หลังจากที่ได้ฟังคำกล่าวหาของหลงเทียนหมิง
เนี่ยลี่ก็รู้สึกโมโหยิ่งนัก เขาได้ชี้นิ้วไปที่หลงเทียนหมิงและพูดขึ้นมาว่า
“เจ้าคงขี้ขลาด
และกลัวที่จะสู้กับกองกำลังของข้าสินะ จึงได้พูดจาโป้ปดเอาตัวรอดเช่นนี้ ถ้าหากมีหลักฐานอันใดก็จงนำออกมาแสดงต่อหน้าปรมาจารย์ทั้งห้า”
“แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐาน
แต่เจ้ามิได้มีความชอบธรรมพอที่จะเป็นผู้นำนิกาย” หลงเทียนหมิงโต้แย้งกลับไป
“ท่านป้าหลงซูอวิ๋น
เคยพูดไว้ว่า ความชอบธรรมคือกำปั้นของข้า ไม่ทราบว่าท่านปรมาจารย์หลิงหลง
จะเห็นด้วยกับคำพูดนี้หรือไม่” เนี่ยลี่ประสานมือทำความเคารพไปทางปรมาจารย์หลิงหลง
ผู้เป็นยายของหลงยู่อิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า
คำพูดนั้นข้าเป็นผู้สั่งสอนให้แก่ หลงซูอวิ๋นเอง เหตุใดข้าจะไม่เห็นด้วยเล่า”
ท่านปรมาจารย์หลิงหลง พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
“หลงเทียนหมิง เจ้าเองก็เป็นทายาทของกระกูลผนึกมังกร
จงอย่าทำให้ตระกูลของเราต้องขายหน้าไปมากกว่านี้ จะใช้ความชอบธรรมที่มีอยู่ในมือนับหมื่นคนของเจ้า
หรือจะยอมพ่ายแพ้ โดยที่ยังไม่ได้สู้ ก็จงรีบตัดสินใจมาได้แล้ว” ท่านปรมาจารย์หลิงหลงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ทะ.....ท่านยาย”
หลงเทียนหมิงพูดได้เพียงเท่านี้ก็นิ่งเงียบไป
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะออมมือให้เล็กน้อย
ข้าจะใช้กำลังคนแค่เพียงสามร้อยคนนี้ สู้กับกองกำลังนับหมื่นคนของเจ้า”
หลังจากได้ยินคำพูดของเนี่ยลี่
ก็เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะเป็นกองกำลังที่มียอดฝีมือจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์ถึงร้อยคน
แต่หากใช้กองกำลังนับหมื่นโจมตีเข้าพร้อมกัน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาชนะได้
“ก็นับว่ายุติธรรมดี”
ปรมาจารย์เทียนอู่พูดขึ้นมา
“ก็ได้
แต่ข้าขอเวลาในการวางแผนสำหรับต่อสู้สักครึ่งชั่วยามจะได้หรือไม่” หลงเทียนหมิงประสานมือทำความเคารพพร้อมกับพูดออกไป
“เจ้าจะยอมรับได้หรือไม่”
ปรมาจารย์เทียนอู่เอ่ยถามกับเนี่ยลี่
“ข้าไม่มีปัญหาอันใดขอรับ” เนี่ยลี่
ตอบกลับไป เขาเองก็ต้องการเวลาในการเตรียมการเช่นกัน
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
กองกำลังของทั้งสองฝ่ายเตรียมพร้อมกันแล้ว
หลงเทียนหมิงแบ่งกองกำลังของเขาออกเป็นเจ็ดส่วน
ซึ่งผู้นำของแต่ละส่วนจะเป็นยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกร ซึ่งรวมตัวเขาเข้าไปด้วย
โดยจะใช้ฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเป็นพุ่งเข้าปะทะกับยอดฝีมือจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทีละคน
และให้กองกำลังที่เหลือรุมเล่นงาน
เนี่ยลี่เห็นการจัดเตรียมกองกำลังในรูปแบบลูกศรเจ็ดดอก
ก็สามารถเข้าใจความคิดของหลงเทียนหมิงในทันที เขาเรียก อวิ๋นเมี่ย
ออกมาและสั่งการในทันที
“อวิ๋นเมี่ย เจ้าจงสั่งการให้ยอดฝีมือจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์
ใช้ค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์ โดยให้จัดรูปแบบเป็น สิบสมบูรณ์จำนวนเจ็ดกลุ่ม เจ็ดกลุ่มนี้ให้รอเข้าปะทะกับหัวลูกศร
อีกสามสิบคนที่เหลือให้จับรูปแบบเป็นหกสมดุล กลุ่มนี้ให้คอยเป็นกำลังเสริม” [อวิ๋นเมี่ยเป็นเด็กหนุ่มจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ซื้อมาหกคนแรก]
“ขอรับ!”
อวิ๋นเมี่ยรับคำสั่งและรีบไปสั่งการในทันที ในตอนนี้อวิ๋นเมี่ยมีความแข็งแกร่งระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่เก้าและเนี่ยลี่ได้จัดตั้งให้เขาเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มาจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์
“นี่เจ้าไม่คิดที่จะให้พวกข้าสองคนทำอะไรเลยเช่นนั้นหรือ?”
ลู่เพียว และกู้เบ่ยพูดขึ้นมา
“พวกเจ้านำกองกำลังที่เหลือสองร้อยคน
ไปล้อมพวกมันเอาไว้และจัดการผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับวิถีมังกรให้หมด”
“งานนี้ง่ายดายยิ่งนัก”
ลู่เพียวตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะ แต่กู้เบ่ยก็ยังรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
“สองร้อยคนแบ่งเป็นสองกลุ่มของข้ากับลู่เพียว
จะไปล้อมกองกำลังนับหมื่นได้อย่างไรกัน?”
“ไม่จำเป็นต้องล้อมแบบประชิดตัว
เจ้าเห็นหรือไม่ว่า หลงเทียนหมิงจัดกองกำลังในรูปแบบเจ็ดลูกศร
ซึ่งกระบวนทัพเช่นนี้มีจุดอ่อนอยู่ทางด้านหลัง
พวกเจ้าจะสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย
และจำเอาไว้ว่าอย่าได้เข้าปะทะกับหัวลูกศรที่เป็นยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรโดยเด็ดขาด
ข้าไม่ต้องการให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น”
หลังจากได้ยินคำพูดของเนี่ยลี่
กู้เบ่ยก็สามารถเข้าใจได้ทันที เขาตอบกลับไปว่า
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าเอง”
“ถ้าหนึ่งหมื่นต่อสามร้อย
ก็แค่หนึ่งคนจัดการให้ได้สามร้อยคน งานนี้ไม่ยากเท่าไหร่ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลู่เพียวพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะ
“พวกเจ้าจงไปสั่งการ
และอย่าได้รีบเคลื่อนไหว รอให้หัวลูกศรพุ่งเข้าจู่โจมเราก่อนค่อยเคลื่อนขบวน”
เนี่ยลี่กำชับอีกครั้ง
“นี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว
เริ่มการชิงชัยได้แล้ว” ปรมาจารย์เทียนอู่ประกาศขึ้นมา
“ข้าอยากรู้จริงว่า ศิษย์ของเจ้านั้นจะใช้วิธีใดกัน”
ปรมาจารย์หลิงหลงเอ่ยถามขึ้นมา
“ศิษย์ของข้าผู้นี้ฉลาดและเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย” ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะ
“ฆ่ามัน!”
หลงเทียนหมิงสั่งการให้กองกำลังกลุ่มแรก พุ่งออกไปราวกับเป็นลูกศรจริง ๆ
พุ่งเข้าหาอวิ๋นเมี่ย เป็นกลุ่มแรก
“ค่ายกลเมฆาสวรรค์!”
อวิ๋นเมี่ยรีบตะโกนสั่งการ
ยอดฝีมือจากชนเผ่าเมฆ่าสวรรค์อีกเก้าคนรีบเข้ามาจัดรูปแบบค่ายกลในทันที
ค่ายกลในรูปแบบสิบสมบูรณ์นี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทุกคนถึงสองเท่า [ใช้สามคนจะแข็งแกร่งเท่ากับห้าคน ใช้หกคนจะแข็งแกร่งเท่ากับสิบคน
ใช้สิบคนจะแข็งแกร่งเท่ากับยี่สิบคน]
ทันทีที่หัวลูกศรเข้าปะทะกับอวิ๋นเมี่ย
ก็ถูกรูปแบบค่ายกลสะท้อนกลับออกไปในทันที
ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรที่เป็นหัวลูกศร บาดเจ็บหนักทันทีที่เข้าปะทะ
อวิ๋นเมี่ยรีบจับตัวเขาไว้และโยนไปด้านล่างทันที
เพราะเนี่ยลี่ได้กำชับเอาไว้ว่าอย่าสังหารยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรของหลงเทียนหมิง
เหล่ายอดฝีมือที่เหลือหลังจากเข้าปะทะก็ล้มตายไปในทันที
“นั่นมันค่ายกลอะไรกัน
ช่างร้ายกาจยิ่งนัก ใช้คนแค่สิบคนสามารถรับมือคนนับพันได้อย่างง่ายดาย” ปรมาจารย์ชางเซวี่ยพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นั่นคงเป็นค่ายกลลึกลับของชนเผ่าเมฆาสวรรค์
การเคลื่อนไหวช่างมีความสอดคล้องและไม่สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นตอบกลับไป
กองกำลังในกระบวนทัพหัวลูกศรถูกทำลายไปในทันที
หลงเทียนเทียนหมิงแทบจะเป็นบ้า
กองกำลังสองพันคนถูกทำลายด้วยค่ายกลที่ใช้กำลังคนเพียงแค่สิบคนเท่านั้นเองหรือ
“อีกห้ากลุ่มที่เหลือ เข้าโจมตีพร้อมกัน”
หลงเทียนหมิงตะโกนสั่งการออีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่ต้องออกแรงกันแล้วนะ”
ลู่เพียวพูดกับกู้เบ่ย
“อย่าเอาแต่พูดเล่น นำกองกำลังไปล้อมเอาไว้ตามที่เนี่ยลี่สั่งไว้
แม้ว่าอาจจะไม่ต้องสู้ แต่พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้
คนของหลงเทียนหมิงรอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
“จัดค่ายค่ายกลเมฆาสวรรค์ เพิ่มอีกสี่กลุ่ม!”
อวิ๋นเมี่ยตะโกนสั่งการอีกครั้ง
และกระบวนทัพลูกศรอีกห้ากลุ่มของหลงเทียนหมิงก็แตกพ่ายไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากพวกเขานั้นพุ่งเข้ามาพร้อมกันและเข้าปะทะกับค่ายกลเมฆาสวรรค์ของอวิ๋นเมี่ยเพียงกลุ่มเดียวก็อาจจะ
ทำให้ค่ายกลเมฆาสวรรค์ของอวิ๋นเมี่ยแตกพ่ายได้
แต่อวิ๋นเมี่ยได้สั่งการให้ตั้งค่ายกลเข้าปะทะกับกับหัวลูกศรแต่ละกลุ่ม
เพื่อไม่ให้กองกำลังของหลงเทียนหมิงมารวมกันตรงค่ายกลจุดเดียว หัวลูกศรเกือบทั้งหมดถูกสังหารไปเหลือเพียงยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีมังกรเท่านั้นที่บาดเจ็บสาหัส
และถูกจับโยนออกไป
ในตอนนี้กองกำลังนับหมื่นของหลงเทียนหมิงเหลือเพียงแค่สองพันคนเท่านั้น
หกกลุ่มที่แตกพ่ายไปนั้นมีกำลังคนกลุ่มละสองพันคน
และเหลือไว้คุ้มกันหลงเทียนหมิงอีกสองพันคน จากกองกำลังทั้งหมดหนึ่งหมื่นสี่พันคน
ลู่เพียว
และกู้เบ่ยได้นำกองกำลังสองร้อยคน
เข้าล้อมกองกำลังกลุ่มสุดท้ายของหลงเทียนหมิงเอาไว้
“เจ้าพวกบ้า!
คนพวกนี้อยู่แค่ระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ ฆ่าพวกมันซะ!” หลงเทียนหมิงมองดูกองกำลังทั้งสองร้อยคนที่กู้เบ่ยและลู่เพียวนำมาล้อมไว้
และสั่งการลูกน้องอีกสองพันคนที่เหลือของเขา และทันทีที่ลูกน้องของหลงเทียนหมิงพุ่งเข้าโจมตีนั้น
“ไม่จำเป็นต้องปิดกั้นพลังเอาไว้แล้ว
ระเบิดมันออกมา!” ลู่เพียวตะโกนสั่งการอย่างรื่นเริง
ยอดฝีมือทั้งสองร้อยคนที่ปิดกั้นพลังเอาไว้
เมื่อปลดปล่อยลมปราณออกมา
เหล่าศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ่าดูอยู่ต่างก็รู้สึกตกใจ
“นั่นมันพลังในระดับวิถีแห่งมังกร!”
“ทั้งสองร้อยคนนั่นอยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร!”
เสียงตะโกนดังมาจากเหล่าศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
“ฆ่าพวกมันซะ
แล้วปล่อยหลงเทียนหมิงเอาไว้” กู้เบ่ยสั่งการในทันที
แค่เพียงพริบตา
กองกำลังทั้งหมดของหลงเทียนหมิงก็ถูกสังหารไปจนหมด
เหลือเพียงหลงเทียนหมิงอยู่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
“เนี่ยลี่ ถ้าเจ้ากล้าพอ
ก็จงมาประลองกับข้าตัวต่อตัว!” หลงเทียนหมิงรีบตะโกนออกไปเพื่อเอาตัวรอด
“ฮ่าฮ่าฮ่า
ก่อนหน้านี้ทำไมไม่พูดเช่นนี้กันเล่า” เนี่ยลี่ตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะ
“เจ้าคิดจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายโดยใช้กำลังของผู้อื่นเช่นนั้นหรือ?
แล้วใครจะยอมรับเจ้ากัน?” หลงเทียนหมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดจายั่วยุข้า
ข้ายินดีที่จะรับคำท้าทายของเจ้า!”
เนี่ยลี่ตอบกลับไปแบบไม่ได้แยแสเท่าใดนัก
“เจ้าพูดแล้วจงอย่าใด้คืนคำนะ!”
หลงเทียนหมิงผสานร่างเข้ากับมังกรเทพแห่งความมืดในทันที
“พวกเจ้าจงหลบไป” เนี่ยลี่บอกกับกู้เบ่ย
ลู่เพียว รวมทั้งคนในกองกำลังและชนเผ่าจากเมฆาสวรรค์ทั้งหมด
จากนั้นก็ผสานเข้ากับมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ทันที
มังกรเทพแห่งความมืดพ่นเปลวเพลิงสีดำทมิฬใส่มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ในทันที
แต่ด้วยมังกรวารีเป็นมังกรธาตุน้ำ จึงไม่ได้รับความเสียหายจากเปลวเพลิงทมิฬเลยแม้แต่น้อย
“เพลิงทมิฬของเจ้าร้อนแรงเพียงเท่านี้เองหรือ?”
เนี่ยลี่พูดจาดูถูกออกไป
หลงเทียน จึงปล่อยลมปราณออกจากฝ่ามือ พุ่งเป็นลำแสงกระแทกเข้าร่างของเนี่ยลี่อย่างจัง ถึงกับทำให้เนี่ยลี่กระเด็นออกไปหลายสิบเมตร
“แกจะยังปากดีได้อีกไหม?”หลงเทียนหมิงพูดขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าในร่างนี้อาจจะรับมือไม่ไหว ถ้าเช่นนั้น”หลังพูดจบ มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ก็กลายร่างเป็นสีแบล็คโกลด์ อยู่ในร่างกลายพันธุ์
“เปลี่ยนร่างเพียงเท่านี้ แล้วคิดว่าจะเอาชนะข้าได้เช่นนั้นหรือ?”
หลงเทียนหมิงปล่อยพลังออกจากมืออีกครั้ง ลมปราณทีพุ่งออกจากฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะร่างมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลังจากที่ปะทะร่างของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์แล้ว ลมปราณที่พุ่งมาก็กระจัดกระจายออกไปในทันที ไม่อาจสร้างความเสียหายให้แก่เนี่ยลี่เลยแม้แต่น้อย
หลงเทียนหมิงรู้สึกโกรธแค้นยิ่งขึ้น เขาพ่นเพลิงทมิฬออกมาอีกครั้ง เพื่อขัดขวางการมองเห็นของเนี่ยลี่ และรวมรวมลงปราณจำนวนมากและปล่อยออกไปจากฝ่ามืออีกครั้ง ซึ่งเป็นพลังที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม จากนั้นเขาใช้กรงเล็บพุ่งอ้อมไปทางด้านหลังของเนี่ยลี่ในทันที ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าลมปราณที่ปล่อยออกไปเสียอีก เขาคิดที่จะโจมทั้งสองด้านพร้อมกัน
หลงเทียน จึงปล่อยลมปราณออกจากฝ่ามือ พุ่งเป็นลำแสงกระแทกเข้าร่างของเนี่ยลี่อย่างจัง ถึงกับทำให้เนี่ยลี่กระเด็นออกไปหลายสิบเมตร
“แกจะยังปากดีได้อีกไหม?”หลงเทียนหมิงพูดขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าในร่างนี้อาจจะรับมือไม่ไหว ถ้าเช่นนั้น”หลังพูดจบ มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ก็กลายร่างเป็นสีแบล็คโกลด์ อยู่ในร่างกลายพันธุ์
“เปลี่ยนร่างเพียงเท่านี้ แล้วคิดว่าจะเอาชนะข้าได้เช่นนั้นหรือ?”
หลงเทียนหมิงปล่อยพลังออกจากมืออีกครั้ง ลมปราณทีพุ่งออกจากฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะร่างมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลังจากที่ปะทะร่างของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์แล้ว ลมปราณที่พุ่งมาก็กระจัดกระจายออกไปในทันที ไม่อาจสร้างความเสียหายให้แก่เนี่ยลี่เลยแม้แต่น้อย
หลงเทียนหมิงรู้สึกโกรธแค้นยิ่งขึ้น เขาพ่นเพลิงทมิฬออกมาอีกครั้ง เพื่อขัดขวางการมองเห็นของเนี่ยลี่ และรวมรวมลงปราณจำนวนมากและปล่อยออกไปจากฝ่ามืออีกครั้ง ซึ่งเป็นพลังที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม จากนั้นเขาใช้กรงเล็บพุ่งอ้อมไปทางด้านหลังของเนี่ยลี่ในทันที ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าลมปราณที่ปล่อยออกไปเสียอีก เขาคิดที่จะโจมทั้งสองด้านพร้อมกัน
แต่เนี่ยลี่ก็มองออกในทันที ก่อนที่กรงเล็บจะมาถึงตัวของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์
เนี่ยลี่ก็บินขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว หลงเทียนหมิงปะทะเข้ากับลมปราณที่ตนเองปล่อยออกมาอย่างจัง
เนี่ยลี่หมุนตัวพร้อมกับใช้หนามแหลมที่หางฟาดไปที่ตัวของมังกรเทพแห่งความมืดทันที หนามอันแหลมคมปักเข้ากับร่างมังกรเทพแห่งความมืด และเลือดก็พุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก
เนี่ยลี่หมุนตัวพร้อมกับใช้หนามแหลมที่หางฟาดไปที่ตัวของมังกรเทพแห่งความมืดทันที หนามอันแหลมคมปักเข้ากับร่างมังกรเทพแห่งความมืด และเลือดก็พุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก
“อ๊ากกกกกกกก”
หลงเทียนหมิงร้องด้วยความเจ็บปวด
แม้แต่เกล็ดอันแข็งแกร่งของมังกรเทพแห่งความมืดก็ไม่อาจที่จะป้องกันความแหลมคมของหนาม
ที่หางของมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ที่กลายพันธุ์ได้
ร่ายกายของหลงเทียนหมิงค่อย ๆ
เปลี่ยนรูปลักษณ์ กลับคืนร่างเดิม พร้อมกับเลือดที่ท่วมตัว
เมื่อเนี่ยลี่เห็นดังนั้นก็จึงกลายการผสานร่างและกลับสู่รูปลักษณ์เดิมเช่นกัน
“ยอมแพ้แล้วสินะ!”
เนี่ยลี่พูดขึ้นมา
“มันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก!”
หลงเทียนหมิงตะโกนออกมาพร้อมกับกระตุ้นการใช้งานโลหิตอสูร
“เจ้าคนโง่!”
เนี่ยลี่ใช้พลังของหยกอสูรที่สามารถปิดกั้นพลังของโลหิตอสูรได้
ทำให้หลงเทียนหมิงไม่อาจที่จะใช้พลังจากโลหิตอสูรได้
“นี่เจ้าใช้วิธีบ้าอะไรกัน?”
หลงเทียนหมิงหมิงตะโกนออกมาหลังจากที่ไม่อาจที่จะกระตุ้นการใช้งานโลหิตอสูรได้
“เจ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้!”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับหันหลังกลับไป
การต่อสู้จบลงแล้ว
“ทั้งเงินตราและความสามารถของเจ้านั้น ใครจะเชื่อเล่าว่าเจ้านั้นมิได้มีนิกายเทพอสูรหนุนหลังอยู่
ท่านปรมาจารย์ทั้งห้าได้โปรดรับฟังข้อโต้แย้งของข้าด้วย” หลงเทียนหมิงตะโกนออกมา
เขาต้องใช้ทุกวิถีทางที่จะขัดขวางการขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกายของเนี่ยลี่......จบตอน
ตอนนี้เป็นตอนที่ผู้แปล เขียนขึ้นมาเอง
โดยพยายามที่จะเชื่อมโยงเนื้อหาทั้งหมด และเพิ่มฉากต่อสู้ที่หายไปในนิยายเรื่องนี้
เป็นตอนที่ จะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้ ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องหลักแต่อย่างใด
ตามชื่อตอนที่ตั้งไว้ว่า การต่อสู้ในจินตนาการ...............นายมะพร้าว
แต่งโดย นายมะพร้าว