test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

20 ธ.ค. 2559

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.56 เทียนหั่ว ปะทะ เสวียนหมิง





เมื่อเห็นท่าทีของปรมาจารย์เทพทั้งสี่ ปรมาจารย์เทียนหั่วจึงรีบตะโกนออกไปทันที


“เหยียนหยาง เจ้าจะต้องทำการปรับแต่งห้วงขอบเขตวิญญาณของเจ้าให้มั่นคงก่อน จากนี้ไป พวกข้าจะจัดการเอง”


เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยางจึงรีบนั่งลงและทำการปรับแต่งห้วงขอบเขตวิญญาณของของตน


ทางด้านเนี่ยลี่ หมิงเยี่ยวู่ซวง ปรมาจารย์เทียนหั่ว และ ปรมาจารย์อินเยวี่ย ต่างก็ยืนขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทันที


“จากนี้ไป จะต้องแยกกันต่อสู้ตามแผน” เนี่ยลี่บอกกับทุกคนขณะที่สายตาจับจ้องไปยังปรมาจารย์แห่งเทพทั้งสี่


เสวียนหมิง[เต่าดำ]กับข้านั้น มีเรื่องที่ต้องสะสางกัน ดังนั้นให้ข้าจัดการเอง” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงที่กำลังโกรธเกรี้ยวอยู่เบื้องหน้า


“ถ้าเช่นนั้นขอข้าเล่นสนุกกับจูเชวี่ย [วิหคสีชาด]เอง เข็มพิษของเขานั้นไม่อาจสัมผัสร่างกายข้าได้แม้แต่เล่มเดียว” ปรมาจารย์อินเยวี่ยพูดขึ้นมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันงดงาม


ปรมาจารย์เทพไป๋หู่ [พยัคฆ์ขาว] ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า” หมิงเยี่ยวู่ซวงพูดขณะที่นำพิณเมฆาสวรรค์ออกมา


“ตกลง! ข้าจะจัดการกับ ปรมาจารย์เทพชิงหลง [มังกรคราม]เอง อย่าลืมแผนที่คุยกันเอาไว้” เนี่ยลี่พยักหน้าพร้อมกับบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือลานประลอง


“เจ้าเด็กนั่นคิดจะหนีงั้นรึ ไม่มีทาง!ปรมาจารย์เทพจูเชวี่ยตะโกนออกไปพร้อมกับบินขึ้นไปหาเนี่ยลี่ แต่ก็ถูกปรมาจารย์อินเยวี่ยขวางเอาไว้


“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าจูเชวี่ย” ปรมาจารย์อินเยวี่ยพูดพร้อมกับหยิบขลุ่ยออกมาเป่าเป็นบทเพลงอันไพเราะ


เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์เทพจูเชวี่ยถูกขวางเอาไว้ ปรมาจารย์เทพชิงหลงจึงบินตามเนี่ยลี่ไปทันที เนี่ยลี่นั้นมิได้บินหนีไปที่ใด เพียงแค่บินตรงขึ้นไปด้านบนเท่านั้น


แตร๊งงงงง


หมิงเยี่ยวู่ซวง ใช้นิ้วอันเรี้ยวยาวกรีดไปบนสายพิณ และปล่อยลมปราณที่ดูราวกับเข็มพุ่งไปยังปรมาจารย์เทพไป๋หู่ เพื่อดึงความสนใจ และบินไปทางภูเขาด้านหลังนิกายเทพอสูรทันที


ในตอนนี้ปรมาจารย์เทพทั้งสู่รับรู้ได้ทันทีว่า ฝ่ายเนี่ยลี่ต้องการที่จะแยกพวกเขาไปสู้ตามลำพัง ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการเช่นกัน


“ดูเหมือนว่าพวกเราคงจะต้องสะสางความแค้นทั้งหมดในวันนี้” ปรมาจารย์เทียนหั่วค่อย ๆ เดินไปยังลานประลองที่ถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดีเบื้องหน้าอย่างสงบ


“ข้าจะเอาเลือดเจ้ามาเซ่นสังเวยให้แก่หลีหั่วศิษย์ของข้า!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว เขาเรียกอาวุธของเขาขึ้นมาในมือ มันคือตะขอพรากวิญญาณ  ตรงด้านหนึ่งจะมีตะขอขนาดใหญ่ที่ส่วนปลายมีลักษณะคล้ายเคียวที่มีความคมกริบ ส่วนปลายของตะขอมีโซ่ขนาดใหญ่อยู่ และปลายอีกด้านของโซ่ก็มีลูกตุ้มเหล็กอยู่ เขาเหวี่ยงตะขอมาทางปรมาจารย์เทียนหั่วทันที


กึก!


ปลายตะขอถูกหยุดด้วยปลายนิ้วเพียงสองนิ้วของปรมาจารย์เทียนหั่ว เขารวบรวมเพลิงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่ปลายนิ้วทั้งสอง และใช้นิ้วทั้งสองคีบตรงส่วนปลายของตะขอพรากวิญญาณเอาไว้


“พลังในระดับเทพสงครามขั้นที่แปดนั้นไม่อาจที่จะทำอันใดข้าได้หรอกนะ” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สงบ ในตอนนี้เขาเก็บศิลาเร้นเมฆาเอาไว้แต่ แต่ยังคงปิดกั้นพลังของตนเองเอาไว้ในระดับเทพสงครามขั้นที่เก้าด้วยพลังของตนเอง


“อย่าดูถูกข้า!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงตะโกนกลับไปพร้อมกับแผ่ลมปราณเพลิงทมิฬลงไปยังโซ่ที่ผูกติดกับตะขอพรากวิญญาณ เพลิงทมิฬค่อย ๆ ลุกไหม้ไปตามสายโซ่จนไปถึงปลายตะขอ ทำให้ปรมาจารย์เทียนหั่วต้องรีบปล่อยมือจากตะขอพรากวิญญาณทันที


“เมื่อจับตะขอของข้าไม่ได้ เจ้าจะทำเช่นใดได้อีก ตะขอเพลิงทมิฬ!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงพูดพร้อมกับเหวี่ยงตะขอพรากวิญญาณไปที่ปรมาจารย์เทียนหั่วอีกครั้ง ในตอนนี้ตะขอพรากวิญญาณลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงทมิฬ


“หากจับไม่ได้ ข้าก็แค่ไม่ต้องจับเท่านั้น”  ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตะขอพรากวิญญาณจึงพุ่งผ่านไปโดยที่ไม่สัมผัสปรมาจารย์เทียนหั่วแม้เพียงชายเสื้อ


“ตะขอเพลิงพรากวิญญาณ!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงกระชากตะขอกลับมาอย่างรวดเร็วทำให้ส่วนปลายตะขอที่มีลักษณะคล้ายเคียวพุ่งกลับมาทางด้านหลังปรมาจารย์เทียนหั่ว


แกร้งง!


เสียงของเหล็กปะทะกันดังกึกก้อง ตะขอพรากวิญญาณที่อาบด้วยลมปราณเพลิงทมิฬ ถูกขวางเอาไว้ด้วยกระบี่เพลิงสวรรค์


กระบี่เพลิงสวรรค์พุ่งออกมาจากฝักกระบี่ที่อยู่ข้างกายของเหยียนหยาง ที่นั่งปรับแต่งห้วงขอบเขตวิญญาณอยู่ และพุ่งขึ้นมาปกป้องปรมาจารย์เทียนหั่วราวกับมีชีวิต


“ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้ใช้เจ้าอีกครั้ง” ปรมาจารย์เทียนหั่วยื่นมือไปจับกระบี่เพลิงสวรรค์ เขานั้นใช้กระบี่เล่มนี้มานับร้อยปี ก่อนที่จะมอบให้แก่เหยียนหยาง


เมื่อปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง ได้เห็นปรมาจารย์เทียนหั่ว เขาก็เริ่มที่จะระมัดระวังมากขึ้น เขารู้ดีว่ายามที่ปรมาจารย์เทียนหั่วถือกระบี่เพลิงสวรรค์นั้นร้ายกาจเพียงใด


“ยามที่ข้าถือกระบี่เพลิงสวรรค์ เจ้าคงพร้อมที่จะมอดไหม้แล้วสินะ” ปรมาจารย์เทียนหั่วค่อย ๆ ใช้ลมปราณอัคคีห่อหุ้มกระบี่เพลิงสวรรค์เอาไว้


“อย่าคิดว่า ข้าจะหวาดกลัวเจ้า! ตุ้มโลกันตร์” ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงเหวี่ยงปลายอีกด้านของตะขอพรากวิญญาณ ไปทางปรมาจารย์เทียนหั่วอย่างรุนแรง


“วรยุทธของเจ้านั้น มิได้ต่างจากที่เคยต่อสู้กันเมื่อหลายสิบปีก่อนเลยนะ” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดพร้อมกับใช้กระบี่เพลิงสวรรค์ที่อาบด้วยลมปราณอัคคีฟันลงไปที่ตุ้มเหล็กทันที ลูกต้มเหล็กและโซ่ถูกตัดขาดออกเป็นแนวยาวสองส่วนทันที


“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ อสรพิษสองเศียร!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงยิ้มเยาะเมื่อเห็นการโต้กลับของปรมาจารย์เทียนหั่ว เขาสะบัดโซ่ในมือ แค่ครั้งเดียว โซ่ใหญ่พร้อมกับลูกตุ้มเหล็กที่ถูกตัดเป็นสองส่วน ก็แปรสภาพกลายเป็นโซ่เหล็กและลูกตุ้มเหล็กสองเส้นแทน และพุ่งเข้าไปมัดแขนทั้งสองข้างของปรมาจารย์เทียนหั่วราวกับมีชีวิต


เหล่ากองกำลังของนิกายเทพอสูรเมื่อเห็นเช่นนั้นต่างก็กู่ร้องด้วยความสะใจ


“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะซุกซ่อนวรยุทธเช่นนี้เอาไว้” ปรมาจารย์เทียนหั่วพยายามดิ้นรน แต่ดูเหมือนว่าโซ่เหล็กนั้นจะรัดตัวของเขาแน่นมากยิ่งขึ้น


“ด้วยพลังที่ด้อยกว่า แม้ว่าข้าจะโจมตีรุนแรงเท่าใด ก็คงทำได้เพียงแค่ให้เจ้านั้นได้รับบาดเจ็บเท่านั้น การที่จะสังหารเจ้าได้นั้นข้าคงต้องใช้สิ่งนี้” ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงหยิบยาทิพย์มังกรครามออกมาและทานเข้าไป


ระดับพลังของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงในตอนนี้ แม้จะไม่อาจเทียบได้กับตอนที่หลีหั่วทานยาทิพย์มังกรครามเข้าไป แต่พลังของเขาในตอนนี้ก็เทียบเท่าระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้วเช่นกัน


“ด้วยพลังของข้าในตอนนี้ การตัดคอเจ้านั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก ศิษย์ข้า ข้ากำลังจะล้างแค้นให้เจ้าแล้ว” ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงใช้มือจับตะขอพรากวิญญาณด้านที่มีส่วนปลายคล้ายกับเคียวอันคมกริบ ฟันลงไปตรงส่วนคอของปรมาจารย์เทียนหั่วทันที


แกร้งง!


มีเสียงดังกึกก้อง โซ่ที่รัดตัวของปรมาจารย์เทียนหั่ว กระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลมปราณที่แผ่ออกมา ทำให้ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงถูกพัดถอยออกมา ร่างกายของปรมาจารย์เทียนหั่วในตอนนี้ ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาจะมิได้สวมใส่เกราะเพลิงสวรรค์สีชาด แต่เขาก็สามารถสร้างเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ด้วยลมปราณในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้า


“นี่มันอะไรกัน?ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงพูดขึ้นด้วยความตกใจ ระดับพลังของปรมาจารย์เทียนหั่วนั้นเพิ่มขึ้นมาในระดับเดียวกับเขาโดยไม่ต้องใช้ยาทิพย์มังกรคราม


เสวียนหมิงเอ๋ย เจ้าจะยอมแพ้เพียงเท่านี้หรือไม่?” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง แต่เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ห่อหุ้มร่างกายเขาอยู่กลับร้อนแรงมากยิ่งขึ้น


“หุบปาก!ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงตะโกนออกไปพร้อมกับปลดปล่อยลมปราณออกมา ในตอนนี้ร่างกายของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงทมิฬสีดำ ที่ลุกโชนไม่ต่างจาก เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์เทียนหั่ว


เสวียนหมิง เจ้าทำได้ถึงขั้นนี้เชียวหรือ?”  ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจไม่น้อย เนื่องจากกว่าที่เขาจะสามารถใช้เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ห่อหุ้มร่างกายของตนเองได้ เขาต้องใช้เวลาหลายเดือนหลังจากที่บรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้า การที่ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงสามารถทำเช่นนี้ได้ทันที นับว่าพรสวรรค์ของเขานั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าปรมาจารย์เทียนหั่วเสียอีก


“หากชำระแค้นได้ ข้ายอมที่จะทำทุกอย่าง” ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงพุ่งเข้าโจมตีปรมาจารย์เทียนหั่วอีกครั้ง ในครั้งนี้ปรมาจารย์เทียนหั่วต้องใช้กระบี่เพลิงสวรรค์ต้านรับ เพราะเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้น ไม่อาจต้านทานการโจมตีจากตะขอพรากวิญญาณที่ห่อหุ้มเพลิงทมิฬในตอนนี้ได้อีกต่อไป


แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งในระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าเท่ากัน แต่ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงดูเหมือนว่า จะเหนือกว่าปรมาจารย์เทียนหั่วเล็กน้อย เนื่องจากปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจึงสามารถรีดเร้นความแข็งแกร่งออกมาได้มากกว่า


ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงยังคงใช้ตะขอพรากวิญญาณโจมตีใส่ปรมาจารย์เทียนหั่วอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ปรมาจารย์เทียนหั่วทำได้เพียงแค่ใช้กระบี่เพลิงสวรรค์ในการต้านรับเท่านั้น


ทันใดนั้นเอง ก็มีงูขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากพื้นดินและเริ่มรัดปรมาจารย์เทียนหั่วจากขาขึ้นมา งูตัวนี้ก็คือหางของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงนั่นเอง [ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงมีหางเป็นงู อธิบายไว้ใน บทที่ 444.19 บริวารแห่งเทพ]
         

    “มันจะจบลงเพียงเท่านี้เทียนหั่ว” ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงใช้ตะขอพรากวิญญาณ โจมตีใส่ปรมาจารย์เทียนหั่วสุดแรง


ตูมม!


แม้ว่าปรมาจารย์เทียนหั่วจะใช้กระบี่เพลิงสวรรค์ต้านเอาไว้ได้ แต่การที่ขาไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคง ทำให้ได้รับแรงปะทะจากการโจมตีไม่น้อย แม้แต่งูที่เป็นหางของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงที่รัดขาของปรมาจารย์เทียนหั่วเอาไว้ ด้วยความรุนแรงจากการโจมตีของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง ก็ถึงกับระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ เลยทีเดียว


ในตอนนี้ ปรมาจารย์เทียนหั่วได้รับบาดเจ็บจนแทบจะลุกไม่ขึ้น เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เคยลุกโชนอยู่ก็ดับมอดไป ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงจ้องมองมาและหัวเราะด้วยความสะใจ


“ข้าเอาชนะเจ้าได้แล้ว ข้าชนะแล้ว ข้าล้างแค้นให้แก่ศิษย์ของข้าได้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”


ร่างกายของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง ยังคงมีเปลวเพลิงทมิฬห่อหุ้มอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะลุกโชนมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะมอดดับลงไป ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงยังคงหัวเราะด้วยความยินดีกับชัยชนะ ขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มถูกเปลวเพลิงทมิฬเผาไหม้ แค่เพียงไม่นานร่างกายของปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงก็ถูกเปลวเพลิงทมิฬ เผาไหม้ไปจนหมด



ปรมาจารย์เทียนหั่วเดินขึ้นมายัง ตำแหน่งที่ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงเคยยืนอยู่ และพูดขึ้นมาว่า “เจ้ายอมที่จะถูกเปลวเพลิงทมิฬเผาจนสิ้นซาก เพียงเพื่อที่จะเอาชนะข้า ข้ายอมรับในความมุ่งมั่นของเจ้า”.................จบตอน


แต่งโดย นายมะพร้าว


เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง