับพลังของเทพธิดายู่หยานนั้นก็ไม่ต่างไปจากทารกที่หัดเดินเท่านั้น


          “ต้วนเจี้ยน ปกป้องทุกคนด้วย” เนี่ยลี่ตะโกนออกไป ระหว่างที่กำลังฟื้นฟูแขนที่ถูกตัดขาดไป


          “เทพแห่งนักรบ ผู้สืบสายเลือดแห่งมังกรทมิฬ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม แต่เจ้าเพียงผู้เดียวจะสามารถทำสิ่งใดได้” จักรพรรดิปราชญ์สั่งหารให้บริวารแห่งเทพ เข้ามาโจมตีต้วนเจี้ยน พร้อมกันหลายทิศทาง ความแข็งแกร่งของบริวารแห่งเทพนั้น ทุกตนล้วนมีระดับพลังเหนือกว่าระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นที่ห้า หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว ต้วนเจี้ยนก็อาจจะพอรับมือได้ เมื่อมีศัตรูมากกว่าหนึ่งต้วนเจี้ยนก็ไม่อาจที่จะต้านเอาไว้ได้


          บริวารแห่งเทพคนแรกโจมตีเข้าที่ด้านหลังที่เป็นจุดบอดของต้วนเจี้ยน คนต่อมาก็ซัดฝ่ามือกระแทกที่หน้าอกของเขา ทำให้ต้วนเจี้ยนได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง และลงไปนอนอยู่กับพื้น


          ทางด้าน เว่ยหนาน จางหมิง ซูเซียงจิ้ง ที่ร่วมมือกันต่อสู้กับบริวารแห่งเทพตนหนึ่ง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ต้านรับเอาไว้เท่านั้น เมื่อบริวารแห่งเทพคนอื่น ๆ จัดการคนอื่น ๆ ได้สำเร็จก็เริ่มเข้ามาร่วมต่อสู้ เมื่อทั้งสามคนถูกแยกออกจากกัน ความห่างชั้นของพวกเขาแต่ละคนกับบริวารแห่งเทพก็ปรากฏอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ต่อสู้ตัวต่อสู้เพียงไม่กี่กระบวนท่า ทั้งสามคนก็ต้องพบกับจุดจบ


          “นี่มันบ้าอะไรกัน?” เนี่ยลี่ตะโกนด้วยความเจ็บแค้น เขาหันไปมองเหล่าสหายที่ถูกโจมตีลงไปนอนกับพื้นที่ไม่รู้เลยว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และสหายอีกหลายคนที่ถูกสังหารต่อหน้าของเขา


          ในตอนนี้ที่ยังคงต่อสู้อยู่มีเพียง ตู่ซื่อ ฮวาหั่ว ลู่เพียว เซี่ยวซุ่ย เอียจื่ออวิ๋น เหยียนหยาง และหมิงเยี่ยวู่ซวง เท่านั้น ส่วนเทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงนั้นเพียงแค่ยืนมองการต่อสู้เฉย ๆ เท่านั้น


          ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่าทำให้การต่อสู้ของแต่ละคนจบลงอย่างรวดเร็ว ฮวาหั่ว เซี่ยวซุ่ย หมิงเยี่ยวู่ซวง และเหยียนหยาง ทั้งสี่คนถูกสังหารต่อหน้าคนที่เหลือ ตู่ซื่อและลู่เพียวนั้นร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด ที่คนรักของพวกเขาถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด


          เนี่ยลี่ ตู่ซื่อ ลู่เพียว เอียจื่ออวิ๋น ถอยมารวมตัวกันเพื่อตั้งหลักอีกครั้ง เอียจื่ออวิ๋นนั้นยืนอยู่ด้านหลังเนี่ยลี่ที่ยังฟื้นฟูแขนที่ถูกตัดขาดไปไม่สำเร็จ


          “ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรพาพวกเจ้ามาพบกับจุดจบเช่นนี้” เนี่ยลี่พูดออกมาด้วยความเจ็บแค้นที่ตนเองนั้นคิดว่า เรื่องทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนที่ได้วางเอาไว้


          “ข้าไม่เคยเสียใจที่ได้เป็นพี่น้องกับเจ้า จื่ออวิ๋นพาเนี่ยลี่หนีไปซะ พวกข้าจะถ่วงเวลาเอาไว้ให้เอง” ตู่ซื่อและลู่เพียวพูดพร้อมกับทะยานออกไปต่อสู้


          “พวกเจ้าอย่าทำเช่นนั้น” เนี่ยลี่ตะโกนห้าม แต่ช้าเกินไป เอียจื่ออวิ๋นตัดสินใจที่จะสกัดจุดเนี่ยลี่เอาไว้ ทำให้เนี่ยลี่ไม่อาจขัดขืนได้และพาเขาบินหนีไป


          “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าหนีไปหนึ่งก้านธูป โดยข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าทั้งสองไปก่อน” บริวารแห่งเทพพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา


          “พวกข้าไม่ใช่ของเล่นของเจ้า” ตู่ซื่อพยายามผสานเข้ากับกิเลนฟ้าตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ ราวกับว่ากิเลนฟ้าในตอนนี้กำลังจำศีลอยู่ ทำให้ตู่ซื่อต้องต่อสู้ด้วยกำลังกายของตนเองเท่านั้น


          ทางด้านเอียจื่ออวิ๋นที่พาเนี่ยลี่บินหลบหนีไป ด้วยความเร็วสูงสุด แต่เป็นเพราะสภาพโดยรอบมีเพียงทะเลทราย นางจึงทำได้เพียงบินไปโดยไร้ทิศทางเท่านั้น


          ตู่ซื่อและลู่เพียวช่วยกันต่อสู้กับจักรพรรดิปราชญ์ แต่เขาก็ปัดป้องการโจมตี้ได้ราวกับว่ากำลังปัดแมลงอยู่เท่านั้น ดูเหมือนว่าจักรพรรดิปราชญ์จะต้องการฆ่าเวลาระหว่างที่รอให้เอียจื่ออวิ๋นพาเนี่ยลี่หลบหนีไปเท่านั้น


          “เจ้าเลิกเล่นสนุกได้แล้ว” เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงที่ยืนดูการต่อสู้พูดขึ้นมา


          “เจ้าดูออกด้วยเช่นนั้นหรือสหายข้า” จักรพรรดิปราชญ์พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา


          “นี่เจ้าเป็นใครกันแน่?” ลู่เพียวถามด้วยความสงสัย


          “หุบปากไปซะ!” จักรพรรดิปราชญ์ซัดฝ่ามือไปที่ลู่เพียว เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็ทำให้เขาหมดสติไปทันที


          “ลู่เพียว!” ตู่ซื่อมองดูสหายที่ถูกจัดการไปได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเจ็บแค้น แต่เขาก็ไม่อาจสัมผัสร่างกายของจักรพรรดิปราชญ์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว


          “เจ้าก็จงหลับไปซะ!” เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงใช้ฝ่ามือฟันตรงส่วนคอด้านหลังของตู่ซื่อ ทำให้เขาหมดสติไปในทันที


          “ทางด้านนี้ข้าจะให้เจ้าจัดการ ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าแมลงสองตัวที่หนีไปก่อน” จักรพรรดิปราชญ์พุ่งทะยานตามเอียจื่ออวิ๋นและเนี่ยลี่ไปในทันที


          ทางด้านเทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงก็นำร่างของทุกคนมารวมกันไว้ จากนั้นก็เริ่มทำอะไรบางอย่างอย่าง และในขณะเดียวกันร่างของบริวารแห่งเทพทั้งสิบก็ค่อย ๆ จางหายไป


          เอียจื่ออวิ๋นพยายามมองหาที่ซ่อนตัว แต่ไม่ว่ามองไปทางใดก็มีเพียงแต่ผืนทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตาเท่านั้น


          แค่เพียงไม่นาน จักรพรรดิปราชญ์ก็ตามมาถึง การที่ได้เห็นทั้งสองคนพยายามหลบหนี ทำให้จักรพรรดิปราชญ์รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก


          “มาได้เพียงเท่านี้เองหรือ?” จักรพรรดิปราชญ์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ทำให้เอียจื่อวิ๋นรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งใจ


          “กำแพงน้ำแข็ง!” เอียจื่ออวิ๋นสร้างกำแพงน้ำแข็งกั้นขวางเอาไว้ จักรพรรดิปราชญ์บินมาอยู่เบื้องหน้ากำแพงน้ำแข็ง และดีดนิ้วลงไปบนกำแพงเบา ๆ กำแงพน้ำแข็งของเอียจื่ออวิ๋นก็แตกกระจายออกเป็นเศษน้ำแข็งเท่านั้น


          “จื่ออวิ๋น คลายจุดให้ข้า” เนี่ยลี่รวบรวมพลังเพื่อพูดออกไป เขานั้นถูกสกัดจุดทำให้เคลื่อนไหวและส่งเสียงไม่ได้ การพยายามฝืนคลายจุดเพื่อให้ส่งเสียงได้ เนี่ยลี่ก็ต้องใช้พลังไปไม่น้อย


          “ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง กำแพงน้ำแข็งนิรันดิ์” เอียจื่ออวิ๋นโอบกอดเนี่ยลี่เอาไว้และใช้พลังทั้งหมดสร้างก้อนน้ำแข็งขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายของเนี่ยลี่ น้ำแข็งนี้มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องร่างกายของเนี่ยลี่เอาไว้นับปี นางเชื่อว่าจักรพรรดิปราชญ์เองก็ไม่สามารถทำลายน้ำแข็งนิรันดิ์ได้


          เอียจื่ออวิ๋นใช้พลังชีวิตทั้งหมดสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องเนี่ยลี่เอาไว้ เพราะนางเชื่อว่าในภายภาคหน้าเนี่ยลี่จะต้องสามารถหาหนทางเอาชนะจักรพรรดิปราชญ์ได้


          จักรพรรดิปราชญ์มองดู เอียจื่ออวิ๋นที่กำลังสละชีวิต ทำให้เขาเผยรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมา เขาเข้าไปกระชากคอเสื้อของเอียจื่ออวิ๋นที่กำลังจะหมดสติไปขึ้นมา


          “จักรพรรดิปราชญ์ จงปล่อยนางซะ!” เนี่ยลี่ส่งเสียงผ่านลมปราณออกไป ในตอนนี้เขาไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย


          “เหตุใดข้าจึงต้องฟังคำสั่งของเจ้าเต่า ที่มุดหัวอยู่ในก้อนน้ำแข็งเช่นเจ้าด้วย” จักรพรรดิปราชญ์ตอบกลับไป


          เขาโยนเอียจื่ออวิ๋นขึ้นไปบนฟ้า และปล่อยให้นางร่วงลงไปมา ที่มือที่เขาชูขึ้นไปด้านบน ร่างของนางหล่นลงมาและถูกแขนของจักรพรรดิปราชญ์แทงทะลุร่างของนางในทันที ตอนนี้ร่างของจักรพรรดิปราชญ์นั้นเต็มไปด้วยเลือดของเอียจื่ออวิ๋น


          “จื่ออวิ๋น!” เนี่ยลี่ตะโกนออกมา พลังของเขาปะทุขึ้นมาอีกรอบ ก้อนน้ำแข็งของเอียจื่ออวิ๋นที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาอยู่นั้นค่อย ๆ แตกออก แม้จะเป็นน้ำแข็งที่เย็นเฉียบ แต่เนี่ยลี่ก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของเอียจื่ออวิ๋นเป็นอย่างดี เขาจะไม่ยอมอยู่ในก้อนน้ำแข็งในขณะที่ทุกคนต้องสละชีวิตเช่นนี้


          “สามารถเลื่อนระดับพลังได้แม้อยู่ในสภาพเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำให้ข้าไม่ผิดหวังนะ” จักรพรรดิปราชญ์พูดพร้อมกับโยนร่างของเอียจื่ออวิ๋นไปให้เนี่ยลี่


          “ในชีวิตที่แล้วข้าไม่อาจปกป้องเจ้าได้ ข้าไม่คิดเลยว่าแม้แต่ในชีวิตนี้ข้าก็ต้องสูญเสียเจ้าไปเช่นนี้” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา เป็นเพราะนางใช้พลังวิญญาณไปจนหมด ทำให้นางไม่อาจฟื้นคืนชีพได้ แม้ว่าจะฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่เขาได้ถ่ายทอดไว้ให้


          “จงสำนึกในความอ่อนหัดของเจ้า ด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้ไม่อาจปกป้องผู้ใดได้ หากเจ้าจะโกรธแค้น ก็จงโกรธตนเองมิใช่โกรธแค้นข้า” จักรพรรดิปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา


          เนี่ยลี่อุ้มจื่ออวิ๋นไปวางไว้บนพื้นอย่างอ่อนโยน ที่จักรพรรดิปราชญ์นั้นพูดก็ไม่ผิดนัก การที่นางต้องสละชีวิตก็เป็นเพราะคววมอ่อนแอของเขาเอง แต่คนที่สังหารนางก็ยังคงเป็นจักรพรรดิปราชญ์


          “ข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ทุกคน” เนี่ยลี่จ้องมองไปที่จักรพรรดิปราชญ์ด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนหน้านี้เขาโกรธจนขาดสติ ในตอนนี้เขาแปรเปลี่ยนความเจ็บแค้นไว้เป็นพลัง เขารวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่มือทั้งสองข้าง


          เนี่ยลี่พุ่งเข้าไปต่อยจักรพรรดิปราชญ์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจักรพรรดิปราชญ์จะหลบได้อย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีของเขาเริ่มที่จะได้ผล จักรพรรดิปราชญ์ที่ในตอนแรกนั้นสู้กับเขาโดยใช้มือไขว้หลังอยู่ ต้องเริ่มใช้มือทั้งสองข้างในการปัดป้องการโจมตีของเนี่ยลี่


          “ไม่เลว แต่ก็ยังไม่พอ เจ้าจะต้องแข็งแกร่งให้มากขึ้นกว่านี้อีก” จักรพรรดิปราชญ์ใช้เท้าเตะไปที่กลางลำตัวของเนี่ยลี่ เนี่ยลี่นั้นถูกเตะกระเด็นออกไปทำให้เสียหลัก จากนั้นจักรพรรดิปราชญ์ก็กระโดดขึ้นไปด้านบน และใช้ส้นเท้ากระแทกไปที่หน้าอกของเนี่ยลี่อีกครั้งทำให้ร่างของเนี่ยลี่ ถูกฟาดลงไปกับพื้น ผืนทะเลทรายเบื้องหลางกระจายออกเป็นหลุมขนาดใหญ่ในทันที


          จักรพรรดิปราชญ์พุ่งมาเยียบหน้าอกของเนี่ยลี่เอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจลุกยืนขึ้นได้


          “หากเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้ การเอาชนะจักรพรรดิปราชญ์ก็เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น” ร่างของจักรพรรดิปราชญ์ค่อย ๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นร่างของจอมมารที่กำลังยืนเหยียบที่หน้าอกของเขาอยู่


          “นี่เจ้า จอมมาร!” เนี่ยลี่ที่ถูกเหยียบอยู่ พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ


          “ถูกต้อง ทุกอย่างที่เจ้าเห็นคือภาพมายาที่ข้าสร้างขึ้นมา ลืมไปแล้วหรือว่าอาจารย์ของข้าคือผู้ที่ครอบครองตำหนักซีอิงเสิ่นมานับร้อยปี การสร้างภาพมายาเพียงเท่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับข้าเท่านั้น”


          “ถ้าเช่นนั้น ทุกคน” เนี่ยลี่พยายามหันไปมองร่างของเอียจื่ออวิ๋นที่เขาวางเอาไว้ แต่เป็นเพราะเขาจมอยู่ในผืนทรายทำให้มองได้ลำบากยิ่งนัก


          “สหายทุกคนของเจ้าแค่หมดสติไปเท่านั้น ด้วยภาพมายาของข้า ทำให้เจ้ามองเห็นว่าทุกคนนั้นถูกสังหารไป แต่ด้วยความสามารถของพวกเจ้าในตอนนี้ หากต้องไปเผชิญหน้ากับจักรรดิ์ปราชญ์ มันก็คงจะจบลงดั่งภาพที่เจ้าได้เห็น” จอมมารพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา ในตอนนี้เขานั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นที่หกแล้ว แต่การที่จะเอาชนะจักรพรรดิปราชญ์ได้นั้นต้องพึ่งพาความสามารถของเนี่ยลี่ ที่อ่อนหัดถึงเพียงนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก..................จบตอน

แต่งโดย นายมะพร้าว




         

เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง