test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

17 ก.พ. 2559

ผู้พิทักษ์4ธาตุทะลุมิติ ตอนที่ 3 โลกคู่ขนานที่ต่างกัน


          หลังจากตื่นขึ้นมา มะพร้าวยังคงสับสนอยู่ และพยายามเดินไปสำรวจรอบ ๆ ห้อง พอมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพที่มองเห็นเหมือนโลกในนิยาย ตึกรามบ้านช่องดูแปลกตา “กึก!” เสียงเปิดประตูมีคนกำลังเดินเข้ามาในห้อง

“ท่านตื่นแล้วใช่ไหมครับ ท่านผู้พิทักษ์ เพื่อน ๆ ของท่านทั้ง 3 คนก็เช่นกันเดี๋ยวข้าจะพาท่านไปพบกับเพื่อน ๆ ที่ห้องโถงใหญ่ เพื่อเข้าเฝ้าองค์หญิงของพวกเรา” ชายในชุดเกราะเหมือนทหารยุคโบราณ พูด แล้วพามะพร้าวเดินออกไป

“ที่นี่คือที่ไหน? ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง? แล้วทำยังไงข้าถึงจะกลับบ้านได้?” มะพร้าวเอ่ยถาม

“เดี๋ยวท่านรอให้องค์หญิงเป็นคนอธิบายเถิด ตัวข้านั้นคงไม่อาจหาคำตอบให้ท่านได้ทั้งหมด” ชายในชุดเกราะพูด

       ณ ห้องโถงใหญ่ รอบข้างรายล้อมไปด้วยรูปปั้นแกะสลักงดงาม พื้นปูด้วยพรมสีแดง ด้านบนมีกระจกแก้วคริสตันประดับประดาไปทั่ว ด้านข้างมีทหารในชุดเกราะยืนเรียงแถวอยู่ด้านข้างเต็มไปหมด ตรงกลาง นุ รงค์ เบียร์ ทั้ง 3 คนยืนอยู่ด้วยความงุนงงที่ไม่ได้แตกต่างกับมะพร้าว

“นั่นเจ้ามะพร้าว มาแล้ว” เสียงรงค์ พูดขึ้นมา

“พวกนั้นบอกนายไหมว่าที่นี่คือที่ไหน” เบียร์ถามมะพร้าว

“เขาบอกว่าองค์หญิงจะเป็นคนอธิบาย แล้วองค์หญิงอยู่ไหนหล่ะ?”มะพร้าวตอบ พร้อมกับถามขึ้นมา

“เราอยู่นี่” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา เธอเดินมาที่ห้องโถง เธอใส่ชุดคลุมสีขาวราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เป็นหญิงสาวอายุราว ๆ ยี่สิบปี มีผ้าคลุมปิดบังใบหน้าส่วนล่าง แสดงให้เห็นเพียงดวงตา แต่ก็ยังมองเห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงที่งดงามมาก มีชายแก่ 4 คนเดินตามมาข้างหลัง อย่างนอบน้อม

“เราจะเป็นผู้ตอบคำถามของพวกเจ้าเอง”องค์หญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่โอบอ้อม แต่ฟังดูมีอำนาจ

“เสียงนี้ เป็นเสียงของคนที่บอกให้พาเรามา ก่อนที่จะหมดสติ ฉันจำเสียงนี้ได้”  รงค์ พูดขึ้นมา

“แปลว่าท่านเป็นคนร้ายลักพาตัวพวกเรามาใช่ไหม?” เบียร์เอ่ยถามองค์หญิง

“จริงและไม่จริง เราเป็นคนพาพวกท่านมายังโลกแห่งนี้ แต่เราก็ช่วยชีวิตของพวกท่านไว้เช่นกัน” องค์หญิงยังคงตอบอย่างสงบ

“ช่วยชีวิตเรา หมายความว่าไง?” นุเริ่มทนไม่ไหวถามขึ้นมาบ้าง

“หากองค์หญิงไม่นำตัวพวกเจ้ามา พวกเจ้าทุกคนคงจะถูกรุมฆ่าตาย ณ ที่ ที่เจ้าจากมาแล้ว” เสียงชายแก่คนหนึ่งพูดขึ้นมาชายคนนี้สวมเสื้อคลุมสีฟ้า

“พวกเจ้าควรที่จะต้องขอบคุณองค์หญิงของพวกข้าเสียด้วยซ้ำ” ชายแก่ที่สวมเสื้อคลุมสีแดงพูดขึ้นมา

“พอเถิดท่านทั้งสอง ให้เราเป็นผู้อธิบายเองเถิด” องค์หญิงพูดเตือนชายแก่ทั้งสอง

“ขออภัยด้วยองค์หญิง” ชายแก่ทั้งสองเอ่ยคำขอโทษ

“แล้วที่นี่คือที่ไหน?”มะพร้าว ถามขึ้นมาบ้าง

“ที่แห่งนี้คือโลกคู่ขนาน เป็นอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างจากโลกของท่าน เป็นโลกแห่งเวทย์มนต์และคาถา ทั้งสองโลกมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันคือชีวิต เช่นตัวข้าเอง ที่อยู่ในโลกทางนี้ ที่โลกทางฝั่งของพวกท่านก็มีข้าอยู่อีกคนเช่นกัน”

“แปลว่าโลกนี้ก็มีพวกเราอยู่เหมือนกันอยู่ไหนหล่ะ?”รงค์ ถามด้วยความตกใจ พร้อมกับหันหน้ามองหา

“แน่นอน แต่ข้าคงไม่อาจบอกได้ว่าตัวท่านในโลกนี้อยู่ที่ใด ชีวิตของทั้งสองโลกล้วนดำเนินในทิศทางที่ต่างต่างกัน เช่นหากท่านในโลกนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับตัวท่านในโลกของท่านเอง เว้นแต่ว่า...” องค์หญิงตอบคำถามพร้อมกับอธิบาย

“เว้นแต่อะไร?”นุถามขึ้นมาบ้าง

“เว้นแต่ว่า หากคนของทั้งสองโลก นั้นมาอยู่ที่โลกเดียวกัน หากมีใครสักคนที่เสียชีวิตไป พลังชีวิตนั้นจะถูกส่งผ่านไปยังอีกคน คนที่ยังอยู่จะได้รับพลังและอำนาจสืบทอดจากคนที่ดับสูญไป” องค์หญิงอธิบายต่อ

“แปลว่าถ้าพวกเราตายไป พวกเราในโลกนี้ก็จะแข็งแกร่งขึ้นงั้นเหรอ?”รงค์พูดขึ้นมา

“ท่านเข้าใจได้ถูกต้องแล้ว” องค์หญิงตอบ

“หรือว่าที่ลากเรามาที่โลกฝั่งนี้เพื่อที่จะฆ่าพวกเรา แล้วให้พวกเราที่ฝั่งนี้เก่งขึ้นงั้นเหรอ คิดเหรอว่าฉันจะยอมถูกฆ่าตายง่าย ๆ” นุ โวยวายขึ้นมา

“ท่านเข้าใจเราผิดแล้ว เราพาท่านมายังโลกแห่งนี้ เพราะต้องการช่วยชีวิตพวกท่าน และ ทางเราต้องการให้พวกท่านช่วยเหลือเราเช่นกัน” องค์หญิงรีบปฏิเสธ พร้อมกับบอกความต้องการที่แท้จริง

“ให้พวกเราช่วย พวกเราจะทำอะไรได้ ไหนบอกว่าโลกทางฝั่งนี้เป็นโลกแห่งเวทย์มนต์และคาถา?”เบียร์ถามขึ้นมาบ้าง

“ขอให้เราอธิบายเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มก่อน จริงอยู่ที่โลกทางฝั่งเรา เป็นโลกแห่งเวทย์มนต์และคาถา แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้เวทย์มนต์ได้ มีเพียงเหล่านักปราชญ์ ไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้เวทย์มนต์เพื่อคอยคุ้มครองเมืองนี้จากสัตว์ร้าย”องค์หญิงนิ่งเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ

“สัตว์ร้ายในโลกของทางฝั่งนี้ก็ใช้เวทย์มนต์ได้เช่นกัน ในอดีตจะมีอสูรน้ำแข็ง และ อสูรสายฟ้า ที่จะมาบุกเข้ามาในเมืองนี้ทุก ๆ 500 ปี และ 1000 ปี ซึ่งครั้งนี้ จะครบรอบพันปี อสูรทั้งสองจะบุกมาพร้อม ๆ กัน ในอดีตเหล่านักปราชญ์ของเมืองเราก็สามารถที่จะขับไล่พวกมันออกไปได้  แต่ครั้งนี้ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาในอดีต” องหญิงถอนหายใจแล้วพูดต่อ

นักปราชญ์แห่งความมืดได้ใช้คาถาลับต้องห้ามหลอมรวมอสูรน้ำแข็ง และ อสูรสายฟ้า เข้าด้วยกันรวมไปถึงตัวนักปราชญ์แห่งความมืดผู้นั้นด้วย ทำให้อสูรร้ายกลายร่างเป็น อสูรน้ำแข็งสายฟ้า ที่มีปัญญาของนักปราชญ์แห่งความมืดอสูรน้ำแข็งสายฟ้า ที่มีปัญญานั้น รู้ว่าข้าเอง มีเวทย์มนต์ที่จะเปิดประตูมิติได้ อสูรน้ำแข็งสายฟ้าต้องการพลังนี้ของข้าเพื่อที่จะครอบครองทั้งสองโลก นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่ข้ามี” องค์หญิงอธิบายจนหมดเปลือก

“ในอดีตที่สัตว์ร้ายโจมตีเมืองเราก็เพราะความหิวโหย แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป” ชายแก่ผ้าคลุมสีน้ำตาลเอ่ยขึ้นมาบ้าง

“แปลว่าจะให้พวกเราไปสู้กับเจ้า อะไรนะ อสูรน้ำแข็งสายฟ้าที่มีปัญญานั่นเหรอ?” นุ พูดมาอย่างตกใจ

“ถูกต้องแล้ว” ชายแก่ผ้าคลุมสีฟ้าตอบ

“ขนาดเหล่านักปราชญ์ ที่ใช้เวทมนตร์ได้ของพวกท่านยังสู้มันไม่ได้ แล้วพวกเราที่ใช้เวทย์มนต์ไม่ได้เลยจะเอาอะไรไปสู้ เหมือนกับบอกให้พวกเราไปฆ่าตัวตายอย่างนั้นแหละ” รงค์พูดขัดขึ้นมา

“เปล่าเลย เราจะให้เหล่านักปราชญ์ ฝึกสอนเวทย์มนต์ให้แก่พวกท่าน พวกท่านทั้ง 4 คือตัวแทนแห่ง 4 ธาตุ ปฐพี วารี วายุ และ อัคคี คือธาตุกำเนิดของพวกท่านทั้ง 4 คน” องค์หญิงตอบข้อสงสัย

“พวกเราไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น” มะพร้าวพูดขึ้นมา

“ใช่ พวกเราต้องการกลับบ้าน ใครจะบ้ามานั่งฝึกวิชาอยู่เป็นปี กว่าจะกลับไปทางโน้นก็แก่หง่อมกันพอดี” นุโวยวายขึ้นมาอีกรอบ

“เราลืมบอกพวกท่านไป ขณะที่ท่านข้ามมิติมายังโลกแห่งนี้ เวลาในทางโลกของท่านนั้นได้หยุดลง เมื่อท่านกลับไป ท่านก็จะกลับไปสู่เวลาของโลกเดิมของท่าน” องค์หญิงกล่าวขึ้นมา

“นั่นก็คือกลับไปถูกรุมฆ่าตาย นั่นเอง หึหึ ” ชายแก่ผ้าคลุมสีแดงพูดพร้อมหัวเราะ

“แต่ถ้าหากพวกเจ้าฝึกอยู่ที่นี่ พวกเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้น และสามารถเอาชนะคนพวกนั้นในโลกของเจ้าได้” ชายแก่ผ้าคลุมสีน้ำตาลพูดต่อ

“ถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ พวกเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร”ชายแก่ผ้าคลุมสีฟ้าพูดต่อ

“กลับไปก็ตาย อยู่ที่นี่ต่อยังมีโอกาสรอด พวกเจ้าเลือกเอาเอง” ชายแก่ผ้าคลุมสีเขียวกล่าวสรุป

“เราขอสัญญาด้วยเกียรติขององค์หญิงเลยว่า หากพวกท่านช่วยพวกเรากำจัดอสูรน้ำแข็งสายฟ้า หลังจากนั้นเราจะส่งท่านทั้ง 4 กลับไปยังโลกของท่านแน่นอน” องค์หญิงพูดขึ้นมา

“เดี๋ยวนะพวกเราสี่คนงั้นเหรอ?”มะพร้าวพูดขึ้นมาหลังจากนึกอะไรออกบางอย่าง

“ยังมีอีกอย่างน้อยคนที่เข้ามายังโลกฝั่งนี้ ก่อนที่จะสลบไป ฉันเห็นฝนหายตัวไปก่อน” มะพร้าวพูดต่อ

“เป็นไปไม่ได้!” องค์หญิงพูดขึ้นมา

“รู้สึกว่าฉันจะเห็นแบบนั้นเหมือนกัน” เบียร์พูดสวนขึ้นมาบ้าง

“แต่ข้าเรียกเพียงท่านทั้งสี่คนมา  ถ้าหากมีคนอื่นมาด้วยข้าต้องรู้สิ เว้นแต่ว่า..” องค์หญิงพูดด้วยความตกใจ

“เว้นแต่อะไร?” รงค์รีบกระตุ้นให้องค์หญิงพูดต่อ

“เว้นแต่ว่า ฝน ที่ท่านพูดถึง คือตัวข้าเองที่อยู่อีกโลกหนึ่ง” องค์หญิงถอดผ้าคลุมหน้าออก แม้จะไม่ได้เหมือนกัน 100% แต่เค้าโครงหน้ายังดูเหมือนกันอยู่ ทั้ง 4 คนได้แต่ยืนตกใจ


 แต่งโดย นายมะพร้าว [นพรัตน์ น.]




เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง