Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.86 กิเลนฟ้า
ทันทีที่หมอกกิเลนเมฆาของต้าฉีหลิงระเหยไปหมด
กิเลนเพลิงก็พุ่งกระแทกร่างของต้าฉีหลิงด้วยร่างที่มีเปลวไฟลุกไหม้ จนทำให้ต้าฉีหลิงล้มลง
หลังจากนั้นนางก็ใช้เท้าเหยียบไปบนตัวของต้าฉีหลิง เพื่อที่เขาจะลุกยืนขึ้นไม่ได้
“ข้านั้นยังเห็นแก่เจ้าที่เป็นผู้สืบทอดวรยุทธกิเลนสวรรค์
ข้าจึงไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้าจงปลดปล่อยจิตอสูรกิเลนเมฆา พี่สาวข้าซะ”
กิเลนเพลิงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด
“หากไร้จิตอสูรกิเลน
ข้าก็ไม่อาจบรรลุขั้นสูงสุดของวรยุทธกิเลนสวรรค์ได้ ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น”
ต้าฉีหลิงที่นอนอยู่กับพื้นตอบกลับไป ในตอนนี้ร่างกายของเขาค่อย ๆ
คลายการจากผสานร่าง เนื่องจากในตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่ไม่อาจต่อสู้ได้
“การที่จะนำจิตอสูรกิเลนเมฆาออกจากร่างกายของเจ้านั้น
ข้าแค่สังหารเจ้าก็สามารถทำได้แล้ว อย่าได้คิดยั่วยุข้า” กิเลนเพลิงพูดพร้อมกับรวบรวมเพลิงไว้ที่เท้า
เพื่อสร้างความเจ็บปวดให้ต้าฉีหลิง
ต้าฉีหลิงพยายามยกมือข้าหนึ่งแล้วจับขาของฮวาหั่วเอาไว้
และเริ่มทำการดูดพลังสวรรค์จากร่างของฮวาหั่วโดยตรง
“กิเลนกลืนสวรรค์!”
ต้าฉีหลิงพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มเยาะ แม้จะอยู่ในสภาพเช่นนี้เขาก็ยังไม่ได้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
“โง่เง่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเองก็สามารถใช้กิเลนกลืนสวรรค์ได้”
กิเลนเพลิงคุกเข่าลงบนร่างของต้าฉีหลิง พร้อมกับยื่นมือไปจับที่คอของต้าฉีหลิงเอาไว้
และเริ่มทำการดูดพลังสวรรค์กลับคืนมา
กิเลนเพลิงนั้นสามารถใช้กิเลนกลืนสวรรค์ได้เชี่ยวชาญกว่าต้าฉีหลิง
ทำให้พลังสวรรค์ของต้าฉีหลิงลดลงไปอย่างรวดเร็ว
“หยุดนะ อย่าดูดพลังสวรรค์ของข้าไป”
ต้าฉีหลิง ที่ถูกจับคออยู่พยายามพูดออกไป พร้อมกับปล่อยมือที่จับขาของฮวาเอาไว้
เมื่อได้ยินเช่นนั้นกิเลนเพลิงจึงปล่อยมือที่จับคอของเขาเอาไว้และพูดออกไปอีกครั้งว่า
“หากข้าดูดกลืนพลังสวรรค์ทั้งหมดของเจ้ามา
แม้จะมีดวงจิตกิเลนอยู่ในร่าง เจ้าก็ไม่ต่างจากผู้ไร้วรยุทธ จงเลือกเอาว่า
เจ้านั้นต้องการโลดเล่นอยู่ในยุทธภพต่อ หรือว่าต้องการเป็นเพียงผู้ไร้วรยุทธ”
คำพูดของกิเลนเพลิงนั้นร้อนแรงไม่ต่างไปจากเปลวไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ทั่วร่างของนาง
“ข้าจะคลายการผสานกับดวงจิตกิเลนเมฆา”
ต้าฉีหลิงพูดพร้อมกับหลับตา ดวงจิตกิเลนเมฆาค่อย ๆ ลอยขึ้นมาจากร่างของต้าฉีหลิง
กิเพลิงมองเห็นดวงจิตของกิเลนเมฆาที่กำลังยิ้ม
เป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความขอบคุณที่กิเลนเพลิงได้ปลดปล่อยนาง
“จากนี้ไปท่านพี่จะได้ล่องลอยขึ้นไปเบื้องบน
อยู่กับเมฆาที่ล่องบนท้องฟ้าที่ท่านพี่ชื่นชอบ” กิเลนเพลิงพูดออกไป
จิตของกิเลนเมฆายิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
ดวงจิตของนางนั้นค่อย ๆ ผสานเข้ากับกิเลนเพลิง เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ของนาง ๆ ค่อย ๆ
ดับมอดลงไป เกล็ดสีแดงเพลิงของนางส่วนหนึ่งแปรเปลี่ยนสายเป็นสีขาวอมฟ้า
ตรงส่วนเท้าของนางมีก้อนเมฆก้อนเล็ก ๆ
รองรับเอาไว้นั่นทำให้นางสามารถเหยียบย่างในอากาศได้
บัดนี้กิเลนเมฆากลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของนางแล้ว
“ดูเหมือนว่าพี่สาวของเจ้าจะต้องการอยู่กับเจ้านะ”
ฮวาหั่วพูดขึ้นมา เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
“ฮวาหั่ว ข้าขอบใจเจ้ายิ่งนัก”
กิเลนเพลิงมีน้ำตาไหลออกมาจาก
หลังจากนั้นนางก็กลับเข้าไปในห้วงขอบเขตวิญญาณของฮวาหั่วดังเดิม
ฮวาหั่วก้าวเท้าลงมาจากร่างของต้าฉีหลิง
และพูดออกไปว่า
“เมื่อกิเลนเพลิงไว้ชีวิตเจ้า
ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป และจงจำเอาไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองดวงจิตอสูรสายเลือดกิเลนอีก
หากข้ารู้ ข้าจะจัดการกับคนผู้นั้นซะ”
ต้าฉีหลิงไม่ได้ตอบกลับไปแต่อย่างใด
เขาพยายามลุกขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บมากเกินไป
เขามองไปยังคนของตระกูลฉีหลิง แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่เข้ามาช่วยพยุงเขาเลยแม้แต่น้อย
เพราะทุกคนรับรู้เรื่องที่เขานั้นทรยศต่อเมืองมนุษย์แล้ว
ถงฉีหลิงที่พ่ายแพ้ต่อเสี่ยวฉีหลิงในการประลองชิงอันดับผู้สืบทอด
เดิมออกมาที่หน้าเมืองและเห็นบิดาที่ได้รับบาดเจ็บ เขารีบวิ่งไปประคองบิดาทันที
แต่เนื่องจากเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการประลองอยู่ พวกเขาจึงล้มลงและนั่งประคองกันอยู่เท่านั้น
สายตาของทั้งสองมองไปที่คนของตระกูลฉีหลิง แต่ก็ไม่มีใครที่หันมาสบตากับพวกเขาไม่
“กิเลนฟ้า
คลายม่านพลังกิเลนคลุมสวรรค์ซะ ข้าจะปกป้องพวกเขาเอง” ฮวาหั่วตะโกนออกไป
ในตอนนี้นางไม่ต้องแบ่งพลังเพื่อใช้ในการต่อสู้ นางจึงสามารถใช้พลังทั้งหมดในการสร้างม่านพลังด้วยกิเลนคลุมสวรรค์เพียงลำพังได้
กิเลนฟ้า
ที่ต้องเผชิญหน้ากับกิเลนนรกสามร่างพร้อมกันนั้น
ทำให้เขาต้องใช้พลังไม่น้อยในการต่อสู้
การคลายท่านพลังที่คุ้มครองพวกสายเลือดผสมนั้น ก็คำให้เขาได้พลังกลับมาไม่น้อย
กิเลนนรกยังคงพุ่งเข้ามาโจมตีจากสามทิศทาง
แม้ว่ากิเลนฟ้าจะสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่า แต่ก็ไม่อาจรับมือ
กิเลนนรกทั้งสามได้
“กิเลนฟ้า
เจ้าอย่าลืมว่าเราสองคนรวมเป็นหนึ่ง ให้ข้าออกไปรับมือพวกมันก่อน”
ตู่ซื่อพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่ากิเลนฟ้าไม่อาจที่จะรับมือกิเลนนรกได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้นกิเลนฟ้าจึงให้ตู่ซื่อควบคุมร่างดังเดิม
ท่าทางการต่อสู้ของกิเลนฟ้านั้น ไม่เหมาะที่จะใช้มีดวงพระจันทร์ในการต่อสู้
ดังนั้นเขาจึงต่อสู้ด้วยการใช้กรงเล็บเท่านั้น เมื่อตู่ซื่อเป็นฝ่ายควบคุมร่าง
เขาจึงนับมีดวงพระจันทร์ออกมาอีกครั้ง
“หนีกลับเข้าไปในร่างของมนุษย์ ขี้ขลาดไม่ต่างจากปู่ของเจ้าเลยนะ”
กิเลนนรกทั้งสามพูดจาดูถูกกิเลนฟ้า
“สหายข้านั้น แค่เข้าไปฟื้นพลังเท่านั้น
ระหว่างนี้ข้าจะเล่นสนุกกับเจ้าไปก่อน” ตู่ซื่อตอบกลับไป
พร้อมกับตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที
กิเลนนรกสองตัวบุกมาจากท้ายและขวาพร้อมกัน
ตู่ซื่อใช้มีดวงพระจันทร์ในการปัดป้องและโจมตี
ทำให้กิเลนนรกทั้งสองไม่อาจทำให้ตู่ซื่อบาดเจ็บได้แม้แต่น้อย
“ไม่เลวรับมือข้าสองร่างพร้อมกันได้
นับว่ามีฝีมือทัดเทียมกับกิเลนฟ้า
แต่ถ้าข้าโจมตีพร้อมกันสามร่างเจ้านั้นก็จะมีสภาพไม่ต่างจากก่อนหน้านี้” กิเลนนรกร่างที่สามพุ่งเข้ามาโจมตีร่วมกับอีกสองร่างทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นตู่ซื่อจึงกระโดดขึ้นไปด้านบนทันที
กิเลนนรกทั้งสามกระโจนขึ้นไปพร้อมกันหมายที่จะปลิดชีพตู่ซื่อในคราวเดียว
ในตอนนี้ตู่ซื่อที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่อาจที่จะหลบได้เลย
“เกราะเทพจันทรา ชมแสงจันทร์!”
ตู่ซื่อใช้ลมปราณทำให้เกราะเทพจันทราส่องแสงประกายออกมา
ทำให้กิเลนนรกที่กระโดดตามมา ตราพร่ามัวจนมองไม่เห็นไปชั่วขณะ
จากนั้นตู่ซื่อก็นับมีดวงพระจันทร์ทั้งสองประกบเข้าด้วยกันและปาออกไปที่กิเลนนรกร่างหนึ่ง
ซึ่งทำให้ร่างของกิเลนนรกนั้นถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วนทันที
และเมื่อวกกลับมาก็ตัดร่างของกิเลนนรกอีกร่างขาดไป
ในตอนนี้กิเลนนรกเหลือเพียงร่างเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ตาของกิเลนนรกมองเห็นได้ตามปกติ
เขาก็มองไปที่ร่างของกิเลนนรกทั้งสองที่ถูกสังหารไป
กิเลนนรกพูดขึ้นมาด้วยความเจ็บแค้นว่า
“ใช้กลอุบายในการต่อสู้ พวกมนุษย์เช่นเจ้า
ไร้ยางอายยิ่งนัก”
“หากเจ้าพูดเช่นนั้น
การแยกร่างเป็นสามร่าง เป็นการต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาเช่นนั้นหรือ”
ตู่ซื่อพูดโต้ตอบกลับไป ทำให้กิเลนนรกถึงกับสะอึก ไม่พูดสิ่งใดมาโต้แย้ง
“กิเลนฟ้า
จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว” ตู่ซื่อพูดพร้อมกับปล่อยให้กิเลนฟ้าควบคุมร่างของเขาอีกครั้ง
“กิเลนนรก
เจ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ก่อไว้กับเผ่าพันธุ์กิเลนของเรา” กิเลนฟ้าพูดออกไป
พร้อมกับปลดปล่อยลมปราณสายฟ้าออกมา
เนื่องจากไม่ต้องใช้กิเลนคลุมสวรรค์สร้างม่านพลังแล้ว
ทำให้ตู่ซื่อและกิเลนฟ้าปลดปล่อยพลังในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าออกมาได้
“เจ้าเด็กน้อย ข้านั้นยังไม่ได้พ่ายแพ้
วรยุทธกิเลนนรกของข้าไม่ได้มีเพียงเท่านี้”
กิเลนนรกพูดขึ้นมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก
ทางด้าน
เสี่ยวฉีหลิงและเสี่ยวหนีเสิ่นที่ต่อสู้กับจินฉีหลิงและหยินฉีหลิงอยู่นั้น
การต่อสู้ยังคงเป็นไปอย่างทัดเทียดกัน และยังไม่มีผู้ใดพลาดท่า
เนื่องจากพลังของทั้งสี่คนนั้นไม่ต่างกันเท่าใดนัก
“ผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งและผู้สืบทอดลำดับที่สอง
มีฝีมือเพียงเท่านี้เองหรือ” เสี่ยวฉีหลิงยังคงพยายามยั่วโมโหอีกฝ่าย
เพื่อให้จินฉีหลิงและหยินฉีหลิงนั้นบุกเข้ามาโจมตี
วรยุทธกิเลนสวรรค์นั้นหากเป็นฝ่ายตั้งรับ
จะสามารถใช้ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการบุกจู่โจม
“คิดจะยั่วยุข้ากับน้องรอง เรื่องนั้นไม่มีทางที่จะสำเร็จ”
จินฉีหลิงตะโกนกลับไป พร้อมกับตั้งท่าเตรียมพร้อมในการตั้งรับ
ทันใดนั้นเอง กิเลนนรกก็พุ่งไปยังต้าฉีหลิงที่นั่งพักอยู่ หลังจากพ่ายแพ้แก่ฮวาหั่วและกิเลนเพลิงอยู่กับถงฉีหลิง
“ต้าฉีหลิง จงมอบร่างกายของเจ้าให้ข้าซะ!”
กิเลนนรกใช้เลือดของตนเขียนลวดลายอาคมที่หน้าผากของต้าฉิหลิง อย่างรวดเร็วและแทรกร่างเข้าไปในทันที
ต้าฉีหลิงที่กำลังบาดเจ็บอยู่นั้นไม่อาจที่จะขัดขืนกิเลนนรกได้แม้แต่น้อย
กิเลนนรกค่อย ๆ ควบคุมร่างกายของต้าฉีหลิงทันที
ในตอนนี้ร่างกายของต้าฉีหลิงนั้นมีเกล็ดสีดำปกคลุมทั่วร่างกาย และมีเขากิเลนสีดำขนาดใหญ่งอกมาที่หน้าผาก
และหางของกิเลนนรกก็งอกออกมาทางด้านหลังของต้าฉีหลิง
การผสานร่างกับต้าฉิหลิง
จะทำให้กิเลนนรกดึงพลังของต้าฉิหลิงมาใช้ได้ เช่นเดียวกับที่กิเลนฟ้าสามารถใช้พลังในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าของตู่ซื่อได้
“เจ้ากิเลนบ้า เจ้าทำอะไรบิดาข้า”
ถงฉีหลิงตะโกนต่อว่ากิเลนนรก พร้อมกับต่อยหมัดออก
“ร่างนี้ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ดูเหมือนว่าพลังก็ยังฟื้นคืนมาไม่เต็มที่ ถงฉีหลิงจงมาเป็นอาหารของข้า เพื่อฟื้นพลังให้ร่างกายบิดาเจ้าซะ!”
กิเลนนรกที่ควบคุมร่างของต้าฉีหลิง กัดเข้าที่คอของถงฉีหลิงทันที
จากนั้นก็ดูดกลืนร่างของถงฉีหลิงเข้าไปจนเหลือเพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น
“ท่านพ่อ! น้องเล็ก!” จินฉีหลิงและหยินฉีหลิง
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าพวกเขาละทิ้งการต่อสู้และพุ่งเข้าโจมตีกิเลนนรกทันที
“ใจกล้าไม่เลว ข้าจะดูดกลืนพวกเจ้าพี่น้องให้หมด
เพื่อให้พวกเจ้าได้ไปเจอกันที่นรก ฮ่าฮ่าฮ่า กิเลนนรกกลืนกิน!”
กิเลนนรกใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่คอของจินฉีหลิงและหยินฉีหลิง
ที่พุ่งเข้ามาจู่โจมและดูดกลืนร่างและพลังสวรรค์ของพวกเขาจนหมด
ด้วยการดูดกลืนพลังจากทั้งสามคน ทำให้กิเลนนรกในร่างของต้าฉีหลิงนั้นค่อย ๆ
เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“กิเลนนรก เจ้านี่มัน!”
กิเลนฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากิเลนนรกจะทำเช่นนี้
“การต่อสู้ระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่รู้ผล มาสู้กันต่อได้แล้ว”
กิเลนนรกพูดพร้อมกับปลดปล่อยลมปราณระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าออกมา ปรากฏคลื่นลมปราณสีดำที่ดูราวกับเมฆทมิฬ
และค่อย ๆ ขยายออกไปโดยรอบ
“ตู่ซื่อ กิเลนฟ้า!” ฮวาหั่วตะโกนออกไปด้วยความกังวลใจ
นางนั้นใช้พลังทั้งหมดไปกับการสร้างม่านพลังเอาไว้ หากนางปลดม่านพลังออกไป กิเลนนรกจะต้องหันมาเล่นงานพวกเขาเป็นแน่
“ฮวาหั่ว เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจัดการเรื่องนี้ได้
และข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ตู่ซื่อต้องบาดเจ็บไปด้วย” กิเลนฟ้าตะโกนกลับไป
“ท่านอาจารย์” เสี่ยวฉีหลิงและเสี่ยวหนีเสิ่น ทะยานมาอยู่ข้าง
ๆ ตู่ซื่อเพื่อช่วยต่อสู้
“พวกเจ้าจงไปสั่งให้คนพวกนั้นเข้าไปในเมือง
ถ้าไม่เช่นนั้นจะต้องถูกพลังของมันจนตายเป็นแน่” กิเลนฟ้าหันไปบอกกับทั้งสอง
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถ่ายทอดวรยุทธให้แก่ทั้งสองคนด้วยตนเอง
แต่เขาก็มองเห็นทั้งสองเป็นศิษย์ของตนเอง
“พวกเข้าเข้าใจแล้ว” แม้ว่าจะไม่เต็มใจเท่าใดนักแต่ทั้งสองก็เชื่อในคำพูดของอาจารย์
ทั้งสองจึงตอบรับและทะยานไปหาฮวาหั่วทันที
“ดูเหมือนว่า พลังเพียงเท่านี้จะยังไม่พอ
แต่โชคดีที่กลิ่นอายลมปราณของกิเลนเมฆายังคงหลงเหลืออยู่ในร่างนี้
ทำให้ข้าใช้วรยุทธนี้ได้ เมฆานรกกลืนกิน!” กิเลนนรก
ใช้ลมปราณสร้างเมฆหมอกสีดำออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวร อสูรทุกตนที่สัมผัสจะถูกเมฆหมอกเหล่านี้กลืนกินจนเหลือเพียงกลุ่มก้อนพลังสวรรค์เท่านั้น
“กิเลนคลุมสวรรค์!” ”
เสี่ยวฉีหลิงและเสี่ยวหนีเสิ่นรีบใช้กิเลนคลุมสวรรค์สร้างม่านป้องกันให้แก่พวกมนุษย์ทันที
“จงหลบเข้าไปในเมือง ถ้าไม่อยากตายเช่นเดียวกับอสูรพวกนั้น”
เสี่ยวฉีหลิงหันไปบอกกับพวกมนุษย์ที่อยู่หน้าเมือง
ทันทีที่ได้ยิน พวกมนุษย์ต่างวิ่งกรูกันเข้าไปหลบในเมืองทันที
ไม่มีใครกล้าที่จะดูการต่อสู้ในครั้งนี้อีกต่อไป
หลังจากที่เมฆหมอกได้ดูดกลืนอสูรที่อยู่หน้าเมืองทั้งหมด
เมฆหมอกเหล่านั้นก็มารวมตัวกันรอบกายของกิเลนนรก หลังจากนั้นกิเลนนรกก็ดูดกลืนเมฆหมอกทั้งหมดเข้าไปในร่างกาย
ด้วยการกลืนกินพลังสวรรค์จากอสูรทั้งเมืองทำให้กิเลนนรกนั้น
สามารถบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าได้แล้ว
“ในที่สุด ข้าก็มีพลังทัดเทียมกับบริวารแห่งเทพแล้ว”
กิเลนนรกหัวเราะด้วยความยินดี แม้จะต้องเสียชาวเมืองอสูรทั้งหมดไป
แต่เมื่อเทียบกับพลังระดับขอบเขตแห่งพระเจ้านับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก
“กิเลนฟ้า เจ้ามีหนทางที่จะเอาชนะได้หรือไม่?”
ตู่ซื่อถามด้วยความกังวล
“เจ้าจงมองการต่อสู้ของข้าให้ดี นี่คือกระบวนท่าสุดท้ายของวรยุทธกิเลนสวรรค์!” กิเลนฟ้าพูดขึ้นมา
พร้อมกับปลดปล่อยลมปราณสายฟ้าออกมาปะทะกับลมปราณสีดำของกิเลนนรก
การปะทะกันของลมปราณทั้งสอง ทำให้อากาศโดยรอบปั่นป่วน เมฆหมอกสีดำปะทะเข้ากับแสงสว่างจากสายฟ้า
ทำให้ท้องฟ้าถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างเห็นได้ชัด
“กิเลนคืนสวรรค์!”
กิเลนฟ้าตะโกนออกมาพร้อมกับพุ่งออกมาจากร่างของตู่ซื่อทันที ร่างกายของกิเลนฟ้าที่พุ่งออกมา
นั้นห่อหุ้มไปด้วยประกายแสงสีขาวจากสายฟ้าทั่วทั้งร่าง...............จบตอน
แต่งโดย นายมะพร้าว
Scroll to Top