test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

15 ธ.ค. 2559

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.51 นิกายเทพอัคคีและนิกายเสียงสวรรค์


         
        หลังจากที่ได้กระจกข้ามภพชิ้นแรกมา เนี่ยลี่กลับเข้ามาในนิกายพิทักษ์สวรรค์อีกครั้ง เพื่อคิดหาทางในการรวบรวมกระจกข้ามภพทั้งเก้าชิ้น
         

        “ในอาณาจักรซากมังกร นิกายเทพอสูรจะต้องมีกระจกข้ามภพอยู่เป็นแน่” เนี่ยลี่หารือกับหลี่ชิงอวิ๋น
         “ถ้าเช่นนั้นคงถึงเวลาที่จะต้องกำจัดนิกายเทพอสูรให้สิ้นซากแล้ว” หลี่ชิงอวิ๋นพูดขึ้นมา
         

         “ข้ามีความคิดที่จะให้เหยียนหยางแห่งนิกายกเทพอัคคี เป็นคนจัดการในเรื่องนี้” เนี่ยลี่คิดว่าเหยียนหยางในเวลานี้ คงใกล้ที่จะบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้ว
         

        “ด้วยกำลังของนิกายเทพอัคคี เจ้าคิดว่าจะสามารถกำจัดนิกายเทพอสูรได้เช่นนั้นหรือ?” หลี่ชิงอวิ๋นแย้งขึ้นมา
         

         “คงจริงดั่งพี่ชิงอวิ๋นว่า ในนิกายเทพอสูรมีปรมาจารย์เทพทั้งสี่ ที่มีความแข็งแกร่งระดับเทพสงครามขั้นที่แปดและเก้าอยู่” เนี่ยลี่พยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปว่านิกายเทพอัคคีนั้น ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากเขามีเพียงปรมาจารย์เทียนหั่ว และเหยียนหยางเท่านั้น
         

         “หากให้เหยียนหยางร่วมมือกับหมิงเยี่ย วู่ซวงแห่งนิกายเสียงสวรรค์ น่าจะรับมือกับนิกายเทพอสูรได้” หลี่ชิงอวิ๋นเสนอความเห็นขึ้นมา
         

         “นับว่าเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย หากพวกเรานำกำลังบุกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ข้าต้องการให้เหยียนหยางและหมิงเยี่ยวู่ซวง ได้มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากขึ้น ก่อนที่สงครามใหญ่จะมาถึง” เนี่ยลี่ตอบกลับไป
         

         “พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปยังนิกายเทพอัคคี สำหรับนิกายพิทักษ์สวรรค์ข้าคงต้องปล่อยให้ท่านดูแลเพียงลำพังแล้ว” เนี่ยลี่กล่าวลาหลี่ชิงอวิ๋น และขอตัวไปพักผ่อน
         

          เช้าวันต่อมา เนี่ยลี่ได้ใช้เคล็ดวิชาเส้นทางสวรรค์ เปิดประตูไปยังนิกายเทพอัคคี
         

          นิกายเทพอัคคีตั้งอยู่ในบริเวรเทือกเขาอัคคี เป็นเทือกเขาที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ศิษย์ของนิกายเทพอัคคีสามารถดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ไปพร้อมกับพลังสวรรค์ได้ จึงทำให้การบ่มเพาะพลังก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่านิกายอื่น ๆ
         
         เนี่ยลี่มายืนอยู่ตรงด้านหน้ากำแพงของนิกาย ประตูที่กั้นเอาไว้สร้างมาจากศิลาไฟ หากไม่ได้รับอนุญาตประตูนี้จะไม่เปิดออกโดยเด็ดขาด
         

       “ข้าคือเนี่ยลี่แห่งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์มาขอพบโอรสศักดิ์สิทธิ์เหยียนหยาง” เนี่ยลี่ตะโกนเข้าไปด้านในกำแพง
         

        ยอดฝีมือที่มีหน้าที่ดูแลประตู นั้นไม่รู้จักเนี่ยลี่จึงได้ตอบกลับไปโดยไม่ใยดีนัก
         

      “เจ้าจงยืนรออยู่ตรงนั้น จนกว่าพวกข้าจะไปแจ้งกับโอรสศักดิ์สิทธิ์เหยียนหยาง ว่าจะยินดีให้เจ้าเข้าพบหรือไม่”
         

      “ตกลง” เนี่ยลี่แอบยืนยิ้มที่มุมปาก และตอบกลับไป
         

      หลังจากนั้นไม่นาน ประตูของนิกายก็ถูกเปิดออก เหยียนหยางเดินทางมารับเนี่ยลี่ด้วยตัวเอง ทำให้ยอดฝีมือที่มีหน้าที่ดูแลประตู รู้สึกตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าเนี่ยลี่จะเป็นแขกคนสำคัญเช่นนี้
         

      “พวกเจ้าให้ประมุขเนี่ยยืนรอเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เหยียนหยางพูดตำหนิผู้ดูแลประตู
         

      “พี่เหยียนหยางอย่าได้ตำหนิพวกเขา พวกเขาแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น” เนี่ยลี่โบกมือห้ามเหยียนหยาง
         
      “ขอบคุณประมุขเนี่ยที่ไม่ถือสา” เหล่ายอดฝีมือที่มีหน้าที่ดูแลประตูประสานมือพร้อมกับคุกเข่าเพื่อขอบคุณเนี่ยลี่ พวกเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าเนี่ยลี่นั้นมีตำแหน่งเป็นถึงประมุขแห่งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
         

       “พี่เหยียนหยางข้ามีเรื่องที่ต้องไหว้วานท่าน ไม่ทราบว่าระดับพลังของท่านก้าวหน้าถึงเพียงไหนแล้ว” เนี่ยลี่เอ่ยถามขณะที่เดินเข้าไปนิกายเทพอัคคีกับเหยียนหยาง
         

       “ด้วยยาทิพย์ของเจ้าทำให้ข้าบรรลุระดับเทพสงครามขั้นที่เก้าแล้ว เหลือเพียงก้าวเดียวข้าก็จะบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าเช่นเดียวกับท่านอาจารย์ของข้า” เหยียนหยางพูดขึ้นมาด้วยความยินดี ยาทิพย์ของเนี่ยลี่นั้นวิเศษยิ่งนัก
         

      หลังจากที่เดินมาถึงตำหนักรับรอง มีปรมาจารย์เทียนหั่วนั่งรออยู่ที่นั่น
         

      “ประมุขเนี่ยเหตุใดจึงเดินทางมาโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้ หากข้าไม่ได้กำลังหารือกับเหยียนหยางก่อนหน้านี้ คงไม่ทราบเรื่องที่ท่านเดินทางมา” ปรมาจารย์เทียนหั่วลุกขึ้นยืนและพูดเนี่ยลี่ด้วยความยินดี
         
      “ท่านปรมาจารย์เทียนหั่ว พี่เหยียนหยาง ข้ามาคราวนี้เนื่องจากมีเรื่องสำคัญ ข้าต้องการพูดคุยกับพวกท่านตามลำพัง” เนี่ยลี่ประสานมือคารวะและพูดออกไป
         

       “พวกเจ้าจงออกไป และปิดประตูให้แน่นหนา” ปรมาจารย์เทียนหั่วโบกมือให้เหล่าคนรับใช้ออกไปจากตำหนักรับรอง
         

       “ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดแล้ว เชิญพูดมาได้” ปรมาจารย์เทียนหั่วหันไปพูดกับเนี่ยลี่
         

       “ในอีกไม่ถึงสองปี จะมีสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์และกองทัพของจักรพรรดิปราชญ์ ข้าต้องเตรียมความพร้อมทั้งหมดเอาไว้ และหนึ่งสิ่งที่ต้องทำคือการรวบรวมกระจกข้ามภพ”  เนี่ยลี่พูดพร้อมกับนำกระจกข้ามภพออกมา
         

        “ของสิ่งนี้สามารถทำสิ่งใดได้” เหยียนหยางอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
         

       “สิ่งนี้คือสิ่งที่ บริวารแห่งเทพ ของจักรพรรดิปราชญ์ใช้ติดต่อกับนิกายอสูรที่อยู่บนโลกใบนี้ และหากข้ารวบรวมมาได้ทั้งหมดจะสร้างผลดีให้กับฝ่ายเราถึงสองเรื่องคือ หนึ่งบริวารแห่งเทพจะไม่อาจสั่งการลงมายังโลกใบนี้ได้ และสองเมื่อรวบรวมได้ครบจะสามารถเปิดเส้นทางไปยังดินแดนแห่งสวรรค์ ซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าบริวารแห่งเทพได้” เนี่ยลี่อธิบายอย่างช้า ๆ
         

       “หมายความว่าประมุขเนี่ยคิดที่จะเปิดก่อสงครามกับนิกายเทพอสูร!” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดด้วยความตกใจ แม้ว่าเจ็ดนิกายรวมเป็นหนึ่งและมีผู้ที่บรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้านับสิบคนแล้วก็ตาม แต่หากมีสงครามเกิดขึ้น ต้องมีศิษย์ที่ต้องล้มตายไม่น้อยเป็นแน่
         

      “ข้าต้องการให้พี่เหยียนหยางและพี่หมิงเยี่ยวู่ซวงแห่งนิกายเสียงสวรรค์ ไปต่อสู้กับนิกายเทพอสูร” เนี่ยลี่พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง
         

      “ไม่ใช่กองกำลังทั้งหมด แต่เพียงแค่สองคน!”  ปรมาจารย์เทียนหั่วตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างมาก
         

       “การบุกนิกายเทพอสูรนั้น หากข้านำกองกำลังจากนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์บุกไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากอันใด แต่ข้าต้องการให้พี่เหยียนหยางและพี่หมิงเยี่ยวู่ซวง ได้มีประสบการณ์ในการต่อสู้ ก่อนที่สงครามครั้งใหญ่จะมาถึง” เนี่ยลี่ตอบกลับไป
         

       “แต่น่าเสียดาย ที่ทั้งสองคนยังไม่บรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้า การบุกไปเป็นเพียงการแสวงหาความตายเท่านั้น” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดพร้อมกับส่ายหน้า
         

       “ข้านั้นต้องการเพียงกระจกข้ามภพ หาใช่การกวาดล้างนิกายเทพอสูรให้สิ้นซากไม่” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับเผยรอยยิ้ม
         

       “เจ้ามีแผนเช่นใดกัน?” เหยียนหยางถามออกไป เขารู้ว่าเนี่ยลี่นั้นเจ้าเล่ห์เพียงใด
         

       “เราจะทำการเจรจาท้าประลองและวางเดิมพัน ซึ่งเรื่องนี้คงต้องลำบากท่านปรมาจารย์เทียนหั่วแล้ว” เนี่ยลี่หันไปมองปรมาจารย์เทียนหั่วและพูดขึ้นมา
         
       “ข้าเข้าใจแล้วว่าเจ้าต้องการทำเช่นใด” ปรมาจารย์เทียนหั่วหัวเราะพร้อมกับลูบเคราของเขา
         

       “เจ้าได้แจ้งเรื่องนี้กับหมิงเยี่ย วู่ซวงแล้วเช่นนั้นหรือ?” เหยียนหยางถามออกไป
         

        “ข้ารอให้พวกท่านรับปาก จากนั้นจึงจะเดินทางไปยังนิกายเสียงสวรรค์ หากเป็นไปได้ คงต้องรบกวนให้พวกท่านทั้งสองเดินทางไปด้วย” เนี่ยลี่ตอบพร้อมกับยิ้ม
         

       “จากนิกายเทพอัคคีของเรา หากต้องเดินทางไปยังนิกายเสียงสวรรค์คงต้องใช้เวลาหลายวัน” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดพร้อมกับมีท่าทางกังวลใจ
         
      “ปรมาจารย์เทียนหั่วอย่าได้กังวล ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น เส้นทางสวรรค์!” เนี่ยลี่ผสานเข้ากับจิตอสูรจู่ลี่ และเปิดเส้นทางสวรรค์ขึ้นมา ต้องใช้เวลาราวห้านาที เส้นทางสวรรค์จึงเปิดกว้างพอที่จะเดินผ่านไปได้


นิกายเสียงสวรรค์นั้นตั้งอยู่บนหุบเขาอินเยวี่ย [หุบเขาแห่งเสียงเพลง] เป็นหุบเขาที่มีสายลมพัดพาอยู่ตลอดเวลา ยามที่สายลมพัดพาผ่านหุบเขา ก็จะบังเกิดเสียงสะท้อน ตามรูปร่างของหุบเขา เมื่อฟังแล้วราวกับเป็นบทเพลงแห่งสวรรค์เลยทีเดียว


เมื่อปรมาจารย์เทียนหั่วมาเยือน ศิษย์ของนิกายเสียงสวรรค์ต่างออกมาต้อนรับอย่างสุภาพ และเชิญไปยังตำหนักรับรองที่อยู่ด้านนอกนิกาย


เนื่องจากนิกายเสียงสวรรค์ไม่อนุญาตให้บุรุษเข้าไปโดยเด็ดขาด จึงมีตำหนักรับรองอยู่ด้านนอก ปรมาจารย์เทียนหั่วได้แจ้งไปว่า ต้องการมาดื่มชากับปรมาจารย์อินเยวี่ย และขอพบกับศิษย์เอกทั้งสามของนิกายเสียงสวรรค์ด้วย
         

     หลังจากที่ปรมาจารย์อินเยวี่ย หมิงเยี่ย วู่ซวง เอียจื่ออวิ๋น และเซี่ยวหนิงเอ๋อ ออกมายังตำหนักรับรอง เมื่อได้เห็นเนี่ยลี่ เอียจื่ออวิ๋น และเซี่ยวหนิงเอ๋อก็อดที่จะยินดีไม่ได้
         

      “ข้าคิดแล้วว่าเทียนหั่ว คงจะไม่ได้ต้องการมาดื่มชากับข้าเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่รีบร้อนเดินทางมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเช่นนี้” ปรมาจารย์อินเยวี่ยพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะ เมื่อได้เห็นทั้งสามคน
         

      “ข้าต้องขออภัยด้วยที่ต้องแจ้งไปเช่นนั้น คงต้องรบกวนท่านแล้วอินเยวี่ย ขอให้ท่านใช้ลมปราณปิดกั้นเสียงไม่ให้เล็ดรอดออกไปจากตำหนักนี้ด้วย” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดขึ้นมาพร้อมกับประสานมือเพื่อขออภัย
        

       เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปรมาจารย์อินเยวี่ยจึงสะบัดแขนขวาของนาง จากนั้นเพียงครู่เดียวโดยรอบตำหนักก็เหมือนกับมีกำแพงเสียงกั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
         
       “คงจะเป็นเรื่องสำคัญมากสินะ เชิญพูดได้” ปรมาจารย์อินเยวี่ยพูดหลังจากที่สร้างกำแพงเสียงเสร็จแล้ว
         

      “เรื่องนี้ข้าจะเป็นผู้พูดเอง” เนี่ยลี่พูดแทรกขึ้นมา และอธิบายต่ออย่างช้า ๆ ว่า
         

       “เรื่องแรก ในอีกราวสองปีข้างหน้า จะมีสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์และกองทัพของจักรพรรดิปราชญ์ ข้าต้องเตรียมความพร้อมทั้งหมดเอาไว้ และหนึ่งสิ่งที่ต้องทำคือการรวบรวมกระจกข้ามภพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ บริวารแห่งเทพ ของจักรพรรดิปราชญ์ใช้ติดต่อกับนิกายอสูรที่อยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งข้าคิดว่าจะอยู่ในนิกายอสูรของแต่ละอาณาจักร กระจกข้ามภพชิ้นแรกนี้ข้าได้มาหลังจากที่ยึดครองอาณาจักรกำแพงสวรรค์ได้”
         

       เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยลี่ ทุกคนต่างก็ตกใจยิ่งนัก เนี่ยลี่สามารถอาณาจักรกำแพงสวรรค์ได้ เรื่องนี้ใหญ่โตเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้แล้ว
         

      “จื่ออวิ๋น หนิงเอ๋อ ข้าจะให้เจ้าทั้งสองนำกองกำลังไปบุกยึดครองอาณาจักรเทพอัสนีเหมันต์ ซึ่งพวกเจ้าจะต้องเดินทางหลังจากที่ได้อาวุธใหม่จากเทพศาสตราวุธเถี่ยเจี้ยง” เนี่ยลี่หันไปบอกกับทั้งสองคน
         
      “นี่มันจะไม่เกินกำลังไปหน่อยเช่นนั้นหรือ?” ปรมาจารย์อินเยวี่ยแย้งขึ้นมา
         

       “ท่านปรมาจารย์อินเยวี่ย จื่ออวิ๋น และ หนิงเอ๋อ นั้นบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้ว และในอาณาจักรเทพอัสนีเหมันต์ยอดฝีมือส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับเทพสงครามเท่านั้น แม้แต่ผู้ครอบครองอาณาจักรยังมีความแข็งแกร่งแค่เพียงระดับเทพสงครามขั้นที่เจ็ดเท่านั้น” เนี่ยลี่ยิ้มและตอบกลับไป
         

      “ท่านอาจารย์ข้าสามารถทำเรื่องนี้ได้” เอียจื่ออวิ๋นและเซี่ยวหนิงเอ๋อพูดขึ้นมาพร้อมกัน พวกนางรู้ดีว่าเนี่ยลี่ ไม่มีทางที่จะให้พวกนางทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
         

       “สำหรับพี่หมิงเยี่ย วู่ซวง ข้าต้องการให้ท่านเดินทางไปกับพี่เหยียนหยาง เพื่อท้าประลองกับนิกายเทพอสูร เพื่อชิงเอากระจกข้ามภพมา” เนี่ยลี่หันไปพูดกับหมิงเยี่ย วู่ซวง
         

       “โชคดียิ่งนัก เมื่อไม่นานมานี้ข้าเองก็ได้บรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้าแล้ว เรื่องที่เจ้าร้องขอจึงไม่ได้เกินกำลังข้าแม้แต่น้อย” หมิงเยี่ย วู่ซวงตอบรับด้วยความยินดี หลังจากที่นางสละตำแหน่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เอียจื่ออวิ๋น นางก็ได้ปิดประตุฝึกตน เมื่อได้รับยาทิพย์จากเนี่ยลี่ นางจึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
         

      “อินเยวี่ย ท่านก็สามารถไปชมการประลองกับข้าได้ หากท่านกับข้าเดินทางไปพร้อมกับ พวกนิกายเทพอสูรจะต้องมีความเกรงใจพวกเราเป็นแน่” ปรมาจารย์เทียนหั่วพูดด้วยความยินดี
         

      “ดูเหมือนว่าข้าคงจะไม่อาจแย้งสิ่งใดได้ ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” ปรมาจารย์อินเยวี่ยพูดพร้อมกับถอนหายใจ
         

      “ถ้าเช่นนั้น เราจะไปพักกันที่นิกายเทพอัคคี และในวันพรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางไปยังนิกายเทพอสูร จื่ออวิ๋น หนิงเอ๋ออีกราวครึ่งเดือนข้าจะมารับพวกเจ้า ขอให้จัดเตรียมกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งไม่น้อยกว่าระดับเทพสงครามขั้นที่ห้า ที่จะติดตามพวกเจ้าไปด้วย” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับลุกขึ้น
         

      เนี่ยลี่ผสานกับจิตอสูรจู่ลี่ และเปิดเส้นทางสวรรค์ขึ้นมา หลังจากที่ ปรมาจารย์เทียนหั่ว ปรมาจารย์อินเยวี่ย เหยียนหยาง และ หมิงเยี่ย วู่ซวง เดินข้ามไปแล้ว เนี่ยลี่หันมายิ้มให้กับเอียจื่ออวิ๋นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ และพูดขึ้นมาว่า “แล้วเจอกันนะ”
         

        เอียจื่ออวิ๋นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ ยิ้มตอบกลับมา พร้อมกับโบกมือลา จากนี้ไปอีกครึ่งเดือน พวกนางจะต้องพยายามเลื่อนระดับพลังให้สูงขึ้นยิ่งกว่านี้..............จบตอน
        


แต่งโดย นายมะพร้าว



เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง