test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

29 ต.ค. 2559

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.4 สงครามภายนอก


ผู้ที่ลอบเข้ามาในที่คุมขังของตระกูลผนึกมังกรตอบกลับไปว่า
         
“ข้าคือศิษย์ของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น นามว่าอู๋เหยี่ยน”
         
“ท่านมีธุระอันใดกับข้า?” หลงเทียนหมิงถามไปด้วยความสงสัย
         
“ในอีกไม่นาน เจ้าก็จะพ้นโทษกักขังแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าเนี่ยลี่จะปล่อยเจ้าไป เจ้ายินดีที่จะร่วมมือกับข้าหรือไม่?” อาจารย์อู๋เหยี่ยน บอกความต้องการของเขาออกไป
         
“หึ! เนี่ยลี่ได้เป็นผู้นำนิกายไปแล้ว ข้ากับท่านจะทำสิ่งใดได้?” หลงเทียนหมิงพูดออกไปอย่างเย็นชา
         
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าเจ้านั้นติดต่อกับนิกายเทพอสูร!” อาจารย์อู๋เหยี่ยนพูดออกไป
         
“จะ...เจ้าพูดบ้าอันใดกัน?” หลงเทียนหมิงตอบกลับไปด้วยความแปลกใจยิ่งนัก
         
“หลงเทียนหมิง ข้านั้นหาใช่คนโง่ ด้วยความสามารถของเจ้าเพียงลำพัง เจ้าจะก้าวล้ำเกินกว่าซื่อถู เป่ยเอี๋ยนได้อย่างไร?” อาจารย์อู๋เหยี่ยนพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
         

     “ถ้าหากเจ้าพ้นโทษออกไปและติดต่อกับนิกายเทพอสูรได้ ข้าต้องการให้เจ้าแนะนำข้าให้แก่นิกายเทพอสูร ในเวลานี้ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นก็มิได้กลับมาฝึกฝนอยู่ที่ตำหนักเช่นเดิม ข้าเองก็กลายเป็นเพียงหมาหัวเน่าเท่านั้น ถ้าหากนิกายเทพอสูรยอมมอบอำนาจให้แก่ข้า ข้าก็ยินดีที่จะเผยความลับของนิกายของเราออกไป ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ข้าจะลอบเข้ามาอีกครั้งเพื่อขอรับคำตอบจากเจ้า ข้าขอตัว” ทันทีที่พูดจบอาจารย์อู๋เหยี่ยนก็หลบออกไปในทันที
         

  หลงเทียนหมิงเองก็รู้ดีว่า อาจารย์อู๋เหยี่ยนกับเนี่ยลี่นั้นไม่ลงรอยกันนัก นับตั้งแต่การประลองในเขตกลาง แต่เขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะความลับเรื่องการติดต่อกับนิกายเทพอสูร หากมีคนล่วงรู้ เขาก็ต้องรับโทษตายสถานเดียวเท่านั้น
         

พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
         

   เนี่ยลี่กับเสวียนอวี่ได้เดินทางมาถึง อวิ๋นเมี่ยและเพื่อนของเขาอีกห้าคน พาชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ยินดีจะติดตามเนี่ยลี่มารวมตัวกัน
         
“นายท่าน ระหว่างที่ท่านเสวียนอวี่เดินทางกลับไป ข้าได้ชักชวนคนมาเพิ่มได้ ในตอนนี้มีราวสองพันห้าร้อยคนที่ยินดีทำ พันธสัญญากับนายท่านขอรับ” อวิ๋นเมี่ยรายงานแก่เนี่ยลี่
         

     “ทุกคนที่ยินดีที่จะติดตามข้า ข้าจะมอบศิลาจิตวิญญาณให้แก่ทุกคน คนละห้าหมื่นก้อน ถ้าหากพวกเจ้าตกลง ก็จงนำหนังสือพันธสัญญามาให้แก่ข้า” เนี่ยลี่นำศิลาจิตวิญญาณออกมาหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านก้อน อวิ๋นเมี่ยรวบรวมหนังสือพันธสัญญามาให้แก่เนี่ยลี่ และทำหน้าที่แจกจ่ายศิลาจิตวิญญาณให้กับทุกคน

เนี่ยลี่ถือหนังสือพันธสัญญาทั้งสองพันกว่าฉบับเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“จากนี้ไปพวกเจ้าทุกคน ต้องติดตามข้าเป็นเวลาสองปี และหลังจากที่ผ่านไปสองปี หากพวกเจ้าคนใดไม่ต้องการที่จะติดตามข้าต่อไป ก็สามารถแยกตัวออกไปได้ทุกเมื่อ! ข้าจะไม่เหนี่ยวรั้งพวกเจ้าเอาไว้!” จากนั้นเนี่ยลี่ก็กัดนิ้วหัวแม่มือขวาของเขา และหยดเลือดลงในหนังสือพันธสัญญา กว่าจะทำทั้งหมดจนเสร็จต้องใช้เวลาและเสียเลือดไปไม่น้อย

“โชคดีที่มีเพียงเท่านี้ หากต้องเสียเลือดมากกว่านี้ข้าคงล้มพับเป็นแน่” เนี่ยลี่พูดกับเหล่าชนเผ่าเมฆาสวรรค์พร้อมกับยิ้ม

“สำหรับชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะติดตามข้า ทุก ๆ เดือนข้าจะเดินทางมายังพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด เพื่อมารับพวกเจ้าคราวละห้าร้อยคน และนี่คือน้ำใจจากข้า” เนี่ยลี่นำอาหารจำนวนมากออกมาจากแหวนห้วงมิติของเขา

เป็นอาหารที่มากพอสำหรับคนสองพันกว่าคนในหนึ่งเดือน ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้อง ออกไปขายตนเองเพื่อเป็นทาสผู้อื่นในเวลาหนึ่งเดือนนี้

“เสวียนอวี่ ข้าขอยืมกระท่อมของเจ้าได้หรือไม่?” เนี่ยลี่หันไปพูดกับเสวียนอวี่

“ในตอนนี้ครอบครัวของข้าทุกคนก็ยินที่จะที่ติดตามท่าน กระท่อมของข้าก็ไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่แล้ว นายท่านสามารถใช้ได้ตามที่ต้องการ” เสวียนอวี่ประสานมือตอบกลับไป

“เสวียนอวี่ อวิ๋นเมี่ย และอีกห้าคนเข้ามาข้างในกระท่อม ข้ามีงานให้พวกเจ้าทำ” เนี่ยลี่หันไปบอกพวกอวิ๋นเมี่ย

“ขอรับ” เสวียนอวี่ อวิ๋นเมี่ย และอีกห้าคนตอบกลับและเดินตามเข้าไปในกระท่อม

“อวิ๋นเมี่ย กับพวกเจ้าอีกห้าคน พวกเจ้าจะต้องเข้าไปอยู่ในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำและคอยดูแลพวกเขา ข้าจะทะยอยนำคนเข้าไป เสวียนอวี่ให้นำคนเข้ามาคราวละยี่สิบคน” เนี่ยลี่สะบัดมือขวาของเขาและนำภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำออกมา เขาไม่ต้องการที่จะใช้จิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำที่ด้านนอก เพราะจะมีคนภายนอกเห็นได้

เนี่ยลี่ต้องใช้เวลากว่าสองชั่วยามจึงนำชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ได้ทำพันธสัญญาทั้งหมดเข้าไปข้างในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางออกจากพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด ปล่อยให้ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่เหลืออยู่ต้องแปลกใจที่เห็น คนเหล่านั้นหายเข้าไปในกระท่อมแต่ก็มิได้กลับออกมา

ภายในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ


อวิ๋นเมี่ยและพวกของเขา ได้อธิบายเกี่ยวกับการอยู่ภายในภาพจิตกรรมนี้ และกำชับให้ทุกคนห้ามมิให้รบกวนกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในนี้

ที่ด้านนอก


หลังจากนั้นราวหนึ่งวัน เนี่ยลี่และเสวียนอวี่ก็กลับมาถึงหน้านิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และได้พบเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูนิกาย ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคนผู้นี้ไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะได้รับบาดเจ็บอยู่


“ต้วนเจี้ยน นั่นเจ้าใช่หรือไม่?” เนี่ยลี่ตะโกนออกไป แม้ว่าจะเห็นหน้าไม่ชัด แต่ต้วนเจี้ยนกับเขานั้นได้เชื่อมโยงห้วงจิตวิญญาณกันอยู่ เมื่อเข้ามาใกล้ก็จะสัมผัสได้อย่างชัดเจน


เมื่อเห็นผู้ที่กำลังทะยานเข้ามาต้วนเจี้ยนรีบประสานมือทำความเคารพทันที

“นายท่านเนี่ยลี่”


“เจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่ใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้นรีบเข้าไปข้างในนิกายก่อน จากนั้นค่อยมาคุยกัน” เนี่ยลี่แจ้งให้คนที่อยู่ด้านในเปิดประตูและพาต้วนเจี้ยนไปยังตำหนักผู้นำนิกาย

ไม่ทันที่จะพาต้วนเจี้ยนไปทำแผลและเปลี่ยนชุด ต้วนเจี้ยนก็รีบบอกแก่เนี่ยลี่ว่า

“นายท่านเนี่ยลี่ นิกายเร้นเมฆาถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี ซึ่งนำโดยยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเสิ่นเหลย โม๋จุน ข้าได้รับมอบหมายให้มาขอความช่วยเหลือจากหกนิกายศักดิ์สิทธิ์”

“เสิ่นเหลย โม๋จุน?” เนี่ยลี่ขมวดคิ้ว เป็นคนจากเผ่าอสูรที่เขาพบเจอในตำหนักซีอิงเสิ่น แต่เหตุใด พวกนิกายอสูรจึงได้เข้าโจมตีนิกายเร้นเมฆาได้

“จอมมาร ได้อยู่ที่นิกายหรือไม่?” เนี่ยลี่อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“หลายเดือนก่อนจอมมารได้แจ้งกับท่านผู้นำนิกายว่าจะเดินทางไปยังตำหนังซีอิงเสิ่น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับไปยังนิกาย” ต้วนเจี้ยนตอบกลับไป


“ผู้นำนิกายเร้นเมฆานั้นเป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามขั้นที่หนึ่ง และเป็นผู้เดียวในนิกายที่ระดับพลังถึงขั้นเทพสงคราม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะต้านรับการโจมตีจากยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรนับร้อยได้นานแค่ไหน” ต้วนเจี้ยนพูดต่อ


แม้ว่าเผ่าอสูรและมนุษย์จะมีความขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่เคยที่จะถึงกับบุกทำลายนิกายอีกฝ่าย เพราะอาจจะเกิดสงครามใหญ่ของมนุษย์และเผ่าอสูรได้ เนี่ยลี่มีเวลาครุ่นคิดไม่มาก แต่หากนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ออกหน้าไป ความลับที่ปกปิดเอาไว้ก็จะถูกเปิดเผย หากจะส่งคนไปช่วยเหลือ จะต้องเป็นยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเท่านั้น และมีโอกาสที่จะต้องสูญเสีย


“ระยะทางในการเดินทางระหว่างนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ต้องใช้เวลาสองวัน พรุ่งนี้ข้าจะจัดเตรียมกองกำลังให้เดินทางไปพร้อมกับเจ้า ตอนนี้เจ้านั้นได้ผสานกับจิตอสูรหรือไม่?” เนี่ยลี่ตัดสินใจที่จะพูดออกไป

“ข้าได้รับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์จากท่านผู้นำนิกาย เป็น กุญชรเกล็ดมังกร ขอรับ” ต้วนเจี้ยนตอบกลับไป ในนิกายเร้นเมฆาจิตอสูรตนนี้ก็นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว


“ข้าจะมอบจิตอสูรตนใหม่ให้แก่เจ้า นี่คือ มังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ เป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า ซึ่งเหมาะสำหรับสายเลือดมังกรดำที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า คืนนี้จงทำการผสานให้สำเร็จ และจดจำเทคนิคการบ่มเพาะพลัง [เทพสุริยะทมิฬ] ที่ข้าจะถ่ายทอดเอาไว้ด้วยมันจะทำให้เจ้ารุดหน้าได้ไวยิ่งขึ้นเมื่อผสานเข้ากับมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ” เนี่ยลี่นำจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ เอาออกมาให้ต้วนเจี้ยนพร้อมกับถ่ายทอด เทคนิคการบ่มเพาะพลัง [เทพสุริยะทมิฬ] ให้แก่ต้วนเจี้ยน


“เจ้าจงผสานจิตอสูรและบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี่ ข้าจะเตรียมการเรื่องกองกำลังให้แก่เจ้า”


“ขอบคุณนายท่านเนี่ยลี่” ต้วนเจี้ยนประสานมือคารวะจากนั้นก็ทำการผสานกับจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ อยู่ในตำหนักผู้นำนิกาย


เนี่ยลี่บินไปยังพื้นที่ด้านหลังนิกาย ที่ได้มอบให้แก่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์


“ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่อยู่ที่นี่จงฟัง ข้าได้พาครอบครัวของพวกเจ้ามาแล้ว แต่พวกเจ้าอาจจะได้อยู่กับครอบครัวเพียงแค่คืนเดียว พรุ่งนี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าจำนวนสองร้อยคน ติดตามกู้เบ่ยไปช่วยเหลือนิกายเร้นเมฆา ที่ถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี”


“ขอรับ!”เหล่าชนเผ่าเมฆาสวรรค์ หันมองที่เนี่ยลี่และประสานมือตอบกลับไปในทันที นับแต่พวกเขาติดตามเนี่ยลี่ ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและแทบจะไม่ได้ทำสิ่งใดตอบแทนเนี่ยลี่เลย การที่ได้ตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้ พวกเขาจึงเต็มใจยิ่งนัก แม้ว่าอาจจะต้องสละชีวิตก็ตาม


“ขอบใจพวกเจ้าทุกคนมาก” เนี่ยลี่สะบัดแขนขวาของเขาและนำชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งหมดออกมา

เมื่อครอบครัวได้มาพบหน้า พวกเขาต่างวิ่งไปโอบกอดกันอย่างมีความสุข แม้ว่าน้ำตาจะนองใบหน้า แต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความสุขสมและยินดี


ตำหนักผู้นำนิกาย


เนี่ยลี่ได้เรียกกู้เบ่ย ลู่เพียว หลี่ชิงอวิ๋น และหลงยู่อินเข้ามาประชุมด่วน


“ในตอนนี้นิกายเร้นเมฆาถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี ข้าต้องการให้กู้เบ่ยนำกองกำลังจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์จำนวนสองร้อยคนไปช่วย” เนี่ยลี่มองไปที่กู้เบ่ยและพูดขึ้นมา


“แต่ศึกนี้เป็นเรื่องภายนอกนิกาย เจ้าคิดดีแล้วเช่นนั้นหรือ?” หลี่ชิงอวิ๋นแย้งออกไป ก่อนหน้านี้ที่เขาเคยเสนอให้ไปโจมตีนิกายเทพอสูร แต่เนี่ยลี่ก็ได้ปฏิเสธ แต่เหตุใดในตอนนี้จึงคิดจะยื่นมือไปช่วยนิกายเร้นเมฆาที่ถูกถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี

“ข้าเข้าใจที่พี่ชิงอวิ๋นกังวล ภารกิจในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจลับ ยู่อินเจ้าสามารถที่จะหาชุดดำปกปิดให้แก่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ได้หรือไม่ ข้าต้องการในเช้าวันพรุ่งนี้” เนี่ยลี่หันไปถามหลงยู่อิน

“ท่านอาจารย์ เรื่องนี้ข้าจะรีบเตรียมการให้ในทันที!” หลงยู่อินตอบกลับไป

“แล้วเจ้าจะให้กู้เบ่ยนำกองกำลังไปเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ?” ลู่เพียวอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“กู้เบ่ยนั้นเป็นผู้เดียวในกลุ่มพวกเราที่บรรลุระดับเทพสงคราม ในคราวนี้ขอให้เจ้าใช้ชื่อเทพกระบี่ในการดำเนินภารกิจ อย่าได้เปิดเผยตัวจริงเป็นอันขาด!” เนี่ยลี่พูดอย่างจริงจัง

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ใช้ชื่อนั้นที่โลกภายนอก” กู้เบ่ยหัวเราะด้วยความยินดี

“ข้าเองก็อยากจะได้ฉายาเช่นนี้บ้าง” ลู่เพียวบ่นขึ้นมาเบา ๆ

“ข้าขอตั้งให้เจ้าเป็นเทพเฝ้าประตู ฝากประตูเมืองด้านที่ข้าดูแลของข้าด้วยนะ” กู้เบ่ยตบไหล่ลู่เพียวพร้อมกับหัวเราะ

“ภารกิจในคราวนี้ พยายามให้สูญเสียน้อยที่สุด และจงจัดการให้เด็ดขาดที่สุด ฝากด้วยนะ” เนี่ยลี่กำชับกู้เบ่ยอีกครั้ง


“แน่นอน” กู้เบ่ยให้คำมั่น.........................จบตอน



แต่งโดย นายมะพร้าว




เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง