Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.85 กิเลนเพลิง
ในเวลานี้
ทั้งแปดต่างจับจ้องกันตาไม่กระพริบ ส่วนคนที่เหลือต่างก็ได้แต่ยืนนิ่ง
รอดูการต่อสู้ของพวกเขาเท่านั้น ไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
จินฉีหลิง และ หยินฉีหลิง
เริ่มเคลื่อนไหวเป็นคู่แรก พวกเขานั้นโดย หยินฉีหลิงพุ่งเข้าโจมตีเสี่ยวหนีเสิ่น
ส่วนจินฉีหลิงนั้นพุ่งไปโจมตีเสี่ยวฉีหลิง
พวกเขาพยายามที่จะแยกเสี่ยวฉีหลิงและเสี่ยวหนีเสิ่นออกจากกัน
เสี่ยวฉีหลิงจับแขนทั้งสองข้างของเสี่ยวหนีเสิ่นเอาไว้
พร้อมกับเหวี่ยงนาง ให้ใช้เท้าโจมตีทั้งสองคนที่พุ่งเข้ามา
“กิเลนวายุบาทาล่องลอย”
เสี่ยวหนีเสิ่นใช้กระบวนท่ากิเลนทะลวงสวรรค์ด้วยเท้าทั้งสองข้าง
เมื่อผสานเข้ากับพลังของกิเลนวายุ ทำให้จินฉีหลิง และ
หยินฉีหลิงถูกเตะกระเด็นออกไป
เมื่อเสี่ยวฉีหลิงดึงเสี่ยวหนีเสิ่นกลับมา
นางม้วนตัวลงกับพื้นและตั้งท่าต่อสู้ต่อทันที
“สมแล้วที่เป็นเทพธิดาน้อยคนรักของข้า”
เสี่ยวฉีหลิงหันไปยิ้มให้กับเสี่ยวหนีเสิ่นพร้อมกับพูดหยอกล้อ
“กิเลนน้อย ระวัง!”
เสี่ยวฉีหลิงละสายตาเพียงครู่เดียว
ก็ถูกจินฉีหลิงพุ่งเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับต่อยเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง
“นี่คือ หมัดกิเลนทอง!” จินฉีหลิงพูดขึ้นมาหลังจากต่อยเข้าที่ใบหน้าของเสี่ยวฉีหลิง
เสี่ยวฉีหลิงหันไปมองด้วยความประหลาดใจ
จากตำแหน่งที่ถูกลูกเตะของเสี่ยวหนีเสิ่นไป
จินฉีหลิงไม่ควรที่จะพุ่งมาประชิดตัวเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนั้น
แต่เมื่อหันไปมองหยินฉีหลิง เขาก็เข้าใจได้ทันที หยินฉีหลิงนั้นจับขาของจินฉีหลิง
ขณะที่ถูกเตะ พร้อมกับเหวี่ยงจินฉีหลิง มายังตำแหน่งที่เขายืนอยู่เมื่อครู่
เสี่ยวฉีหลิงเช็คเลือดที่มุมปากของเขา
พร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่ม จากนี้ไปเขาจะไม่ยอมประมาทอีกเป็นครั้งที่สอง
“กิเลนร่ำสุรา”
เสี่ยวฉีหลิงพูดขึ้นมาเบา ๆ ทันทีที่ดื่มเหล้าลงไป ลมปราณรอบตัวของเขาเริ่มมีการสั่นไหว
จนไม่อาจจับทิศทางได้
“กงจักรทองคำ!”
จินฉีหลิงนำอาวุธคู่กายเขาออกมาทันที เป็นกงจักรขนาดใหญ่
ที่สามารถใช้ได้ทั้งการต่อสู้ระยะใกล้และไกล เนื่องจากมีช่องว่างให้ใช้มือจับได้
จึงสามารถใช้ฟันได้ราวกับดาบ
“ข้าจะหั่นเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ”
จินฉีหลิงเริ่มใช้กงจักรทองคำ เป็นอาวุธในการฟาดฟันเสี่ยวฉีหลิง
โดยกงจักรทองคำนี้ถูกอาบไปด้วยพลังจากวรยุทธกิเลนทะลวงสวรรค์เอาไว้
แต่เสี่ยวฉีหลิงก็สามารถหลบได้อย่างไม่ยากนัก
เนื่องจากเขาสามารถอ่านการเคลื่อนไหวของพลังสวรรค์ที่อยู่รอบกายของจินฉีหลิงได้
เขาจึงเคลื่อนไหวหลบไปตามกระแสพลังสวรรค์นั้น
“กิเลนวารีเลื่อนไหล”
การเคลื่อนไหวของเสี่ยวฉีหลิงนั้นลื่นไหลราวกับสายน้ำในลำธาร
ทำให้การโจมตีของจินฉีหลิงไม่อาจที่จะสัมผัสกายเขาได้แม้แต่น้อย
“พี่ใหญ่ ข้าจะช่วยท่านโจมตีเอง
เข็มเงินหมื่นเล่ม!” หยินฉีหลิงนำเข็มเงินออกมา และซัดเข็มเงินออกไปโจมตีเสี่ยวฉีหลิงทันที
“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า กิเลนวายุคมมีดสายลม!”
เสี่ยวหนีเสิ่นบินขึ้นไปด้านบน และสะบัดปีกที่อยู่ด้านหลังของนาง สายลมที่พัดออกไป
นั้นมีความคมดั่งใบมีด ทำให้เข็มเงินของหยินฉีหลิง ถูกพัดย้อนกลับไป
“น้องรอง!”
จินฉีหลิงตะโกนออกไปพร้อมกับแยกกงจักรทองคำออกเป็นสองชิ้น
และเหวี่ยงออกไปเพื่อปัดป้องเข็มเงินที่ถูกพัดกลับมา
และใช้ในการโจมตีเสี่ยวหนีเสิ่นไปพร้อม ๆ กัน
เข็มเงินที่ถูกพัดย้อนกลับมาถูกกงจักรทองคำกระแทกให้กระจายออกไป
ส่วนกงจักรทองคำก็พุ่งหาเสี่ยวหนีเสิ่นทันที
“ฝ่ามือกิเลนวารี!”
เสี่ยวฉีหลิงปล่อยลมปราณวารีออกจากกลางฝ่ามือกระแทกกงจักรทองคำให้กระเด็นออกไป
แต่ก็ทำให้กงจัรทองคำกลับมาอยู่ในมือของจินฉีหลิงอีกครั้ง
ในตอนนี้เขานั้นถือกงจักรทองคำอยู่ทั้งสองมือ
เมื่อการต่อสู้ของกลุ่มแรกเริ่มขึ้น ทางด้านคนอื่น ๆ
ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวทันทีกิเลนเพลิง ที่โกรธจนลุกเป็นไฟ พุ่งเข้าโจมตีต้าฉีหลิงที่ผสานเข้ากับจิตอสูรกิเลนเมฆาทันที
เพราะความโกรธแค้นการโจมตีของกิเลนเพลิงจึงเป็นการโจมตีโดยตรง
มิได้ใช้กระบวนท่าอันใดทำให้ ต้าฉีหลิงหลบได้ไม่ยากนัก และต่อยสวนกลับมาด้วยกระบวนท่ากิเลนทะลวงสวรรค์เข้าที่ลำตัวของฮวาหั่วเข้าอย่างจัง
ทำให้กิเลนเพลิงที่ควบคุมร่างอยู่ถึงกับกระอักเลือดออกมาทันที
“กิเลนเพลิง เจ้าต้องใจเย็นลงบ้าง
กับยอดฝีมือในระดับนั้นเจ้าจะสู้ด้วยอารมณ์เช่นนี้ไม่ได้”
ฮวาหั่วพูดเตือนกิเลนเพลิง แต่ก็ดูเหมือนว่าความพยายามของนางจะสูญเปล่า
“หากข้ารู้ว่านางคือกิเลนเพลิง
ข้าคงไม่ใช้พิษอสูรเพลิงกับนางเป็นแน่ น่าเสียดายยิ่งนัก”
กิเลนนรกพูดขึ้นมาเมื่อเห็นการต่อสู้ระหว่างกิเลนเพลิงและต้าฉีหลิงเริ่มขึ้น
“การใช้พิษอสูรเพลิงกับกิเลนเพลิงก็ไม่ต่างจากการเติมฟืนใต้กระทะ
แม้ว่าจะสร้างความเจ็บปวดให้นางในช่วงแรก
แต่สุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่เสริมพลังให้แก่นาง”
กิเลนฟ้าพูดกลับไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แต่ในใจของกิเลนฟ้านั้นรู้สึกเป็นห่วงนางยิ่งนัก
หากนางไม่ใจเย็นลงการเอาชนะต้าฉีหลิงนั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก
“ฉลาดหลักแหลมไม่ต่างไปจากปู่ของเจ้า เจ้าหลานชาย
เหตุใดเจ้าจึงไม่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับข้า ข้าจะให้เจ้าปกครองอาณาจักรแห่งนี้
ตัวข้านั้นก็แก่ชราแล้วคงอยู่ได้อีกไม่นาน
หากเจ้ายินดีข้าจะให้เจ้านั้นสืบทอดตำแหน่งของข้า” กิเลนนรกเอ่ยปากชักชวน
“หากข้ายอมสยบต่อเจ้า เมื่อตายไปคงไม่กล้าไปพบท่านปู่เป็นแน่
วันนี้ข้าจะขอแก้แค้นให้กับเผ่าพันธุ์กิเลนทุกคน ที่ถูกสังหารเพราะการทรยศของเจ้า”
กิเลนฟ้าโต้ตอบกลับไปด้วยความโกรธแค้น
ในตอนนี้ลมปราณที่แผ่ออกมาจากร่างของตู่ซื่อนั้น มีประกายสายฟ้าปรากฏอยู่ด้วยรอบ
เขาพร้อมที่จะทำการต่อสู้แล้ว
“กิเลนฟ้า เจ้าจะต้องใจเย็นให้มากที่สุด
หากไม่แล้วการต่อสู้ของเจ้าคงไม่ต่างไปจากกิเลนเพลิงเท่าใดนัก”
ตู่ซื่อรีบเอ่ยปากเตือน
เขารับรู้ได้ว่าฮวาหั่วพยายามเป็นอย่างมากที่จะให้กิเลนเพลิงใจเย็นลง
แต่ก็ยังไม่เป็นผล
“วรยุทธกิเลนสวรรค์เมื่อครั้งที่ปู่เจ้าคิดค้นวรยุทธนี้ขึ้นมา
ข้านั้นก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก น่าเสียดายที่ปู่ของเจ้าตายไปเสียก่อน
จึงไม่มีโอกาสได้ประมือกับวรยุทธที่ข้านั้นคิดค้นขึ้นมาภายหลัง
นี่คือวรยุทธกิเลนนรก! กระบวนท่าแรก กิเลนเงา” กิเลนนรกพูดพร้อมกับใช้ลมปราณสร้างร่างแยกขึ้นมา
ซึ่งมีลักษณะไม่ต่างจากกิเลนนรกเลยแม้แต่น้อย
“กรงเล็บกิเลนนรกทมิฬ!” กิเลนนรกทั้งสองตนเรียกกรงเล็บสีดำออกมา
และพุ่งเข้าจู่โจมกิเลนฟ้าจากสองทิศทาง
“กิเลนคลุมสวรรค์!”
กิเลนฟ้ารีบสร้างม่านพลังมาป้องกันตนเองทันที
ทำให้กรงเล็บของกิเลนนรกทั้งสองหยุดอยู่เบื้องหน้า แต่จากความเสียหายของม่านพลัง
กิเลนฟ้ารับรู้ได้ทันทีว่า กิเลนนรกทั้งสองเป็นร่างจริงทั้งคู่
“กิเลนคลุมสวรรค์ ข้านั้นได้คิดหาวิธีทำลายเอาไว้แล้ว
กรงเล็บกิเลนทะลวงสวรรค์!” กิเลนนรกทั้งสองเริ่มหมุนตัว และใช้กรงเล็บเจาะม่านพลังของกิเลนฟ้า
ด้วยพลังจากการหมุน แค่เพียงไม่นาน ม่านพลังของกิเลนฟ้าก็แตกกระจายไป
กิเลนฟ้าจึงรีบกระโดดถอยหลังไปทันที
“ถอยหลังหลบไปเช่นนั้นหรือ
ขี้ขลาดสมกับเป็นหลานของกิเลนสวรรค์เสียจริง”
กิเลนนรกท้งสองตนพูดเย้ยหยันกิเลนฟ้าพร้อม ๆ กัน
“ข้าไม่ได้ขี้ขลาด ท่านปู่สอนข้าเสมอว่า
การต่อสู้นั้นหาใช่การวิ่งชนภูผาหิน แต่เป็นการแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์”
กิเลนฟ้าโต้เถียงกลับไป
“ด้วยวรยุทธของข้า ต่อให้เป็นภูผาหิน
ข้าก็พร้อมที่จะทะลวงผ่านมันไป
ปู่ของเจ้านั้นคงไม่เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของวรยุทธที่ตนคิดขึ้นมา
จึงได้สั่งสอนเจ้าเช่นนั้น น่าสมเพชยิ่งนัก” กิเลนนรกพูดพร้อมกับหัวเราะ
เมื่อคิดถึงความอ่อนหัดของกิเลนสวรรค์
“ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังคิดจะยั่วโมโหข้า
เมื่อเจ้ามีสองร่างข้าก็จะกำจัดพร้อมกันทั้งสองร่าง กรงเล็บกิเลนฟ้า”
กิเลนฟ้าใช้ลมปราณสร้างกงเล็บขึ้นมาที่มือทั้งสองข้างของตู่ซื่อ
จากนั้นก็พุ่งไปหากิเลนนรกทั้งสองร่างด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้า
และใช้กรงเล็บเฉือนไปที่ร่างทั้งสองทันที
“ไม่เลว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีความสามารถถึงเพียงนี้”
กิเลนนรกพูดชื่นชม ขณะที่ค่อย ๆ ใช้พลังสวรรค์รักษาร่างกายทั้งคู่
“ข้าควรจะต้องเป็นฝ่ายที่ผิดหวัง ด้วยความสามารถเพียงเท่านี้
ข้าสามารถสังหารเจ้าโดยที่ไม่ต้องใช้กระบวนท่าสุดท้ายของวรยุทธกิเลนสวรรค์เสียด้วยซ้ำ”
กิเลนฟ้าจับจ้องไปที่กิเลนนรกทั้งสองและพูดตอบโต้กลับไป
“หากเจ้าสามารถโจมตีข้าได้ครั้งละสองร่าง
ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า เจ้าจะโจมตีสามร่างพร้อมกันได้หรือไม่?”
กิเลนนรกใช้ลมปราณสร้างร่างที่สามขึ้นมา ในตอนนี้กิเลนฟ้าต้องเผชิญหน้ากับกิเลนนรกพร้อมกันถึงสามร่าง
ทางด้านกิเลนเพลิงที่ต่อสู้กับต้าฉีหลิงอยู่นั้น
นางยังคงจู่โจมดั่งผู้ไร้วรยุทธ หลังจากต้าฉีหลิงหลบการโจมตีได้
ก็ใช้เท้าเตะเข้าที่ลำตัวของฮวาหั่ว ทำให้นางกลิ้งลงไปกับพื้น
“กิเลนเพลิง หากเจ้าไม่ยอมฟังข้า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าควบคุมร่างนี้อีกต่อไป”
ฮวาหั่วพูดพร้อมกับกลับมาควบคุมร่างกายด้วยตัวเอง
ในตอนนี้ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยบาดแผล จากการต่อสู้โดยไร้สติของกิเลนเพลิง
“ฮวาหั่วนี่เป็นการต่อสู้ของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้”
กิเลนเพลิงตะโกนอย่างบ้าคลั่งในห้วงขอบเขตวิญญาณของฮวาหั่ว
“กิเลนเพลิงฟังข้า
ข้าไม่เคยคิดที่จะขัดขวางการล้างแค้นของเจ้า แต่เจ้าต้องใจเย็นมากกว่านี้
จนกว่าเจ้าจะสงบสติได้ ข้าจะเป็นคนต่อสู้เอง”
ฮวาหั่วตอบกลับไปและตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที
“ดูเหมือนว่าจะต่างไปจากก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ทำให้ผลการต่อสู้นี้เปลี่ยนไปหรอกนะ! หมอกกิเลนเมฆา!” ต้าฉีหลิงใช้วรยุทธกิเลนคลุมสวรรค์ผสานเข้ากับหมอกของกิเลนเมฆา
สร้างม่านพลังเมฆาขึ้นมา ซึ่งไม่เพียงจะปิดกั้นการหนีของฮวาหั่ว
ยังสามารถใช้สะท้อนการโจมตี จนดูเหมือนเป็นการโจมตีที่ไร้ทิศทางได้ และยังทำให้ฮวาหั่วไม่อาจเข้าประชิดตัวได้อีกด้วย
“หากประชิดตัวไม่ได้ ก็ต้องใช้การโจมตีระยะไกล”
ฮวาหั่วรวบรวมพลังสวรรค์ไว้ที่ข้อมือ ก่อนที่จะปล่อยศรเพลิงออกไป
ลูกศรเพลิงพุ่งออกไปจำนวนสามดอก
แต่ทันทีที่ปะทะเข้ากับหมอกกิเลนเมฆา มันกลับสะท้อนกลับมาทั้งหมด และพุ่งมาตรงกับใบหน้าของฮวาหั่วทันที
“สะ...สลาย”
ฮวาหั่วรีบสลายพลังของศรเพลิงก่อนที่จะพุ่งเข้าที่ใบหน้าของนาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ด้วยวรยุทธนี้ของข้า
แม้แต่กิเลนนรกก็ไม่อาจทำลายได้ เจ้าเห็นหรือยังเล่า ว่าความคิดของข้านั้นถูกต้อง
ด้วยความสามารถของข้าในตอนนี้ การจะแย่งชิงกระจกข้ามภพมาจากกิเลนนรกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอันใด”
ต้าฉีหลิงพูดพร้อมกับถ่มน้ำลายลงพื้น เมื่อได้เห็นท่าทีของฮวาหั่ว
“ฮวาหั่ว ให้ข้าออกไปต่อสู้
ข้าคิดวิธีรับมือกระบวนท่านี้ได้แล้ว” กิเลนเพลิงพูดขึ้นมา
หลังจากที่ได้สงบสติอยู่ในร่างกายของฮวาหั่ว และเห็นการต่อสู้ของนาง
ทำให้กิเลนเพลิงนั้นใจเย็นลงแล้ว
“ใจเย็นลงแล้วสินะ เจ้าจงจำไว้ว่าเจ้ามิได้อยู่ตามลำพัง ข้า
ตู่ซื่อ และกิเลนฟ้านั้นอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ”
ฮวาหั่วพูดพร้อมกับปล่อยให้กิเลนเพลิงควบคุมร่างของนาง
“ข้าขอโทษที่ทำให้ร่างกายของเจ้าต้องบาดเจ็บถึงเพียงนี้ ข้าจะขอชดใช้ให้กับเจ้าด้วยการเอาชนะมนุษย์ผู้นี้
และนำดวงจิตของพี่สาวข้ากลับคืนมา” กิเลนเพลิงตอบกลับไป
ซึ่งคำตอบนี้ทำให้ฮวาหั่วอดที่จะยิ้มไม่ได้
“เปลี่ยนตัวอีกอีกแล้วเช่นนั้นหรือ
คิดว่าเจ้านั้นจะยังทำอันใดดีอีก?” ต้าฉีหลิงสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้ง จึงพูดออกไป
“แล้วเจ้าจะเห็นด้วยตาของเจ้าเอง กายาเพลิงแผดเผา!”
กิเลนเพลิงก้มตัวต่ำลงราวกับการตั้งท่าของสัตว์สี่เท้า
และใช้ลมปราณแผดเผาร่างกายจนลุกไหม้ขึ้นมา แม้จะเปลวเพลิงที่ร้อนแรง แต่ในใจของนางนั้นสงบจนฮวาหั่วสามารถสัมผัสได้
“หมอกกิเลนเมฆาของข้ากำลังระเหยไป” ต้าฉีหลิงพูดขึ้นด้วยความตกใจ.........จบตอน
แต่งโดย นายมะพร้าว
Scroll to Top