test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

24 ม.ค. 2560

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.91 หยินหลาง

           ซานหลางหันมามองต้วนเจี้ยนครู่หนึ่ง หากจะปลดโซ่ออกคงต้องใช้เวลาไม่น้อย เขาตึงตัดสินใจที่จะปล่อยต้วนเจี้ยนเอาไว้ และวิ่งออกไปทันที

 

          เดิมทีต้วนเจี้ยนคิดที่จะกระชากโซ่หนีออกไป แต่เขาเปลี่ยนใจและยอมถูกมัดอยู่ในห้องอย่างสงบ เนื่องจากถ้ำที่สั่นไหวก่อนหน้านี้ ก็สงบดังเดิมแล้ว มีเพียงเสียงผู้คนตะโกนเสียงดังเท่านั้น

 

          แท้จริงแล้ว นี่เป็นแผนของหยินหลาง ที่ต้องการทดสอบว่าต้วนเจี้ยนจะสามารถทำลายโซ่นี้ได้หรือไม่ การที่ต้วนเจี้ยนไม่หนีออกมา กลับกลายเป็นว่าทำให้หยินหลางคิดว่าต้วนเจี้ยนไม่สามารถทำลายโซ่นี้ได้

 

          หลังจากที่เสียงด้านนอกเงียบไปแล้ว หยินหลางและซานหลางก็เดินกลับเข้าไปหาต้วนเจี้ยนอีกครั้ง

 

          "โชคดีที่ อสูรมังกรสีชาดได้ถอนกำลังกลับไป ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงตายไปแล้ว" ซานหลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลนต้วนเจี้ยน

 

          "ก็คงใช่ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว กลุ่มโจรหมาป่าทมิฬก็คงสิ้นชื่อไปแล้ว" ต้วนเจี้ยนตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา

 

          "เจ้าเด็กอวดดี!" ซานหลางหยิบแส้มาฟาดไปที่ต้วนเจี้ยนอีกหลายครั้ง

 

          "ซานหลาง พอได้แล้ว" หยินหลางรีบบอกให้ซานหลางหยุดมือทันที เพราะหากฟาดไปมากกว่าต้วนเจี้ยนอาจจะตายก็ได้

 

          "ข้านั้นเป็นคนที่รักษาสัจจะ ชีวิตของเจ้าเหลืออีกสองวัน หากเจ้าเปลี่ยนใจก็สามารถให้คนไปบอกแก่ข้าได้ทุกเมื่อ" หยินหลางจับจ้องไปที่ต้วนเจี้ยนและพูดออกไป แม้ในใจเขาจะรู้ดีว่า คนอย่างต้วนเจี้ยนคงไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ เป็นแน่ แต่เขาก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ไม่ว่าจะใช้ไม้อ่อนหรือไม้แข็ง ต้วนเจี้ยนก็ยังคงยืนยันคำพูดของตนเช่นเดิม

 

          สองวันผ่านไป ต้วนเจี้ยนยังคงปฏิเสธสิ่งที่หยินหลางเสนอมา แม้ว่าจะรู้สึกเสียดาย แต่เขาก็เป็นถึงหัวหน้าของกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬ หากไม่รักษาคำพูด เขาก็ไม่อาจปกครองลูกน้องได้

 

          " ข้าจะจับเจ้าไปปล่อยที่หน้าถ้ำอสูร หากเจ้าต้องการรอดชีวิต เจ้าจะต้องบุกเข้าไปในถ้ำอสูรเท่านั้น หากคิดหนีออกมา พวกข้าจะสังหารเจ้าซะ" หยินหลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขารู้สึกเสียดายเด็กหนุ่มที่ห้าวหาญเช่นนี้ยิ่งนัก นี่ก็นับเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาสามารถมอบให้ต้วนเจี้ยนได้

 

          หลังจากนั้น หยินหลางและลูกน้องของเขาก็พาต้วนเจี้ยนมาถึงหน้าถ้ำอสูร หยินหลางจะเป็นผู้นำต้วนเจี้ยนเข้าไปในถ้ำอสูร โดยให้พวกลูกน้องรออยู่ที่หน้าถ้ำ

 

          "ดูเหมือนว่าพวกอสูรจะยังไม่รู้ว่าพวกเราเข้ามา เมื่อเข้าไปถึงที่อยู่ของอสูรมังกรสีชาด ข้าจะทำการปลดโซ่ให้แก่เจ้า" หยินหลางพูดขณะที่พาต้วนเจี้ยนเข้าไปในถ้ำอสูร

 

          "ดูราวกับว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในถ้ำอสูร" ต้วนเจี้ยนถามด้วยความสงสัย

 

          "ข้าเคยเข้าไปแค่ในส่วนแรกของถ้ำอสูรเท่านั้น เมื่อเข้าไปในถ้ำราวครึ่งลี้ จะมีทะเลสาบเล็ก ๆ อยู่ มันเป็นที่อยู่ของอสูรมังกรสีชาด ข้าเคยเข้ามาขโมยศิลาจิตวิญญาณและศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณที่อยู่ในทะเลสาบหลายครั้งแล้ว" หยินหลางตอบกลับไป ทะเลสาบที่หยินหลางพูดถึงมันคือทะเลสาบแห่งเทพนั่นเอง

 

          ที่ด้านนอกถ้ำเริ่มเกิดโกลาหลขึ้น อสูรมังกรสีชาดที่คิดว่าอยู่ในถ้ำอสูรกลับปรากฏตัวอยุ่ที่ด้านนอกถ้ำ และเริ่มไล่สังหารลูกน้องของหยินหลางที่อยู่ด้านนอก

 

          "นี่มันบ้าอะไรกัน ทำไมอสูรมังกรสีชาดจึงได้อยู่ที่ด้านนอกถ้ำอสูรได้?" ซานหลางที่กำลังต่อสู้อยู่พูดขึ้นมา

 

          "ด้านนอกนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว พวกเราคงต้องหลบไปในถ้ำอสูรแล้ว อย่างน้อยท่านหัวหน้าก็อยู่ข้างในนั้น" ลูกน้องอีกคนพูดขึ้นมา

 

          "ตกลง หากพวกเราหลบหนีไป ท่านหัวหน้าก็จะถูกขังอยู่ด้านในถ้ำอสูร ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่" ซานหลางพูดพร้อมกับ ทะยานนำเข้าไปในถ้ำอสูรทันที

 

          "น่าแปลกยิ่งนัก เข้ามาถึงทะเลสาบแล้วแต่กลับไม่อาจสัมผัสถึงพลังของอสูรมังกรสีชาด เลย" หยินหลางเริ่มรู้สึกประหลาดใจ ปกติอสูรมังกรสีชาดจะอยู่ที่ทะเลสาบแห่งนี้ ไม่เคยออกไปที่ใด

 

          "ดูเหมือนว่ามีคนกำลังเข้ามาในถ้ำนี้" ต้วนเจี้ยนพูดออกไปหลังจากที่สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว

 

          "ท่านหัวหน้า อสูรมังกรสีชาด อยู่ที่นอกถ้ำหากพวกเราไม่สังารมัน คงไม่อาจหนีออกจากถ้ำอสูรไปได้" ซานหลางรีบรายงานทันที ที่ได้พบกันหยินหลาง

 

          "พวกเจ้าหลบไปด้านในก่อน ข้าจะรับมือกับอสูรมังกรสีชาด และเปิดทางออกให้กับพวกเจ้าเอง ดูแลเจ้าเด็กนั่นด้วย" หยินหลางถือดาบมังกรเพลิงทมิฬของต้วนเจี้ยนไว้ในมือและเตรียมรับมืออสูรมังกรสีชาด ที่กำลังพุ่งเข้ามาที่ทะเลสาบนี้

 

          หยินหลางใช้ดาบมังกรเพลิงทมิฬฟันออกไป ทำให้เกิดคลื่นเพลิงทมิฬพุ่งไปที่อสูรมังกรสีชาดทันที แต่เนื่องจากเขาไม่อาจดึงพลังที่แท้จริงของดาบมังกรเพลิงทมิฬออกมาได้ คลื่นเพลิงทมิฬนั้นจึงทำให้อสูรมังกรสีชาดได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

          แม้ว่าหยินหลางจะเป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามขั้นที่แปด แต่ดูเหมือนว่าอสูรมังกรสีชาดจะมีระดับพลังที่เหนือกว่าอยู่หนึ่งขั้น หยินหลางจึงทำได้เพียงแค่ต้านรับเท่านั้น

 

          ทันใดนั้นอสูรมังกรสีชาดก็รวบรวมพลังไว้ที่ปากของมันพร้อมกับพ่นไฟอันร้อนแรงออกมา

 

          "รีบหลบไปข้างในเดี๋ยวนี้ ข้าต้านไฟนี้ไว้ได้ไม่นานเท่านั้น" หยินหลางสร้างม่านลังป้องกันเอาไว้ เพื่อให้ลูกน้องของเขาหลบเข้าไปด้านใน แต่ไฟของอสูรมังกรสีชาดนั้นร้อนแรงยิ่งนัก ดูเหือนว่าเขาจะต้องสละชีวิตเพื่อให้พวกลูกน้องของเขารอดชีวิต

 

          เมื่อเห็นเช่นนั้น ต้วนเจี้ยนจึงรีบทำลายโว่ที่มัดตัวเขาอยู่และกางปีกของเขาออกมา จากนั้นก็รีบบินไปขวางไฟของอสูรมังกรสีชาดเอาไว้ พวกซานหลางต่างก็รู้สึกตกใจยิ่งนักที่ต้วนเจี้ยนสามารถทำลายโซ่ที่มัดตัวเขาอยู่ได้ง่ายดายถึงเพียงนี้

 

          "ไฟนี้ไม่อาจทำอันใดข้าได้ จงรีบหนีเข้าไปด้านในซะ" ต้วนเจี้ยนรีบบอกแก่หยินหลาง

 

          "เจ้าสามารถทำลายโซ่นั่นเมื่อไหร่ก็ได้ เหตุใดเจ้าจึงไม่หลบหนีไปซะ"หยินหลางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ และพลังของต้วนเจี้ยนที่เขาสัมผัสได้นั้นดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าพลังของเขาเสียอีก

 

          "นี่ไม่ใช่เวลาพูดคุยเรื่องนั้น จงหลบไปด้านในซะ ดูเหมือนว่าส่วนในของถ้ำจะแคบเกินกว่าที่อสูรมังกรสีชาดจะสามารถเข้าไปได้" ต้วนเจี้ยนตะโกนบอกหยินหลางอีกครั้ง

 

          จริง ๆ แล้วต้วนเจี้ยนสามารถสังหารอสูรมังกรสีชาดได้ แต่เขาจงใจที่จะปล่อยให้มันรอดชีวิต เพื่อที่จะยืมกำลังของหยินหลางและลูกน้องของเขาในภายหลัง

 

          หลังจากที่หยินหลางและลูกน้องมุดเข้าไปในถ้ำที่ลึกมากพอ ต้วนเจี้ยนจึงบินตามเข้าไป ดูเหมือนว่าด้านในของถ้ำจะแคบเกินกว่าที่อสูรมังกรสีชาดจะเข้าไปได้ดั่งที่ต้วนเจี้ยนคิดเอาไว้

 

          หลังจากที่พวกเขาได้เข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ ภาพที่ได้เห็นเบื้องหน้านั้นทำให้พวกเขาตื่นตะลึงยิ่งนัก ภายในถ้ำแห่งนี้มีเมืองขนาดใหญ่อยู่ภายใน และพวกอสูรที่อยู่ภายใน ล้วนเป็นพวกอสูรที่มีสติปัญญาทั้งสิ้น [อสูรมังกรสีชาดนั้นมีเพียงความดุร้ายของสัตว์ป่าเท่านั้น]

 

          "ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเตรียมการอะไรบางอย่าง" ซานหลางพูดขึ้นมา ดูเหมือนว่าเมืองอสูรนี้จะมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด ตรงประตูเมืองเบื้องหน้าเต็มไปด้วยทหารอสูรที่คอยตรวจตราอยู่

 

          "ระวังตัวให้ดี อย่าให้พวกมันเห็นพวกเราได้" หยินหลางรีบบอกให้ทุกคนหลบซ่อนตัว

 

          "ดูเหมือนว่าสิ่งของที่ข้าต้องการจะอยู่ในเมืองอสูรนี้" ต้วนเจี้ยนพุดขึ้นมาด้วยสายตาที่เป็นประกาย เขานั้นจะต้องทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายมาจากเนี่ยลี่ให้สำเร็จ นั่นคือความตั้งใจของเขา

 

          "เจ้าโง่หรืออย่างไร อสูรมังกรสีชาดที่ไร้สติปัญญาพวกเรายังต้องวิ่งหนีกัน กับพวกอสูรที่มีสติปัญญาไม่ต่างจากมนุษย์ พวกเราจะเอาชนะได้เช่นใดกัน?" ซานหลางพูดด้วยความตกใจ ระดับพลังของพวกอสูรที่เห็นเบื้องหน้านั้นล้วนแต่มีความแข็งแกร่งในระดับเทพสงคราม นั่นหมายความว่าจะต้องมีอสูรระดับผู้นำที่มีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าอสูรมังกรสีชาดเป็นแน่ และกำลังคนในตอนนี้มีเพียงแค่ ต้วนเจี้ยน หยินหลาง ซานหลาง และผู้ติดตามอีกสองคนเท่านั้น

 

          "ที่พวกเรารอดชีวิตมาจากอสูรมังกรสีชาด ก็เป็นเพราะเขา แม้ว่าพวกเราจะเป็นกลุ่มโจร แต่บุญคุณต้องทดแทน หากจะตอบแทนเจ้าได้ แม้ว่าจะต้องบุกเข้าไปในเมืองอสูรข้าก็ยินดี" หยินหลางยกมือให้ซานหลางหยุดพูด ก่อนที่จะพูดออกไป

 

          "เช่นนั้นข้าก็ต้องขอบคุณแล้ว คนเช่นท่านหากจะโลดแล่นในยุทธภพก็คงมิได้ ต่ำต้อยไปกว่าผู้ใด ทำไมจึงได้มาเป็นโจรเช่นนี้" ต้วนเจี้ยนอดไม่ได้ที่จะสงสัย

 

          "ในอดีต ข้านั้นเคยเป็นถึงจอมยุทธที่มีชื่อเสียง ข้าคบหากับผู้คนที่จิตใจ ไม่สนใจว่าเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ทำให้พวกจอมยุทธฝ่ายธรรมะ ขับไล่ข้าจนข้าต้องกลายมาเป็นโจรเช่นทุกวันนี้ เด็กหนุ่มเช่นเจ้า ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่เคยได้ยินเรื่องราวของข้ามาก่อน" หยินหลางตอบกลับไป เขาเป็นคนที่มีอดีตล้ำลึกกว่าที่ต้วนเจี้ยนคิดไว้

 

          "แม้ว่าข้านั้นจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวของท่านมาก่อน แต่การที่ท่านนั้นฝึกฝนจนแข็งแกร่งระดับเทพสงครามขั้นที่แปดได้ นั่นก็นับว่าท่านต้องเป็นยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์ไม่น้อย หากได้พบกับนายท่านของข้า ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องสามารถบรรลุระดับพลังที่เหนือกว่าเทพสงครามได้เป็นแน่" ต้วนเจี้ยนพูดออกไปด้วยความนับถือ หากไม่ใช่เพราะเนี่ยลี่เขาก็คงไม่อาจแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

 

          "หากมีวาสนาข้าคงจะได้พบกับเขา จริงสิ นี่ดาบของเจ้ามันวิเศษยิ่งนัก แต่ข้าไม่อาจที่จะนำพลังของมันออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ หาไม่เช่นนั้นข้าคงสามารถจัดการอสูรมังกรสีชาดได้เป็นแน่" หยินหลางคืนดาบมังกรเพลิงทมิฬให้แก่ต้วนเจี้ยน

 

          "นี่คือดาบที่ตีขึ้นมาเพื่อข้า เป็นผลงานของเทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง"ต้วนเจี้ยนรับดาบมังกรเพลิงทมิฬมาไว้ในมือและตอบกลับไป

 

          "เทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง เช่นนั้นหรือ? เมื่อครั้งยังโลดแล่นอยู่ในยุทธภพข้าเคยได้ยินชื่อของเขา แต่เขานั้นเก็บตัวและจะตีอาวุธให้แก่ผู้ที่มีชะตาต้องกันเท่านั้น น่าเสียดายที่ข้าไม่มีวาสนาเช่นนั้น" หยินหลางพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา

 

          "ข้าจะสร้างความวุ่นวายให้แก่พวกอสูรหลังจากนั้นพวกเราจะลักลอบเข้าไปภายในเมือง เมืองที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ การที่จะค้นหาของที่ข้าต้องการคงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นข้าจะต้องหาข้อมูลจากพวกมันให้ได้มากที่สุดก่อน" ต้วนเจี้ยนบอกแผนของเขาให้กับหยินหลางและคนอื่น ๆ

 

          "เจ้าคิดจะสร้างความวุ่นวายด้วยวิธีใดกัน?" ซานหลางเอ่ยถามด้วยความไม่เชื่อมั่นเท่าใดนัก

 

          "เจ้าคอยดูด้วยตาของเจ้าเอง" ต้วนเจี้ยนพูดด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

 

          ต้วนเจี้ยนถือดาบมังกรเพลิงทมิฬไว้ในมือ และรวบรวมลมปราณไว้ที่ดาบในมือ และปล่อยไฟออกมา โดยที่เขาพยายามทำให้มีลักษณะคล้ายกับเปลวไฟของอสูรมังกรสีชาด ลูกไฟเหล่านั้นพุ่งไปทางกำแพงของเมืองหลาย ๆ จุดพร้อมกัน

 

          หลังจากนั้นความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในทันที ทำให้การป้องกันที่ประตูหน้าลดหย่อนลงไป เพราะพวกทหารอสูรต้องรีบช่วยกันดับไฟ พวกเขาจึงรีบปกปิดใบหน้าและลอบเข้าไปในเมืองอสูรทันที………จบตอน



แต่งโดย นายมะพร้าว







เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง