เหนือขึ้นไปด้านบนของนิกายเทพอสูร
เนี่ยลี่กับปรมาจารย์เทพชิงหลง [มังกรคราม] บินอยู่บนท้องฟ้า
สายตาของทั้งสองฝ่ายต่างจับจ้องกันตาไม่กระพริบ
เนี่ยลี่นั้นรู้ดีว่าระดับพลังของเขานั้นด้อยกว่าปรมาจารย์เทพชิงหลงถึงสามขั้น ดังนั้นเขาจึงไม่อาจที่จะประมาทได้
ปรมาจารย์เทพชิงหลง ปลดปล่อยลมปราณนะดับเทพสงครามขั้นที่เก้าออกมาเพื่อกดดันเนี่ยลี่
และเป็นการตรวจสอบดูว่าเนี่ยลี่นั้นแอบปกปิดพลังของตนเองเอาไว้หรือไม่
ซึ่งปรมาจารย์เทพชิงหลง สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ระดับพลังของเนี่ยลี่นั้นอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่หกเท่านั้น
ด้วยแรงกดดันจากลมปราณนะดับเทพสงครามขั้นที่เก้า
ทำให้เนี่ยลี่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นับว่าโชคดีที่เนี่ยลี่นั้นสวมใส่เกราะนักรบเทพวิญญาณ
ที่เป็นเกราะวิเศษระดับพระเจ้าจึงยังสามารถยืนอยู่ได้แม้ต้องพบกับลมปราณที่กดดันเขาอยู่
“คิดที่จะสู้กับข้า
ปรมาจารย์เทพชิงหลงผู้ครอบครองพื้นนภา นับว่ารนหาที่ตายโดยแท้”
ปรมาจารย์เทพชิงหลงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“มังกรคราม
[ชิงหลง] ผู้ครอบครองพื้นนภา
ช่างอวดอ้างตัวเองยิ่งนัก หากเป็นดั่งที่เจ้าอวดอ้าง เหตุใดจึงไม่นำอาวุธของเจ้าออกมาเล่า”
เนี่ยลี่ตอบกลับไปด้วยท่าท่างที่อวดดี
เขาไม่เคยหวาดกลัวปรมาจารย์เทพทั้งสี่แม้แต่น้อย
“อาวุธของข้าอยู่ที่ด้านหลังของเจ้าไงเล่า
อสนีบาต!” ปรมาจารย์เทพชิงหลงใช้ลมปราณควบคุมเมฆให้ปล่อยสายฟ้ามายังเนี่ยลี่ เนี่ยลี่รีบหมุนตัวหลบไปด้านข้างทันที
จึงสามารถหลบการโจมตีครั้งแรกเอาไว้ได้
“ดาบมังกรอสนีบาต”
ปรมาจารย์เทพชิงหลงเรียกดาบของเขาออกมาเป็นดาบขนาดใหญ่ตรงด้านจับเป็นรูปหัวมังกรกำลังกลืนกินตัวดาบอยู่
และดาบของเขามีประกายสายฟ้าอยู่โดยรอบ
เป็นดาบที่มีคุณสมบัติสายฟ้าเช่นเดียวกับกระบี่เทพอัสนีดาวตกของเนี่ยลี่
ส่วนฝักดาบนั้นเป็นโล่ห์ขนาดใหญ่ที่สามารถสวมใส่ที่แขนอีกข้างได้
“ตายซะ!” ปรมาจารย์เทพชิงหลงจับดาบมังกรอสนีบาตอย่างมั่นคงและพุ่งเข้าโจมตีเนี่ยลี่โดยทันที
ดาบมังกรอสนีบาตถูกฟันลงมาด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า หากใช้อาวุธธรรมดาในการต้านรับ
ก็จะต้องบาดเจ็บจากสายฟ้าที่อาบอยู่บนดาบมังกรอสนีบาต
“กระบี่เทพอัสนีดาวตก!” เนี่ยลี่รีบนำกระบี่เทพอัสนีดาวตกออกมาต้านรับในทันที
ด้วยคุณสมบัติสายฟ้าของกระบี่เทพอัสนีดาวตก จึงสามารถต้านสายฟ้าจากดาบมังกรอสนีบาตได้
แต่ด้วยพลังที่เหนือกว่าของปรมาจารย์เทพชิงหลง
ทำให้เนี่ยลี่ต้องพยายามเป็นอย่างมากในการต้านเอาไว้
ในตอนนี้ท้องฟ้าที่อยู่ด้านบนของทั้งสอง
ต่างก็ปกคลุมไปด้วยเมฆที่เต็มไปด้วยสายฟ้า มีเสียงฟ้าร้องดังอยู่โดยรอบตลอดเวลา
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่ด้านบนที่สูงขึ้นไปหลายร้อยเมตร เหนือก้อนเมฆที่สามารถมองเห็นได้จากด้านล่าง
การต่อสู้ของพวกเขาไม่มีผู้ใดที่มาสังเกตุดั่งการต่อสู้ของคนอื่น ๆ
ปรมาจารย์เทพชิงหลงยังคงใช้ดาบมังกรอสนีบาตฟันโจมตีเนี่ยลี่อย่างต่อเนื่อง
เนี่ยลี่ในเวลานี้ทำได้เพียงแค่ต้านรับเอาไว้เท่านั้น
เมื่อทำได้เพียงแค่ต้านรับ
เนี่ยลี่จึงพยายามถอยห่างออกมา และเก็บกระบี่เทพอัสนีดาวตกเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงเรียกจิตอสูรมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ออกมาและ
ผสานร่างในทันที ร่างกายของเนี่ยลี่ใหญ่โตขึ้นกว่าเจ็ดเมตร
ร่างกายของเขาห่อหุ้มด้วยเกล็ดสีแบล็คโกลด์
ปีกขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ใหญ่โตจนบดบังเมฆก้อนใหญ่ได้
“มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์
เจ้าได้จิตอสูรตนนี้มาจากที่ใดกัน” ปรมาจารย์เทพชิงหลงถามออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์นั้นเรียกได้ว่าเป็นมังกรสายเลือดดั้งเดิมที่เป็นดั่งบรรพชนของอสูรเผ่ามังกร
และมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์นั้นไม่เหลือรอดอยู่บนโลกนี้มานับหมื่นปีแล้ว
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
ดวงตาของเนี่ยลี่จับจ้องไปยังปรมาจารย์เทพชิงหลงและตอบกลับไป
“ข้าจะสังหารเจ้าและจะเอาเลือดของเจ้าเซ่นสังเวยแก่บรรพชน”
ปรมาจารย์เทพชิงหลงพุ่งเข้ามาโจมตีเนี่ยลี่อีกครั้ง
แต่ในตอนนี้เนี่ยลี่สามารถใช้กรงเล็บต้านเอาไว้ได้
กรงเล็บของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์หลังจากที่กลายพันธ์ครั้งที่สอง ก็ได้รับทักษะกรงเล็บมังกรอัสนี
ที่มีคุณสมบัติสายฟ้ามาทำให้สามารถใช้ต้านรับดาบมังกรอสนีบาตเอาไว้ได้ [อ้างอิงจากตอนที่สามร้อยหกสิบเอ็ด
เนี่ยลี่ได้ทักษะใหม่มาสองทักษะยังไม่มีการเปิดเผย]
ในยามที่ผสานเข้ากับจิตอสูรมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์
พลังของเนี่ยลี่นั้นจะเทียบเท่าระดับเทพสงครามขั้นที่เก้า
ทำให้ปรมาจารย์เทพชิงหลงเริ่มมีความกังวลเขาจึงหยิบยาทิพย์มังกรครามออกมาทาน
ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้น
ทันทีที่ระดับพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นเขารีบดาบมังกรอสนีบาตไปที่เนี่ยลี่อีกครั้ง
ซึ่งเนี่ยลี่ก็ใช้กรงเล็บมังกรอัสนีต้านรับเอาไว้ แต่ในคราวนี้กรงเล็บมังกรอัสนีไม่อาจที่จะป้องกันเอาไว้ได้
ดาบมังกรอสนีบาตสามารถตัดกรงเล็บและมือซ้ายของเนี่ยลี่ได้
ทันทีที่กรงเล็บและมือซ้ายของเนี่ยลี่ถูกตัดออกไป ก็ถูกเผาไหม้ด้วยสายฟ้าจนสลายไป
ด้วยพลังในการฟื้นตัวของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์
มือซ้ายของเนี่ยลี่จึงคืนสภาพกลับมาในเวลาไม่นานนัก
แต่หากไม่สามารถป้องกันการโจมตีของปรมาจารย์เทพชิงหลงได้
การฟื้นสภาพนี้ก็หาได้มีประโยชน์มากนัก
“เมื่อเจ้าสามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
ข้าก็จะหั่นเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ” ปรมาจารย์เทพชิงหลงพูดออกไปเมื่อเห็นว่ามือซ้ายของเนี่ยลี่คืนสภาพเช่นเดิมแล้ว
“ข้าต้องการรู้เสียจริงว่า
หากถูกตัดเป็นสองส่วนเจ้าจะสามารถคืนสภาพได้อีกหรือไม่?”
ปรมาจารย์เทพชิงตะโกนออกไปพร้อมกับฟันดาบมังกรอสนีบาตเพื่อผ่าร่างของเนี่ยลี่ให้เป็นสองส่วน
“คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำเช่นนั้นรึ!” เนี่ยลี่ใช้ฝ่ามือทั้งสองประกบดาบมังกรอสนีบาตเอาไว้
จากนั้นก็ใช้ทักษะลับอีกอย่างหนึ่งทันที
“เพลิงสายฟ้า!” เนี่ยลี่พ่นไฟออกมาจากปากมังกรวารี เป็นเปลวไฟที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้า
ไปที่ปรมาจารย์เทพชิงหลงทันที
“โลห์อสนีบาต!” ปรมาจารย์เทพชิงหลงยกโลห์ที่แขนซ้ายขึ้นมาป้องกัน
แต่เพลิงสายฟ้าของเนี่ยลี่นั้นมีความร้อนแรงยิ่งนัก โลห์อสนีบาตไม่อาจป้องกันได้ทั้งหมดทำให้ปรมาจารย์เทพชิงหลงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ทางด้านเนี่ยลี่เอง
การใช้ ทักษะนี้ต้องใช้พลังเป็นจำนวนมาก เมื่อใช้เสร็จร่างกายของเนี่ยลี่ก็คืนสภาพในรูปลักษณ์ของมนุษย์ทันที
ด้วยอาการบาดเจ็บ
ทำให้พลังของปรมาจารย์เทพชิงหลงลดลงมาในระดับเทพสงครามขั้นที่เก้าเท่านั้น
เขาจับจ้องมาที่เนี่ยลี่ด้วยความโกรธแค้น เขากำดาบมังกรอสนีบาตเอาไว้จนแน่น
และรวบรวมปราณสายฟ้าทั้งหมดของเขาเอาไว้ในดาบมังกรอสนีบาต
เนี่ยลี่สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าปรมาจารย์เทพชิงหลงคิดจะทำอะไร
เขาจึงรีบนำกระบี่เทพอัสนีดาวตกออกมาอีกครั้ง
ปรมาจารย์เทพชิงหลงยื่นดาบมังกรอสนีบาตมาทางด้านหน้า
มังกรส่วนที่เป็นด้ามจับพุ่งออกมาราวกับว่ากลืนกินตัวดาบและกลายเป็นมังกรสายฟ้าพุ่งเข้าหาเนี่ยลี่ทันที
“มังกรอัสนีกลืนสวรรค์!” ปรมาจารย์เทพชิงหลงใช้พลังเกือบทั้งหมดเพื่อใช้เพลงยุทธนี้ออกไป
เนี่ยลี่ต้องเผชิญหน้ากับมังกรอัสนีกลืนสวรรค์ที่พุ่งทะยานมาที่เขา
เขารวบรวมพลังสายฟ้าไว้ที่ปลายกระบี่เทพอัสนีดาวตกเช่นกัน
เขาใช้ปลายกระบี่แทงไปที่ปากของมังกรอัสนีกลืนสวรรค์และดึงกระบี่ออกมาราวกับล่อหลอกมังกรอัสนีกลืนสวรรค์
ไม่ต่างจากป้อนเหยื่อให้กับมังกรจากนั้นตวัดกระบี่ไปทางด้านหลัง
ด้วยพลังธาตุสายฟ้าของกระบี่เทพอัสนีดาวตกจึงดูราวกับว่ามังกรอัสนีกลืนสวรรค์กำลังไล่กลืนกินกระบี่เทพอัสนีดาวตกอยู่
หลังจากตวัดกระบี่อ้อมไปทางด้านหลัง
เนี่ยลี่ก็ทำการตวัดปลายกระบี่ไปทางด้านหน้าไปทางปรมาจารย์เทพชิงหลงทันที และปล่อยพลังสายฟ้าที่รวบรวมเอาไว้ไปยังปรมาจารย์เทพชิงหลง
“มังกรอัสนีคืนถิ่น!” หลังจากที่เนี่ยลี่ตะโกนออกไป
มังกรอัสนีกลืนสวรรค์ที่บินอ้อมมาทางด้านหลังของเนี่ยลี่
พุ่งกลับไปยังปรมาจารย์เทพชิงหลงทันที
กระบวนท่านี้เป็นการใช้กระบวนท่าของศัตรูให้ย้อนกลับไปโจมตีตนเอง
แต่หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเนี่ยลี่จะเป็นฝ่ายที่ถูกเล่นงานแทน
“เป็นไปไม่ได้”
ปรมาจารย์เทพชิงหลงพูดขึ้นด้วยความตกใจ เขาไม่อาจที่จะขยับตัวหลบได้ทัน
“อ๊ากกก!” เสียงของปรมาจารย์เทพชิงหลงร้องอย่างเจ็บปวด
จากนั้นก็หล่นลงไปเบื้องล่างทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นเนี่ยลี่จึงแกล้งทำเป็นว่าตัวของเขาร่วงหล่นลงไปด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะหล่นถึงพื้นเนี่ยลี่ได้ใช้พลังสัจธรรมแห่งปฐพีให้รองรับเขาอย่างอ่อนนุ่ม
ตูมม! ตูมม!
เสียงร่างของทั้งสองร่วงหล่นลงบนลานประลอง
เนี่ยลี่ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
ส่วนปรมาจารย์เทพชิงหลงนั้นไม่อาจที่จะลุกขึ้นยืนได้อีกเป็นครั้งที่สองแล้ว
ในตอนนี้การประลองของทั้งสี่ได้จบลงแล้ว
เนี่ยลี่เดินไปหาเหยียนหยางและปรมาจารย์เทียนหั่ว ส่วนปรมาจารย์อินเยวี่ย และ
หมิงเยี่ยวู่ซวงนั้นก็เดินทางกลับมาถึงนิกายเทพอสูรในเวลาไม่นานนัก
ร่างของปรมาจารย์เทพทั้งสาม
ถูกนำไปวางไว้ที่เก้าอี้ของพวกเขาที่อยู่ในลานประลอง
มีเพียวร่างของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงเท่านั้นที่ถูกเผาไหม้จนไม่เหลือซาก
เหล่าศิษย์ของนิกายเทพอสูรยังคงเต็มไปด้วยความแค้น
แต่พวกเขารู้ดีว่าคงไม่อาจเอาชนะผู้ที่สามารถสังหารปรมาจารย์เทพทั้งสี่
และโอรสศักดิ์สิทธิ์หลีหั่วได้
แต่ก็ยังมีอสูรอีกส่วนหนึ่งที่ได้เห็นการต่อสู้
พวกเขามองเห็นด้วยตาว่า คนเหล่านี้เอาชนะปรมาจารย์เทพทั้งสี่ได้อย่างยากลำบาก
หากพวกเขารวมพลังกันโจมตีอาจจะเอาชนะคนทั้งห้าได้
“พวกเราจงรวมพลังเพื่อล้างแค้นให้กับปรมาจารย์เทพทั้งสี่
และโอรสศักดิ์สิทธิ์หลีหั่ว!” เสียงของอสูรผู้หนึ่งตะโกนขึ้นมา
เขานั้นมีความแข็งแกร่งในระดับเทพสงครามขั้นที่สาม
เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามที่มีความแข็งแกร่งที่สุดของนิกายเทพอสูรในเวลานี้
เขาเป็นลูกน้องคนสนิทของหลีหั่ว มีนามว่าเฮยหั่ว [เพลิงสีดำ]
“ฆ่าพวกมันซะ
ล้างแค้นให้เหล่าปรมาจารย์เทพ!” เสียงของศิษย์นิกายเทพอสูรเริ่มตะโกนออกมาด้วยความฮึกเหิม
“ช้าก่อน!” อู๋หยาจื่อทะยานออกไปขวางเอาไว้
ในตอนนี้เขานั้นบรรลุระดับเทพสงครามขั้นที่หนึ่งแล้ว
“อู๋หยาจื่อ
เจ้าคิดจะทำอันใดกัน คิดจะขัดขวางการล้างแค้นแก่ปรมาจารย์เทพทั้งสี่หรืออย่างไร?” เฮยหั่วชี้ไปที่อู๋หยาจื่อและตะโกนออกไปด้วยความโกรธ
“ข้าควรจะเป็นฝ่ายที่ถามท่านมากกว่า
เฮยหั่ว ท่านคิดที่จะทำลายเกียรติของปรมาจารย์เทพทั้งสี่และนิกายเทพอสูรหรืออย่างไร?” อู่หยาจื่อตอบกลับไปด้วยเสียงที่ดังพอที่จะให้ทั่วทั้งนิกายได้ยิน
“การล้างแค้นให้แก่ปรมาจารย์ทั้งสี่
เป็นการทำลายเกียรติของท่าน เช่นใดกัน หากปล่อยให้คนเหล่านี้รอดกลับไปนั่นสิ
จึงเป็นการทำลายเกียรติของนิกายเทพอสูร!”
เฮยหั่วตอบโต้กลับไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้องไม่ต่างกัน
“ถูกต้องแล้ว
สังหารพวกมันเพื่อรักษาเกียรติของนิกายเทพอสูร!”
กองกำลังโดยรอบตะโกนสนับสนุนเฮยหั่วอีกครั้ง
ในตอนนี้เนี่ยลี่และคนอื่น
ๆ ได้ ยืนเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้หากไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
“พวกเจ้าจงคิดดูให้ดี
ปรมาจารย์เทพทั้งสี่ได้ต่อสู้กับพวกเขาตัวต่อตัว และพวกเขาก็พ่ายแพ้อย่างสมเกียรติ
ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าปรมาจารย์เทพทั้งสี่ของพวกเราล้วนพลังในระดับที่ทัดเทียมกันกับพวกเขา
พวกเขาแค่พลาดท่าในครั้งนี้ จึงเป็นฝ่ายปราชัย
แม้ว่าพวกเราร่วมมือกันต่อสู้กับพวกเขาในเวลานี้
พวกเราอาจจะสังหารพวกเขาได้แต่พวกเราก็จะไร้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี หรือไม่ก็ถูกพวกเขาสังหารจนนิกายเทพอสูรต้องถูกลบชื่อออกไป
หากพวกเราฝึกฝนตามแนวทางที่ปรมาจารย์เทพทั้งสี่ได้วางเอาไว้
ข้าเชื่อว่าเราจะก้าวข้ามความแข็งแกร่งของปรมาจารย์เทพทั้งสี่ได้
และเมื่อเวลานั้นมาถึง
พวกเราจะไปท้าประลองกับพวกเขาเพื่อนำชัยชนะมาเซ่นสังเวยให้แก่ปรมาจารย์เทพทั้งสี่!”
อู๋หยาจื่อค่อย
ๆ พูดออกไปอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น กองกำลังที่อยู่โดยรอบต่างนิ่งเงียบ
ที่อู๋หยาจื่อพูดมานั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่พวกเขาควรทำคือการรักษานิกายเทพอสูรเอาไว้
และฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถเอาชนะพวกเขาได้ในการประลอง จึงจะเป็นการรักษาเกียรติของปรมาจารย์เทพทั้งสี่และนิกายเทพอสูรอย่างแท้จริง……จบตอน