Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.95 อาณาจักรบรรพชนแห่งเทพ
วันต่อมา
เนี่ยลี่ได้เปิดเส้นทางสวรรค์มายังอาณาจักรบรรพชนแห่งเทพ เมื่อหลายพันปีก่อน
เคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุด แต่กลับล่มสลายด้วยน้ำมือของจักรพรรดิปราชญ์
จนกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย แต่พลังสวรรค์ที่ปกคลุมอณาจักรแห่งนี้ยังมีความหนาแน่นกว่าอาณาจักรอื่น
ๆ มานัก อาณาจักรแห่งนี้จึงถูกยึดครองโดยเผ่าอสูร
ที่เบื้องหน้าของเขาเป็นเพียงผืนทรายที่แห้งแล้งกว้างไกลสุดสายตา
เนี่ยลี่กวาดสายตาไปโดยรอบด้วยความระมัดระวัง นี่เป็นที่มั่นสุดท้ายของพวกอสูร
และดุเหมือนว่าพวกบริวารแห่งเทพจะรู้แล้วว่า
มีมนุษย์ที่กำลังรวบรวมกระจกข้ามภพอยู่
ดังนั้นการเดินทางในครั้งนี้เขาจะประมาทไม่ได้แม้แต่น้อย
เนี่ยลี่พยายามมองหาสิ่งก่อสร้าง
เพื่อหาที่พำนักของพวกอสูร แต่ก็ไม่เห็นสิ่งใด
เขาจึงตัดสินใจที่จะบินขึ้นไปมองหาจากบนท้องฟ้า แต่ไม่ว่าจะมองไปทางใด
ก็มีเพียงแต่ผืนทรายเท่านั้น
เขาไช้เวลาทั้งวันในการบินไปจนทั่ว
แต่น่าแปลกใจที่ ไม่พบกับสิ่งใดเลย
ราวกับว่าอาณาจักรแห่งนี้มีเพียงผืนทะเลทรายเท่านั้น
และไม่มีอสูรแม้แต่ตนเดียวที่เขามองเห็น
“นี่มันไม่เหมือนกับในชีวิตที่แล้วของข้าแม้แต่น้อย”
เนี่ยลี่พูดกับตนเอง ในชีวิตที่แล้ว แม้จะมีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก
แต่ก็ยังมีชุมชนของพวกอสูรอยู่บ้าง ทั้ง ๆ ที่มีพลังสวรรค์หนาแน่น
แต่กลับไม่มีอสูรมารวมตัวกันเพื่อดูดซับพลังสวรรค์เลยแม้แต่ตนเดียว
หลังจากที่ตรวจสอบโดยรอบแล้วแต่ก็ไม่พบกับสิ่งใด
เนี่ยลี่จึงตัดสินใจที่จะกลับไป ยังนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก่อน เพื่อหารือกับทุกคน
ที่อยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
เนี่ยลี่รวบรวมพลังเพื่อที่จะเปิดเส้นทางสวรรค์ขึ้นมา
แต่ไม่ทันที่จะเปิดเส้นทางสวรรค์ได้สำเร็จ ก็มีพลังอันรุนแรงพุ่งเข้ามาที่ตัวของเขา
“ใครกัน?” เนี่ยลี่กระโดดหลบอย่างรวดเร็ว
และหันไปทางทิศทางที่พลังนั้นพุ่งมา
พลังที่พุ่งมานั้นปะทะเข้ากับพื้นทรายและระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้ทั่วทั้งท้องฟ้า
เต็มไปด้วยเศษทรายที่กระจายปกคลุมไปทั่ว
ทันทีที่ได้มองเห็น กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้า
ร่างกายของเนี่ยลี่เริ่มเย็นเฉียบ หัวใจสั่นระรัว จนแทบจะหลุดอกมาจากร่างกายของเขา
เขาไม่เคยลืมเลือนคนที่อยู่เบื้องหน้ามาก่อน นั่นคือคนที่สังหารเขาในชีวิตที่แล้ว
มันคือจักรพรรดิปราชญ์และบริวารแห่งเทพทั้งสิบ
ศัตรูของเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
โดยที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในตอนนี้ เขาแทบจะหยุดหายใจ
เหงื่อไหลออกมาเต็มมือทั้งสองข้าง
เนี่ยลี่รีบนำภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาออกมา
และนำเหล่าสหายของเขาทุกคนออกมา
เมื่อทุกคนออกมา
ก้ได้พบเห็นกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้า ทันทีที่ทุกคนสัมผัสได้ถึง
ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ลมปราณที่น่าหวาดกลัวของดลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้า
พวกเขารับรู้ได้ทันทีว่า ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขานั้นเป็นผู้ใด
“นั่นคงเป็นภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ข้าค้นหามานาน จะอยู่ในมือของเจ้าด้วย และที่สำคัญ
ดูเหมือนว่าจะมีผู้ที่สืบทอด เทคนิคทำนายชะตาสวรรค์ ขั้นสูงอยู่อีกด้วย” จักรพรรดิปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาดั่งน้ำแข็ง
พร้อมกับจับจ้องไปยังเซี่ยวหยู่
“อย่าได้คิดแตะต้องนาง คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!”
เนี่ยลี่นำกระบี่เทพอัสนีดาวตกออกมา และเตรียมที่จะต่อสู้ทันที
“มีพลังเพียงแค่ระดับเทพสงคราม
คิดจะต่อสู้กับข้า น่าขันยิ่งนัก” จักรพรรดิปราชญ์จ้องไปยังเนี่ยลี่
แค่จิตสังหารที่พุ่งออกมาทางสายตา ก็ถึงกับทำให้เนี่ยลี่ ต้องถอยหลังออกไปหลายก้าว
“นี่คือจักรปราชญ์เช่นนั้นหรือ? ทำไมมันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?” ลู่เพียวเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
พร้อมกับนำอาวุธมาถือไว้ในมือทันที
เนี่ยลี่พยักหน้าตอบกลับไป
โดยที่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ในตอนนี้เนี่ยลี่
ไม่อาจละสายตาไปจากจักรพรรดิปราชญ์ได้แม้แต่น้อย
เมื่อได้คำตอบจากเนี่ยลี่เหล่าสหายของเขา
ต่างก็รีบนำอาวุธคู่กายมาถือเอาไว้ในมือ และตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที
จักรพรรดิปราชญ์ยังคงปลดปล่อยลมปราณพร้อมกับจิตสังหารออกมาอย่างต่อเนื่อง
มีเพียงเนี่ยลี่และเทพธิดายู่หยาน ที่ยังไม่บรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้า
ที่ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก แม้แต่การยืนต้านพลังเอาไว้เฉย ๆ ก็ต้องใช้พลังไม่น้อย
ในใจของเนี่ยลี่นั้นเต็มไปด้วยความสับสน
เขาในตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ของจักรพรรดิปราชญ์อย่างเห็นได้ชัด
และการที่เปิดใช้เส้นทางสวรรค์ไปแล้ว ก็ทำให้พลังของเขาลดลงไปเป็นอย่างมากอีกด้วย
หากฝืนต่อสู้ก็ไม่ต่างจากการแสวงหาคววามตาย
และการหลบหนี ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นได้โดยง่าย เขากำลังคิดหาแผนที่จะเอาตัวรอดในเวลานี้
แต่ก็คิดหาหนทางใดไม่ได้เลย
“เนี่ยลี่ รีบพาคนอื่นหลบหนีไป
ข้าจะถ่วงเวลาเอาไว้เอง” หลี่ชิงอวิ๋น หลงยู่อิน และกู้เบ่ย
พูดขึ้นพร้อมกับไปยืนอยู่ด้านหน้าของเนี่ยลี่
พวกเขารู้ดีว่าเนี่ยลี่และผู้กลับชาติมาเกิด นั้นมีความสำคัญมากเพียงใด
แต่ในตอนนี้ความห่างชั้นของพลังมีมากเกินไป หากมีคนที่ต้องเสียสละ
ก็มีเพียงพวกเขาเท่านั้น
“ยังไม่รีบเปิดเส้นทางสวรรค์อีก ดาบคลื่นเมฆา!”
หลี่ชิงอวิ๋นรีบตะโกนออกไป เมื่อเห็นว่าเนี่ยลี่ยังคงยืนนิ่งเลย
เขาตัดสินใจที่จะโจมตีออกไป เพื่อถ่วงเวลาให้เนี่ยลี่
“มีพลังเพียงเท่านี้เองหรือ?” บริวารแห่งเทพผู้หนึ่ง ใช้เพียงมือเปล่า ต้านพลังดาบคลื่นเมฆาเอาไว้
หลังจากที่สะบัดมืออีกครั้ง พลังดาบคลื่นเมฆาของหลี่ชิงอวิ๋น ก็สลายไปในทันที
“มังกรเคลื่อนสวรรค์!” หลงยู่อินทุ่มพลังทั้งหมดพุ่งออกไปทันที
“หลงยู่อิน ช้าก่อน” เนี่ยลี่รีบตะโกนห้ามทันที
บริวารแห่งเทพอีกคน ปล่อยพลังออกมาจากผ่ามือกระแทกสวนกลับการโจมตีของหลงยู่อินทันที ด้วยพลังที่เหนือกว่าหลายขั้น ทำให้หลงยู่อินหยุดการเคลื่อนไหว
และกระอักเลือดออกมา แค่เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำให้หลงยู่อินได้รับบาดเจ็บสาหัส
“หากแยกกันโจมตี คงไม่ได้ผลเป็นแน่
และฝ่ายศัตรูก็มีจำนวนมากเกินไป” กู้เบ่ยพูดขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของหลี่ชิงอวินและหลงยู่อินนั้นไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
“พวกเราต้องแยกพวกมันออกจากกัน” ตู่ซื่อพูดขึ้นมาพร้อมกับก้าวไปด้านหน้าอีกคน
ในตอนนี้หากตัดเนี่ยลี่ ต้วนเจี้ยน กู้หลาน
เหยียนหยาง เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง
ออกไป คนที่เหลือก็มีเพียง เอียจื่ออวิ๋น
เซี่ยวหนิงเอ่อ ตู่ซื่อ ลู่เพียว กู้เบ่ย หลี่ชิงอวิ๋น หลงยู่อิน เซี่ยวหยู่ หมิงเยี่ยวู่ซวง
เซี่ยวซุ่ย เว่ยหนาน
จางหมิง ซูเซียงจิ้ง และเทพธิดายู่หยาน
หากนับรวบจินตานอีกตัวก็จะมีเพียงสิบห้าคนเท่านั้น ที่สามารถต่อสู้ได้
“จินตาน!” เทพธิดายู่หยานสั่งให้จินตานเริ่มโจมตีในทันที
เนื่องจากตลอดเวลาที่อยู่ใน ภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนั้น
เทพธิดายู่หยานมักจะเล่นกับจินตานจนสนิทคุ้นเคยกัน
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของเทพธิดายู่หยาน
จินตานก็พ่นไฟไปยังจักรพรรดิปราชญ์ และบริวารแห่งเทพทันที
“หึ เจ้านกโง่!” บริวารแห่งเทพคนหนึ่งพุ่งเข้าไปจับคอจินตานเอาไว้
ทำให้ไม่อาจ พ่นไฟออกมาได้อีก และเมื่อบริวารแห่งเทพออกแรงอีกเพียงเล็กน้อย
คอของจินตานก็หัก และถูกโยนทิ้งออกไปทันที
“อะไรกัน มันสามารถสังหารจินตานได้อย่างง่ายดาย”
เทพธิดายู่หยาน พูดด้วยความตกใจ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
เนี่ยลี่เองก็ได้แต่ยืนนิ่ง
เขาไม่คิดเลยว่าแม้แต่จินตานที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
จะถูกสังหารได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
“เนี่ยลี่เจ้าทำบ้าอันใดกัน
จงรีบเปิดเส้นทางสวรรค์เดี๋ยวนี้” เอียจื่ออวิ๋นรีบพุ่งทะยานออกไปพร้อมกับตะโกนสั่งเนี่ยลี่
“พวกเราโจมตีพร้อมกัน” เซี่ยวหนิงเอ่อรีบทะยานตามเอียจื่ออวิ่นไปอย่างรวดเร็ว
นางหันไปมองเซี่ยวหยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งเซี่ยวหยู่ก็เข้าใจความหมายใจทันที
“พวกเจ้าทำบ้าอันใดกัน อย่าได้ทำเช่นนั้น”
เนี่ยลี่ในตอนนี้รู้สึกสับสนยิ่งนัก หากต้องสูญเสียใครไปอีกเขาคงทนรับเรื่องนี้ไม่ไหวอีกต่อไป
เพี๊ยะ!
เซี่ยวหยู่ตบไปที่ใบหน้าของเนี่ยลี่อย่างรุนแรง
เพื่อให้เขาได้สติ
“คนที่ทำบ้าอันใดอยู่ นั่นคงเป็นเจ้า
พวกเราต่างรู้ดีว่าเจ้าและผู้กลับชาติมาเกิดสำคัญมากเพียงใด ดังนั้น
จึงมีเพียงพวกข้า ที่ต้องเสียสละเพื่อให้พวกเจ้า มีชีวิตรอดต่อไป
หากเจ้าไม่รีบเปิดเส้นทางสวรรค์ การเสียสละของพวกข้าคงเสียเปล่าเป็นแน่” ทันทีที่พูดจบเซี่ยวหยู่ก็ทะยานตามคนอื่น ๆ ไป
“ที่นางพูดนั้นถูกต้องแล้ว
เจ้าจะหลบหนีไปจากนี่ หรือว่าจะให้ทุกคน สละชีวิตโดยเสียเปล่า?” เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงพูดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทีลังเลของเนี่ยลี่
เว่ยหนาน จางหมิง ซูเซียงจิ้ง
ทั้งสามพุ่งเข้าจู่โจมบริวารแห่งเทพผู้หนึ่งทันที พวกเขาทั้งสามนั้นหากร่วมมือกัน
ก็แข็งแกร่งมากพอที่ล้ม บริวารแห่งเทพที่มีพลัง ระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นที่ห้าได้
ลู่เพียวและเซี่ยวซุ่ยก็พยายามแยกบริวารแห่งเทพอีกสองตนออกมา
ตู่ซื่อและฮวาหั่วเอง ก็ทำเช่นเดียวกัน
หลี่ชิงอวื๋นและหลงยู่อินที่แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ
แต่ทั้งสองก็ยังคงทะยานออกไปร่วมต่อสู้ กู้เบ่ยเองก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา
เพื่อต่อสู้กับบริวารแห่งเทพตนหนึ่ง
เทพธิดายู่หยาน ที่มีความแข็งแกร่งในระดับเทพสงครามเท่านั้น
นางพยายามที่จะแก้แค้นให้จินตาน แต่นางก็ไม่อาจที่จะทำให้อีกฝ่าย
ได้ความเสียหายแม้แต่น้อย
“ข้าจะไม่ยอมหนีไป โดยที่ไม่มีพวกเจ้าไปด้วย”
เนี่ยลี่ตะโกนออกมา พร้อมกับทะยานเข้าไปต่อสู้กับจักรพรรดิปราชญ์ทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้น ต้วนเจี้ยน เหยียนหยาง และกู้หลานจึงตามเนี่ยลี่ออกไป มีเพียงเทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง
ที่ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“คงหมิงในชาติพบนี้อ่อนแอเกินไป
ทั้งร่างกายและจิตใจ ชะตาของโลกใบนี้คงจบสิ้นแล้วเป็นแน่” เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยงพูดกับตนเอง
เทพธิดายู่หยานที่มีระดับพลังต่ำสุด
นางเป็นคนแรกที่ได้รับบาดเจ็บจนเกือบจะเสียชีวิต นางเริ่มเห็นนิมิตบางอย่างขึ้นมา
ภาพนิมิตที่นางมองเห็น
คือตอนที่อาณาจักรแห่งนี้ถูกจักรพรรดิปราชญ์ทำลายในอดีต มีเปลวไฟสีทองลุกโชติช่วง
และเผาไหม้ทุกสิ่งจนไม่เหลือแม้แต่ซาก นางเห็นและได้ยินเสียงของคนที่ร้องขอความช่วยเหลือ และสัมผัสได้ถึงความร้อนที่มองเห็น
นางกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“ข้าคือเทพธิดาจินหยาน
หนึ่งในหกคนที่กลับชาติมาเกิดนั่นเอง ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้รับรู้ในเวลาเช่นนี้”
เทพธิดายู่หยานพูดขึ้นมา เมื่อนางได้รับรู้ความจริง ทำให้นางสามารถบรรลุถึงระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้สำเร็จ
เดิมทีเป็นเพราะความทรงจำของนางนั้นไม่สมบูรณ์
จึงทำให้นางไม่อาจบรรลุพลังในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้
และอาณาจักรแห่งนี้คือกุญแจที่ใช้ไขความทรงจำเหล่านั้น
จักรพรรดิปราชญ์มองดูเนี่ยลี่ที่กำลังทะยานพุ่งเข้ามา
เขายกมือขึ้นช้า ๆ พร้อมกับปล่อยพลังออกมา
ทำให้เนี่ยลี่ไม่อาจขยับตัวได้แม้แต่น้อย จากนั้นจักรพรรดิปราชญ์
ก็ได้ปลดปล่อยพลังออกจากมืออีกข้าง เพื่อโจมตีเนี่ยลี่ พลังลมปราณในมืออีกข้าง
มีพลังมากพอที่จะสังหารยอดฝีมือระดับเทพสงครามได้ง่ายราวกับขยี้แมลงสักตัว
“ตายซะ การต่อสู้กับเจ้าในครั้งนี้
น่าผิดหวังยิ่งนัก คงหมิง” จักพรรดิปราชญ์พูดออกมาด้วยความผิดหวัง
พร้อมกับปล่อยพลังออกไป
“ไม่นะ!” เซี่ยวหนิงเอ่อที่ต่อสู้อยู่ไม่ไกลนัก
นางทะยานเข้ามารับพลังของจักรพรรดิปราชญ์เอาไว้
ซึ่งนั่นก็ทำให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส ในทันที
“หนิงเอ๋อ!” เนี่ยลี่ตะโกนด้วยความเจ็บปวดใจ
น้ำตาของเขารินไหลออกมาเต็มสองแก้ม ลมปราณของเขาปะทุออกมาด้วยความรุนแรง
แสงประกายสายฟ้าปรากฏขึ้นมาโดยรอบ ความโกรธแค้น ความเจ็บปวด ความผิดหวัง
ที่ไม่อาจปกป้องผู้ใดได้ ทำให้เนี่ยลี่สามารถบรรลุ ระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้………………จบตอน
แต่งโดย นายมะพร้าว
Scroll to Top