test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

17 ก.พ. 2559

ผู้พิทักษ์4ธาตุทะลุมิติ ตอนที่ 4 ฝึกวิชาตามธาตุแรกกำเนิด


“ใช่จริง ๆ ด้วยสินะ การที่จะส่งพวกท่านกลับไปแล้วให้ กาลเวลาหมุนไปตามปกติ จะต้องส่งกลับไปให้ครบทุกคน รวมถึงตัวข้าที่มาจากโลกของท่านด้วย ไม่อย่างนั้นถึงแม้นข้าจะส่งพวกท่านกลับไป จักรกลแห่งเวลาก็ไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้”
องค์หญิงก้มหน้าตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเราต้องรีบไปหาฝนก่อน เรื่องฝึกวิชาเอาไว้ทีหลัง” มะพร้าวพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ

“เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมพวกเรา ที่ถูกส่งมาถึงได้อยู่ที่เดียวกัน ดังนั้นฝนต้องอยู่แถวนี้เหมือนกันใช่ไหม?” รงค์พูดขึ้นมา

“มีเพียงพวกท่านเท่านั้น เนื่องจากข้าระบุตำแหน่งที่พาพวกท่านมาได้ แต่ตัวข้าที่มาจากโลกของท่าน นางอาจจะใช้พลังของนางโดยไม่รู้ตัว จึงอาจจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลกแห่งนี้ ” องค์หญิงตอบ

“แล้วเราจะไปหาฝนได้จากที่ไหน?” เบียร์เอ่ยถาม

“ตัวข้า และ เพื่อนของท่าน คือคน คนเดียวกัน ข้าพอมีเวทย์มนต์ที่จะใช้เพื่อสื่อถึงกันได้ เพียงแต่ว่า ต้องใช้เวลาพอสมควร
ข้าจักไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ขอให้พวกท่านไปฝึกกับท่านนักปราชญ์ ทั้ง 4 ของเรา ส่วนเราจะตามหาเพื่อนของท่านให้จงได้

“หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดสัญญานะองค์หญิง ไม่งั้นต่อให้เป็นท่านข้าก็จะไม่ขอไว้หน้าใด ๆ ” มะพร้าวกำมือแน่นแล้วพูด

“แล้วใครจะฝึกกับใคร ใครฝึกธาตุไหน พวกข้าต้องเลือกเองไหม?“ นุ ถามกับผู้เฒ่าทั้ง 4

“เปล่าเลย พวกเจ้ามีธาตุแรกกำเนิดของตัวเองอยู่ เช่นเจ้าคือธาตุอัคคี ผู้ที่เผาไหม้ได้ทุกสิ่งข้าจะเป็นผู้ฝึกสอนเจ้าเอง” ชายแก่ผ้าคลุมสีแดงพูดพร้อมกับเอามือไปแตะจมูก  แล้วรีบชักออก แล้วชี้ไปที่ นุการกระทำนี้ไม่หลุดรอดจากสายตาของ มะพร้าว และ รงค์

“ส่วนเจ้าคือธาตุวารี ที่มีทั้งปัญญาและความสงบนิ่ง” ชายแก่ผ้าคลุมสีฟ้าชี้ไปยังรงค์

“เจ้าคือธาตุวายุ ความพริ้วไหวดุจสายลม และความเกรี้ยวกราดของลมกรรโชก จะช่วยให้เจ้าปลอดภัย” ชายแก่ผ้าคลุมสีเขียวชี้ไปที่เบียร์

“คนสุดท้ายคือเจ้าธาตุ
ปฐพี ความหนักแน่นของเจ้าจะคอยค้ำจุนตัวเองและพรรคพวกให้เข้มแข็ง” ชายแก่ผ้าคลุมสีน้ำตาลบอกกับมะพร้าว

“ข้าจะเปิดทางเข้ามิติ ที่ใช้ฝึกวิชาให้กับพวกเจ้าเอง” องค์หญิง ร่ายคาถาขึ้นมาบทหนึ่ง ก่อให้เกิดประตูมิติขึ้นมา 4 จุด

“ตอนที่กลับมา หวังว่าฝนจะอยู่ที่นี่แล้วนะองค์หญิง” มะพร้าวพูดก่อนที่จะเดินเข้าประตูมิติไป

“ข้าจะตามหาเพื่อนของเจ้าให้เจอให้ได้” องค์หญิงตอบ

ณ หุบเขาอัคคี

          “สิ่งแรกที่เจ้าต้องฝึกคือการดูดซับธาตุแรกกำเนิดของเจ้า พยายามที่จะผสานตัวของเจ้าเข้ากับเปลวไฟรอบ ๆ ตัว พยายามอย่าฝืน ปล่อยจิตและกายให้ว่าง ” 

ปราชญ์แห่งอัคคี ได้แนะนำนุ ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน แทบจะทำให้นุ ร้อนจนแทบทนไม่ไหว หลังจากที่นั่งสมาธิโดยที่มือซ้ายและขวาคว่ำหากัน อยู่ได้ 7 วัน เปลวไฟรอบ ๆ ตัวค่อย ๆ หมุนวนไปรอบ ๆ ร่างกายของนุ ความร้อนที่เคยได้รับก็หายไป ราวกับว่าไฟเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาแล้ว

“ดูดซับเข้าร่างกายแล้วลองปล่อยไฟออกมาจากทางฝ่ามือของเจ้าดู” ปราชญ์แห่งอัคคีพูด

ได้ยินดังนั้นนุจึงรวบรวมเปลวไฟมาไว้ที่มือ แล้วปล่อยให้พุ่งออกไป

“ตูม!” เลียงลูกไฟพุ่งปะทะเข้าภูเขา มีร่องรอยของกระสุนไฟฟุ่งทะลุไป ในรูมีรอยเผาไหม้ ราวกับว่า รอบ ๆ รูนั้นถูกหลอมละลายด้วยความร้อนสูง

“เจ้าบรรลุขั้นที่หนึ่ง แล้ว นั่นคือกระสุนเปลวไฟ หากเจ้าสามารถดูดซับและควบคุมไฟได้มากกว่านี้  เจ้าก็สามารถที่จะใช้วิชาในขั้นต่อไปได้อีก”

“นี่ฉันทำได้จริง ๆเหรอเนี่ย” นุ พูดกับตัวเอง และนั่งสมาธิต่อเพื่อดูดซับธาตุอัคคีเข้าไปในตัวเพิ่มขึ้น

ณ ยอดเขาเสียดฟ้า

          “จงนั่งอยู่บนปลายยอดเขา เพื่อดูดซับวายุ เมื่อเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับวายุ สายสมจะเพียงแค่พัดผ่านไป”

       ปราชญ์แห่งวายุอธิบายให้เบียร์ฟัง แต่ลมที่นี่พัดแรงมากยังกับพายุเพียงแค่นั่งลงก็แทบจะถูกลมพัดล้มกลิ้งไปแล้ว เบียร์ล้มกลิ้งอยู่หลายวัน  แต่พอมองไปที่ ปราชญ์แห่งวายุ ก็เห็นว่านั่งสบายแทบจะไม่มีอะไรที่ปลิวแม้แต่เส้นผมของเขา

          “สายลมนั้นมีชีวิต จงปล่อยวางและเรียนรู้มัน ร่างกายจะค่อย ๆ ดูดซับมันเข้ามาเอง ราวกับสาว ๆ ที่เข้ามาคลอเคลียโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากชักชวน ” ปราชญ์แห่งวายุพูด

          “เข้าใจแล้ว” เบียร์พูดพร้อมกับนั่งลงอีกครั้ง แล้วปล่อยจิตให้ว่างเปล่า สายลมค่อย ๆ หมุนวนอยู่ที่มือของเขา

“สร้างเกราะขึ้นมาด้วยสายลมของเจ้าสิ”  ปราชญ์แห่งวายุบอกกับเบียร์

“เกราะวายุ งั้นเหรอ?” เบียร์ค่อย ๆ ให้ลมที่วนอยู่รอบแขนของเขา ออกมาหมุนรอบ ๆ ตัวเขาแทน เป็นเหมือนเกราะที่มองไม่เห็น

“นั่นคือขั้นที่หนึ่ง ของเจ้า เกราะวายุ” ปราชญ์แห่งวายุพูดขึ้นมา

“นึกว่าจะยากกว่านี้ซะอีก ชวนสาวไปดูหนังยังยากกว่านี้เลย” เบียร์ พูดพร้อมกับยิ้ม

ณ เกาะกลางมหาสมุทร

          “ตาแก่บ้า ผลักข้าลงไปในน้ำอยู่ได้” รงค์โวยวายกับปราชญ์แห่งวารี

          “ธาตุของเจ้าคือธาตุน้ำ เจ้าต้องเป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำ หากเจ้าทำได้ การหายใจในน้ำ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” ปราชญ์แห่งวารี พูดกับรงค์

          “อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ปลาหายใจบนบกไม่ได้เพราะ ไม่สามารถ ใช้ก๊าซออกซิเจนจากบรรยากาศโดยตรงได้ เนื่องจากมันไม่มีปอด สำหรับหายใจ แต่คนใช้ปอดในการหายใจ เลยหายใจในน้ำไม่ได้” รงค์เถียงกับปราชญ์แห่งวารี

          “เจ้าลืมความรู้ในโลกของเจ้าไปก่อน เหตุผลของเจ้าใช้ไม่ได้กับโลกแห่งคาถาและเวทย์มนต์แห่งนี้ ปล่อยตัวตามสบาย อย่าฝืนทน ร่างกายของมนุษย์นั้นประกอบด้วยน้ำถึงเจ็ดส่วน ถ้าน้ำจะเข้าไปในร่างกายของเจ้าเพิ่มอีกหน่อยจะเป็นอะไรไป”

          หลังจากที่ถูกผลักลงน้ำอยู่หลายวัน ร่างกายของรงค์จมลงไปอยู่ในน้ำ แต่ไม่รู้สึกอึดอัด สามารถเคลื่อนที่ในน้ำได้ราวกับว่า ลอยอยู่กลางอากาศ

“ลองใช้น้ำนั่นบิดเป็นเกลียวเป็นหอกแล้วแล้วพุ่งขึ้นไปด้านบนสิ” ปราชญ์แห่งวารี เอ่ยปาก

“หอกวารี สินะ ไปเลย” หอกน้ำพุ่งไปข้างบนอย่างรวดเร็ว พุ่งทะลุขึ้นเหนือน้ำ ผิวน้ำแตกกระจาย ราวกับมีฝนตกห่าใหญ่

“ขอแค่มีน้ำอยู่ เจ้าก็ไม่มีวันแพ้ใคร”
ปราชญ์แห่งวารีพูดกับรงค์

“ทำไมท่านไม่ยอมบอกว่า ท่านคือข้าในโลกแห่งนี้?”รงค์ถาม

“เจ้ารู้ด้วยรึ?ปราชญ์แห่งวารีตอบพร้อมกับยิ้ม
ผืนป่าใกล้ ๆ กับเมืองขององค์หญิง

“ปฐพี มีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง หากเจ้าควบคุมมันได้ เจ้าก็จะไร้เทียมทาน แต่การฝึกฝนก็ยากกว่าธาตุอื่น ๆ เนื่องจากดิน มีรูปลักษณ์ และยังมีสภาพเป็นของแข็งอีกด้วย วิธีที่ง่ายที่สุดคือการดูดซับโดยตรงจากผืนดิน”ปราชญ์แห่งปฐพี พูดแนะนำมะพร้าว

“ผมไม่มีเวลามากขนาดนั้นหรอก ท่านก็คือผมในโลกแห่งนี้สินะ หากมีวิธีลัดทางไหนก็บอกข้ามาเลย” มะพร้าวพูดออกไป

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?ปราชญ์แห่งปฐพีสงสัย

“ตอนที่ปราชญ์แห่งอัคคีเอามือแตะจมูก นั่นมันนิสัยของเจ้านุชัด ๆ ถึงจะรีบเอามือออกก็เถอะ” มะพร้าวตอบ

“ช่างสังเกตุยิ่งนัก ปราชญ์แห่งอัคคีอาจจะเป็นแฟนยิ่งยงก็ได้ ” ปราชญ์แห่งปฐพีพูดพร้อมกับหัวเราะ

“ไม่ตลก” มะพร้าวพูดขึ้นมาด้วยหน้าที่นิ่ง ๆ

“ตัวข้าที่โลกโน้นช่างไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ถ้าเจ้าอยากได้หลักสูตรเร่งลัดข้าก็จะทำให้” ปราชญ์แห่งปฐพีพูดพร้อมกับร่ายคาถา ดินที่อยู่รอบ ๆ ตัวของมะพร้าว ก่อตัวขึ้นเป็นโดมล้อมรอบทุกทิศทาง จากนั้นปราชญ์แห่งปฐพีก็พูดว่า

“ข้าทำให้ปฐพีอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าในทุกทิศทาง หากเจ้าไม่สามารถดูดซึมธาตุปฐพีได้ก่อนที่อากาศจะหมด เจ้าก็จะดับสูญอยู่ตรงนี้แหละ”

“ข้าจะทำมันให้ท่านดู” มะพร้าวพูดพร้อมกับนั่งสมาธิอยู่ในโดมที่ทำจากกองดิน แม้จะรู้สึกอึดอัดในช่วงแรก แต่หลังจากที่ธาตุดินค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของมะพร้าว เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป

“ปฐพีคือธาตุแรกกำเนิดที่ยิ่งใหญ่กว่ธาตุอื่น เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดจากดินและดับสลายไปกับดิน ตอนนี้เจ้าบรรลุขั้นที่หนึ่งแล้ว ลองควบคุมผืนดินดู ให้โดมที่ข้าสร้างค่อย ๆ กลับเป็นพื้นดินตามปกติดูสิ”ปราชญ์แห่งปฐพีบอกให้มะพร้าวลองทำ

เพียงแค่คิดให้โดมที่ปราชญ์แห่งปฐพีสร้างขึ้น กลับไปเป็นพื้นดินตามปกติ มันก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่ไหลลงมากองกับพื้น กลายเป็นพื้นดินเรียบ ๆ


“เจ้าเป็นคนแรกที่สามารถดูดซับธาตุได้รวดเร็วเช่นนี้  การดูดซับนี้มีทั้งหมดสิบขั้น พวกเราปราชญ์ทั้งสี่ ยังทำได้แค่เพียงขั้นที่เก้าเท่านั้น  ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถบรรลุขั้นที่สิบได้ปราชญ์แห่งปฐพีเอ่ยอย่างภูมิใจ

แต่งโดย นายมะพร้าว [นพรัตน์ น.]

เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง