test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

25 ม.ค. 2560

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.92 หมาป่าสามหัว


          แม้ว่าจะลอบผ่านประตูเมืองด้วยความรวดเร็วเพียงไหน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของทหารอสูรได้ทั้งหมด แผนที่ต้วนเจี้ยนคิดไว้จึงผิดพลาดไปในทันที

 

          หลังจากที่เข้าไปหลบซ่อนในบ้านร้างแห่งหนึ่ง พวกทหารอสูรก็มารายล้อมบ้านหลังนั้นเอาไว้ ในเวลาไม่นาน ลูกธนูนับพันดอกก็ถูกระดมยิงไปที่บ้านหลังนั้นทันที

 

          ต้วนเจี้ยน หยินหลางและลูกน้องของเขารวมตัวกันในรูปแบบกองทหารหนึ่งอู่ [กองกำลังห้าคน] โดยให้หยินหลางเป็นหัวอู่สั่งการ จึงสามารถต้านรับลูกธนูทั้งหมดได้โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

 

          “หน้าประตูเมืองคงมีกองกำลังขนาดใหญ่ขวางเอาไว้แล้ว ถ้าเช่นนั้นหนทางของพวกเรามีเพียงการบุกไปข้างหน้าเท่านั้น” หยินหลางสั่งการพร้อมกับผสานเข้ากับดวงจิตอสูรหมาป่าสีเงินทันที ในตอนนี้รูปลักษณ์ของหยินหลางดูไม่ต่างจากหมาป่าที่มีขนสีเงิน การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วยิ่งนัก หากไม่จับตามองให้ดีจะเห็นเพียงประสายแสงสีเงินพุ่งไปมาเท่านั้น

 

          ต้วนเจี้ยนและอีกสามคน วิ่งไปตามเส้นทางที่หยินหลางได้เปิดเอาไว้ให้ การบุกฝ่าไปโดยไม่เห็นปลายทางเช่นนี้ ไม่ต่างไปจากการพุ่งไปอยู่กลางวงล้อมของศัตรู แม้ว่าจะคิดได้เช่นนี้ แต่พวกเขาก็ไม่มีหนทางอื่นเลยแม้แต่น้อย

 

          เมื่อวิ่งมาจนถึงลานกว้างกลางเมือง กองกำลังทหารอสูรเริ่มตั้งรูปแบบขบวนรบเป็นวงกลม โดยเว้นระยะห่างเอาไว้ ทำให้พวกเขาทั้งห้า ไม่อาจหาช่องทางในการทะลวงผ่านไปได้

 

          ต้วนเจี้ยนค่อย ๆ ผสานเข้ากับ เพลิงทมิฬเที่ยงแท้ ร่างกายของเขามีเปลวเพลิงสีดำห่อหุ้มอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหายเข้าไปในร่างของเขา

 

          “ข้าจะเปิดทางให้เอง เพลิงทมิฬดาบมังกร!” ต้วนเจี้ยนรวบรวมเพลิงทมิฬเที่ยงแท้เอาไว้ที่ดาบมังกรเพลิงทมิฬ และตวัดไปโดยรอบคลื่นลมปราณที่มีลักษณะเป็นเพลงสีดำพุ่งออกไปโดยรอบ ทำให้กองกำลังทหารอสูรล้มตายไปในทันที รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบอีกด้วย ทำให้สภาพโดยรอบราวครึ่งลี้ เหลือเพียงพื้นที่ว่าง ที่เต็มไปด้วยซากศพเท่านั้น

 

          ต้วนเจี้ยนหอบด้วยความอ่อนแรง การใช้กระบวนท่านี้เป็นการสิ้นเปลืองพลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำให้สามารถบุกต่อไปได้

 

          “พวกมันแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้แต่ทหารอสูรที่เป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามนับหมื่นที่ห้อมล้อมอยู่ กลับถูกสังหารด้วยกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ระดับพลังของเจ้าคนผู้นั้นดูเหมือนว่าจะเทียบเท่ากับท่านบริวารแห่งเทพเลยทีเดียว” แม่ทัพอสูรผู้หนึ่ง ดูการต่อสู้จากบนหลังคาที่อยุ่ห่างออกไป เขานั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นสูงสุด แต่กลับรับรู้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง มาจากร่างของต้วนเจี้ยนได้

 

          “ท่านจะสั่งการเช่นใดต่อขอรับ?” ทหารอสูรที่คุกเข่ารอรับคำสั่งอยู่ถามออกไป

 

          “นำกำลังทั้งหมดปิดล้อมเอาไว้ ข้าไม่เชื่อว่ากระบวนท่าที่ร้ายกาจถึงเพียงนั้นจะสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้แก่ท่านบริวารแห่งเทพ” แม่ทัพอสูรพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

 

          หลังจากนั้นแม่ทัพอสูรก็กางปีกออก พร้อมกับบินไปยังตำหนักแห่งเทพ ที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำอสูร ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขา พวกต้วนเจี้ยนไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย

 

          เหล่าทหารอสูรที่ได้รับคำสั่ง แม้ว่าจะล้มตายไปนับหมื่นก็ยังคง ตั้งกระบวนทัพเป็นรูปวงกลมล้อมพวกเขาทั้งห้าเอาไว้ แม้ว่าหยินหลางจะพยายามบุกทะลวงไป แต่ไม่ว่าจะสังหารทหารอสูรไปได้มากเพียงใด ก็มีกองกำลังของทหารอสูรมาปิดช่องว่างในทันที

 

          “เจ้ายังใช้กระบวนท่านั้นได้อีกหรือไม่?” ซานหลางเอ่ยถามต้วนเจี้ยน

 

          “ข้ายังสามารถใช้ได้อีกประมาณสองครั้ง แต่ข้ามีกระบวนท่าที่รุนแรงกว่านั้น พวกท่านมาหลบที่ใต้เท้าของข้า มันเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด” ต้วนเจี้ยนตอบพร้อมกับกางปีกออกมาและบินขึ้นไปเหนือพื้นราวสองเมตร

 

          “เพลิงทมิฬเที่ยงแท้ผลาญปฐพี!” ต้วนเจี้ยนระเบิดพลังของเพลิงทมิฬเที่ยงแท้ออกไปโดยรอบ เปลวเพลิงทมิฬโหมกระหนั่มไปทั่ว ทุกสิ่งที่ถูกแผดเผานั้นเหลือเพียงเศษเถ้าธุลี เมืองอสูรแห่งนี้ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่แม้แต่น้อย แต่กระบวนท่านี้ทำให้ต้วนเจี้ยนนั้นหมดแรงจนแทบจะหมดสติไปเลยทีเดียว เขาร่วงลงไปกับพื้น หยินหลางเห็นเช่นนั้นจึงรีบไปรับต้วนเจี้ยนเอาไว้

 

          “หากลูกชายของข้ายังอยู่ ข้าก็อยากให้เขาเติบใหญ่เป็นบุรุษที่แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้” หยินหลางพูดชื่นชมต้วนเจี้ยน

 

          “ท่านหัวหน้าดูเหมือนว่าในถ้ำแห่งนี้ยังมีเส้นทางลึกเข้าไปอีก” ซานหยางชี้ไปที่ทางเข้าเบื้องหน้า ที่มีประตูหินปิดกั้นเอาไว้

 

          “ท่านหัวหน้าเสียแรงไปมากแล้ว ประตูนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” ซานหลางใช้แส้ฟาดไปที่ประตูหิน เพียงแค่ครั้งเดียวประตูก็ถูกตัดออกไปสองส่วนทันที

 

          ด้านหลังของประตูมีกองกำลังอสูรอยู่อีกนับพันตน แม้ว่าพวกเขาจะประหลาดใจที่เห็นประตูหอนถูกทำลาย แต่พวกเขาก็เป็นทหารจึงมีความพร้อมที่จะรับมือกับศัตรูอยู่ตลอดเวลา

 

          ตรงส่วนนี้เป็นตำหนักส่วนใน ที่มีเพียงนายทหารอสูรระดับสูงเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปได้ ทหารอสูรส่วนตำหนักส่วนในนี้ล้วนมีความแข็งแกร่งไม่ต่อกว่าระดับเทพสงครามขั้นที่ห้า แต่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่พันตนเท่านั้น

 

          ต้วนเจี้ยนที่ใช้พลังมากเกินไปนั้น พยายามที่จะยืนด้วยขาของตน พร้อมกับกำดาบมังกรเพลิงทมิฬเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อาจปลดปล่อยลมปราณออกมาได้

 

          “เจ้าฟื้นพลังไปก่อน ตรงส่วนนี้พวกข้าจะจัดการเอง” หยินหลางหันไปพูดกับต้วนเจี้ยน

 

          “หัวหน้าเองก็ต้องฟื้นพลังเช่นกัน ให้พวกข้าทั้งสามจัดการเอง” ซานหลางพูดพร้อมกับผสานเข้ากับจิตอสูรหมาป่าทันที และลูกน้องอีกสองคนก็เช่นกัน ทั้งสามล้วนแต่ผสานกับดวงจิตอสูรหมาป่า ที่มีคุณสมบัติพิเศษเดียวกัน

 

          “ผสานร่างหมาป่าสามหัว!” ซานหลางและลูกน้องอีกสองคนผสานร่างเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นหมาป่าที่มีขนาดใหญ่เพียงตัวเดียว แต่มีหัวถึงสามหัว เป็นดั่งสุนัขที่เฝ้าประตูนรกในตำนานเลยทีเดียว เมื่อผสานร่างกันแล้วทั้งสามคนจะมีความแข็งแกร่งในระดับเทพสงครามขั้นสูงสุดเลยทีเดียว

 

          “ซานหลางที่อยู่ในร่างของหมาป่าสามหัว พุ่งออกไปต่อสู้กับกองกำลังทหารอสูรนับหมื่นทันที ด้วยคมเขี้ยวจากหัวทั้งสาม ทำให้ทั่วทั้งตำหนักส่วนในเต็มไปด้วยเลือดอสูร และที่ปากทั้งสามของหมาป่า ก็เต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน”

 

          เมื่อเห็นว่ากองกำลังทหารอสูรไม่ใช่คู่มือของซานหลางและอีกสองคน ต้วนเจี้ยนและหยินหลางจึงรีบนั่งฟื้นพลังทันที ต้วนเจี้ยนได้มอบยาทิพย์ขวดหนึ่งให้แต่หยินหลาง เป็นยาทิพย์ที่ได้มาจากผลไม้แห่งพระเจ้านั่นเอง

 

          การต่อสู้ของซานหลางและอีกสองคนกินเวลาไปราวครึ่งชั่วยาม แต่ก็ทำให้ต้วนเจี้ยนและหยินหลางพื้นพลังได้ไม่น้อย และหยินหลางที่ดูดซับพลังจากยาทิพย์ในตอนนี้เขานั้นบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้ว

 

          ทางด้านแม่ทัพอสูรที่ไปรายงานเรื่องผู้บุกรุกให้บริวารแห่งเทพทราบ หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลแล้ว บริวารแห่งเทพก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก

 

          “สงหลง เจ้าจงไปจัดการพวกมันให้สิ้นซาก ข้าจะถ่ายทอดพลังให้แก่เจ้า ซึ่งจะทำให้เจ้าสามารถมีพลังทัดเทียมกับข้าเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม อสูรที่มีความแข็งแกร่งของพญาหมี และจากมังกรเช่นเจ้า จะต้องจัดการกับมันได้เป็นแน่” บริวารแห่งเทพสั่งการลงไปทันที พร้อมกับถ่ายทอดลมปราณส่วนหนึ่งของตนให้แก่สงหลง  [:หมีมังกร]

 

          สงหลงคุกเข่าเพื่อรับบัญชาจากบริวารแห่งเทพ และค่อย ๆ ดูดซับลมปราณที่บริวารแห่งเทพส่งผ่านมาให้ ร่างกายของเขาแทบจะฉ๊กออกเป็นส่วน ๆ เนื่องจากลมปราณที่ส่งผ่านกระจกข้ามภพมา ทรงพลังจนเกินไป หากมิได้มีร่างที่เป็นมังกร เขาคงไม่อาจดูดซับพลังนี้ได้ทั้งหมดเป็นแน่

 

          ทางด้านหยินหลาง เขาเองก็ตื่นตะลึงกับความแข็งแกร่งที่เกินกว่าระดับเทพสงครามของตนเอง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีระดับที่เหนือล้ำยิ่งกว่าระดับเทพสงครามเช่นนี้

 

          ทางด้านต้วนเจี้ยน การที่เขาใช้เพลิงทมิฬเที่ยงแท้จนเกินขีดจำกัด ทำให้ดวงจิตของเพลิงทมิฬเที่ยงแท้นั้นเริ่มมอดลง แต่เพียงเวลาไม่นานหลังจากที่ได้ฟื้นพลัง เพลิงทมิฬเที่ยงแท้กลับลุกโชนขึ้นมาเสียยิ่งกว่าในตอนแรก ระดับพลังของต้วนเจี้ยนก็สูงขึ้นจนถึงระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นที่สองแล้ว ทำให้การฟื้นพลังของเขานั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

          หลังจากนั้น พวกเขาก็มุ่งหน้าเข้าไปด้านในตำหนัก ซึ่งก็ได้พบเส้นทางลับ เป็นเส้นทางทางที่ถอดยาวเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำอสูร

 

          เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของต้วนเจี้ยน หยินหลาง และซานหลางที่ผสานร่างอยู่นั้น สงหลงก็เปิดประตูออกมา เขาไม่ต้องการให้ตำหนักแห่งเทพได้รับความเสียหายหากพวกต้วนเจี้ยนบุกเข้าไป

 

          ร่างกายของสงหลงนั้น เป็นหมีที่มีเกล็ดมังกรห่อหุ้มไปทั่วร่าง และมีหางของมังกรขนาดใหญ่ทอดยาวไปทางด้านหลัง และที่หลังของเขาก็มีปีกมังกรที่มีเพียงโครงกระดูกสะบัดอยู่อีกด้วย เขานั้นสืบสายเลือดจากพญาหมีและมังกรกระดูก ส่วนใบหน้าของเขานั้นมีลักษณะที่คล้ายกับหมี แต่มีเขามังกรอยู่ตรงหน้าผาก

 

          เมื่อเห็นศัตรูตรงหน้า ซานหลางที่ยังอยู่ในรูปลักษณ์หมาป่าสามหัว ก็พุ่งเข้าจู่โจมสงหลงทันที แต่ก็ถูกสงหลงใช้เท้าเยียบไปที่กลางลำตัวทำให้ซานหลางถูกถีบกระเด็นไปปปะทะเข้ากับผนังถ้ำทันที

 

          “ข้าคือสงหลง แม่ทัพของกองกำลังอสูรแห่งอาณาจักรนี้ การที่มาถึงที่นี่ได้หมายความว่า พวกเจ้าสามารถสังหารกองกำลังอสูรของข้าได้จนหมด พวกเจ้าเป็นใครกัน?” สงหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาไม่คิดเลยว่ากองกำลังทหารอสูรนับแสนของเขาจะถูกทำลายโดยมนุษย์แค่ห้าคนเท่านั้น

 

          “ข้าคือต้วนเจี้ยน ผู้มีพันธสัญญาจากอดีตชาติ ที่จะขัดขวางความทะเยอทะยานของจักรพรรดิปราชญ์และเหล่าบริวารของมัน ” ต้วนเจี้ยนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน บัดนี้เขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของตนเองในอดีตชาติ

 

          “ข้าคือผู้นำของกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬหยินหลาง  และข้ามาเพื่อตอบแทนน้ำใจของชายหนุ่มผู้นี้ แม้ว่าจะมีนรกอยู่เบื้องหน้า ข้าก็จะเปิดทางให้แก่เขา” หยินหลางตะโกนออกไปด้วยความองอาจ

 

          “อวดดียิ่งนัก จักรพรรดิปราชญ์ผู้เป็นเทพแห่งอสูรทั้งปวง มนุษย์เช่นเจ้านั้น เอ่ยนามของท่านออกมานับว่าไม่สมควรแล้ว แต่นี่กลับพูดจาสามหาวเช่นนี้ แม้ว่าบริวารแห่งเทพจะไม่ลงโทษพวกเจ้า แต่ข้านั้นไม่อาจที่จะให้อภัยกับความอวดดีของเจ้าได้” สงหลงตะโกนออกมาอย่างกราดเกรี้ยว จักพรรดิปราชญ์นั้นเป็นเทพที่สูงส่งเกินกว่าที่มนุษย์จะมาพูดจาอวดดีเช่นนี้ได้

 

          ลมปราณของสงหลงที่ปลดปล่อยออกมา นั้นรุนแรงจนทำให้ต้วนเจี้ยนและหยินหลาง ถูกพัดจนถอยหลังไปหลายสิบก้าว ระดับพลังของสงหลงในตอนนี้ อยู่ในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าขั้นที่ห้าเลยทีเดียว

 

          “พลังของมันแข็งแกร่งเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้” ต้วนเจี้ยนใช้แขนสองข้างกั้นไว้ด้านหน้า เพื่อต้านลมปราณของสงหลงที่พัดกระหน่ำอยู่ในตอนนี้

 

          “สิ่งที่เจ้าต้องการคงอยู่ที่ด้านหลังของมัน สิ่งที่เจ้าต้องการคือสิ่งใดกัน ข้าอาจจะหาทางลอบเข้าไปขโมยมาให้เจ้าได้” หยินหลางผสานเข้ากับดวงจิตอสูรหมาป่าสีเงินอีกครั้งและถามออกไป

 

          “ของสิ่งนั้นคือกระจกข้ามภพ มีลักษณะคลายกับผลึกแก้ว ที่ข้าทราบมามีเพียงเท่านี้” ต้วนเจี้ยนกระซิบตอบกลับไป

 

          “ถ้าเช่นนั้น เจ้าจงดึงความสนใจของมันไปให้ได้ ข้าจะหาโอกาสในการเข้าไปด้านในเอง” หยินหลางพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับไป

 

          ทางด้านซานหลางก็พยายามที่จะลุกยืนขึ้น แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอ่อนด้อยที่สุดในที่นี่ แต่ความมุ่งมั่นของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใด

 

          ต้วนเจี้ยนรวบรวมพลังไปที่ดาบมังกรเพลิงทมิฬทันที และพุ่งเข้าปะทะกับสงหลง ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

 

          สงหลงใช้กระดูกสร้างกรงเล็บมังกรขึ้นมา และใช้ต้านรับดาบมังกรเพลิงทมิฬของต้วนเจี้ยนเอาไว้ และใช้หางมังกรฟาดเข้าที่ด้านหลังของต้วนเจี้ยนจนไปปะทะเข้ากับผนังถ้ำอย่างรุนแรง

 

          ต้วนเจี้ยนรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและบุกเข้าไปอีกครั้ง สงหลงสะบัดหางของเขาเพื่อขัดขวางการโจมตีของต้วนเจี้ยน แต่ต้วนเจี้ยนก็บินหลบไปได้และฟันดาบมังกรเพลิงทมิฬไปอีกครั้ง สงหลงคิดจะใช้กรงเล็บกระดูกต้านรับอีกครั้ง แต่แขนทั้งสองข้างของเข้ากลับถูกซานหลางที่ลอบไปด้านหลังใช้ปากงับเอาไว้ ทำให้ไม่อาจขยับแขนทั้งสองข้างได้ดั่งใจ

 

          ดาบมังกรเพลิงทมิฬนั้นจึงฟันเข้าที่ใบหน้าของสงหลงอย่างจังทันที

 

          สงหลงเอียงหน้าหลบเล็กน้อยและใช้เขามังกรต้านรับเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเขามังกรเล็ก ๆ แต่กลับต้านดาบมังกรเพลิงทมิฬเอาไว้ได้

 

          จากนั้นสงหลงก็ใช้หางของเขาฟาดไปยังซานหลังจนกระแทกเข้ากับผนักถ้ำอีกครั้ง ในตอนนี้ร่างของเขาคลายการผสานกลายเป็นสามคนดังเดิม และทั่วร่างของทั้งสามคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผล ดูเหมือนว่าจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว........จบตอน


แต่งโดย นายมะพร้าว



 

เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง