test

เมนู นิยาย บน

เมนูมังงะ

2 ธ.ค. 2559

Tales of Demons & Gods Next Legend บทที่ 444.38 เดินทางกลับ


         
       เมื่อกลับมาทางโลกใบเล็ก เมื่อมองดูสภาพโดยรอบ ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เทพธิดายู่หยานและหมิงเฟย มอบแก่นแท้พลังสัจธรรมให้แก่เนี่ยลี่ ก่อนที่หมิงเฟยจะขอแยกตัวกลับไปยังนครใต้พิภพ เนี่ยลี่และเทพธิดายู่หยาน จึงเดินทางกลับไปยังเมืองกลอรี่
         

      ดูเหมือนว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เอียเซิ่งจะสามารถขยายพื้นที่อาณาเขตของเมืองกลอรี่ออกไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น จนครอบคลุมพื้นที่ของนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณ และมีการจัดแบ่งกองกำลังให้ไปช่วยดูแล ป่าอสูรทมิฬ ตามที่เนี่ยลี่ได้ร้องขอ
         

       เนี่ยลี่ได้แจ้งให้ทุกคนมารวมตัวกันตำหนักเจ้าเมือง เพื่อที่จะแจ้งเรื่องการเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร
         

     “นี่เรากลับมาที่โลกใบเล็กได้เพียงแค่สามเดือนเองนะ” ลู่เพียวพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ ที่โลกใบเล็กนี้ลู่เพียวนั้นอยู่อย่างสงบ ไม่ต้องหวาดระแวงผู้ใด แม้ว่าเซี่ยวซุ่ยจะบ่นอยู่บ้าง แต่การที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นางก็มิได้บังคับสิ่งใดลู่เพียวมากนัก
         
     แม้ว่าจะขี้เกียจเพียงใด แต่ลู่เพียวและคนอื่น ๆ ต่างก็สามารถบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้ากันได้แล้ว
         
     “ข้าเองก็ต้องการอยู่ที่โลกใบเล็กให้นานกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีเวลาอีกราวสองปี หาไม่แล้วจักรพรรดิปราชญ์ จะก้าวข้ามไปสู่การเป็นเทพแห่งการเวลาได้” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับถอนหายใจ
         

    “เมื่อกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร เจ้าจะให้พวกข้าทำสิ่งใดบ้าง?” ตู่ซื่ออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป
         

     “ข้าต้องการรวบรวมทุกนิกายในอาณาจักรซากมังกรให้เป็นหนึ่ง สำหรับนิกายเทพอสูรนั้น พวกเราจะปล่อยเอาไว้ จนกว่าพวกนั้นจะเป็นฝ่ายรุกรานพวกเรา ส่วนข้านั้นจะออกเดินทางไปยังอาณาจักรแห่งอื่น ๆ เพื่อรวบรวมยอดฝีมือมาจัดการในสงครามครั้งใหญ่ที่ใกล้จะมาถึง” เนี่ยลี่มองไปที่ทุกคนแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
         

   “เจ้าจะเดินทางไปเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ?” เซี่ยวหนิงเอ๋อถามออกไปด้วยความกังวล
         

    “พี่ยู่หยานและเซี่ยวหยู่ จะอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และเดินทางไปพร้อมกับข้า และยังมีจินตานอีกด้วย” เนี่ยลี่ยิ้มและพูดออกไป หากเซี่ยวหยู่ มิได้อยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ นางก็จะถูกจักรพรรดิปราชญ์รับรู้ได้
         

   “พวกเจ้าจะเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกรเมื่อใดกัน?” เอียเซิ่งถามพร้อมกับถอนหายใจ เขานั้นได้ใช้เวลากับบุตรสาวเพียงไม่นาน
         

      “ท่านพ่อตาอย่าได้กังวล พวกเราจะอยู่ที่โลกใบเล็กอีกราวเจ็ดวัน ข้าต้องการให้ทุกคนได้อยู่กับครอบครัวนานขึ้นอีกสักเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้กลับมา” เนี่ยลี่มองไปที่เอียเซิ่งพร้อมกับยิ้ม
         

    “เจ้าจะจัดพิธีแต่งงานเลยหรือไม่?” เอียเซิ่งพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ตอนนี้สหายทั้งสองของเนี่ยลี่ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว หากบุตรสาวของเขาจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเขาก็จะได้สบายใจ
         

    “ทะ...ท่านพ่อ” เอียจื่ออวิ๋น พูดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดง
         

      “ท่านพ่อข้า ข้าเข้าใจที่ท่านต้องการพูด แต่ข้าต้องการให้เรื่องทั้งหมดจบสิ้นลงไปก่อน เมื่อจบศึกกับจักรพรรดิปราชญ์แล้ว โลกของเราก็จะไร้ซึ่งภัยคุกคาม เมื่อยามนั้นมาถึงข้าอาจจะไม่ต้องการเป็นชาวยุทธอีกต่อไป และแต่งงานอยู่กันอย่างสงบเช่นเดียวกับบิดามารดาของข้า” เนี่ยลี่พูดขณะที่หันไปมองเอียจื่ออวิ๋นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ
         

     “ข้าคงจะร้อนใจมากเกินไป หากเป็นไปได้ข้าก็ต้องการมีชีวิตอย่างสงบเช่นที่เจ้าว่า แต่น่าเสียดาย กว่าครึ่งชีวิตของข้าต้องปกป้องเมืองกลอรี่จากพวกอสูร หากโลกไร้ซึ่งภัยคุกคาม คงจะดีไม่น้อย” เอียเซิ่งพูดพร้อมกับพยักหน้า
         

     “ขอให้ทุกคนกลับไปหาครอบครัว และแจ้งแก่พวกเขาว่า อีกเจ็ดวันพวกเราจะออกเดินทางไปยังอาณาจักรซากมังกร” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
        

     หลังจากที่คนอื่น ๆ เดินทางกลับไปแล้ว เอียเซิ่งก็พูดกับเอียจื่ออวิ๋นว่า “เนี่ยลี่จะต้องเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นสามีที่ทำให้เจ้ามีความสุขได้อย่างแน่นอน”
         

    เมื่อได้ยินคำพูดของเอียเซิ่ง เอียจื่ออวิ๋นก็หน้าแดงและวิ่งกลับไปที่ห้องพักของนาง
บ้านของเนี่ยลี่
         

     เนี่ยลี่ได้แจ้งแก่เนี่ยหมิง เนี่ยไค เนี่ยเซี่ยวหยุนและ เหมียวหลิง เรื่องที่จะต้องเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร เร็วกว่าที่กำหนด
         

    “ข้าก็คิดแล้วว่าเจ้า คงจะพักอยู่ที่บ้านไม่ถึงปีอย่างที่เจ้าพูดเป็นแน่” เนี่ยเซี่ยวหยุนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
         

     “ท่านแม่ ข้าขออภัย แต่ข้าสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมพวกท่านหากมีเวลา” เนี่ยลี่มองหน้ามารดาด้วยสายตาออดอ้อนและพูดออกไป
         

       “ท่านพี่เนี่ยลี่ เมื่อไหร่กันที่ข้าจะไปยังอาณาจักรซากมังกรได้บ้าง” เนี่ยหยู่มองเนี่ยลี่ตาไม่กระพริบพร้อมกับถามออกไป
         

        “เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องไปยังอาณาจักรซากมังกร ข้าต้องการให้เสี่ยวหยู่ช่วยปกป้องครอบครัวของเราตอนที่ข้าไม่อยู่ เสี่ยวหยู่ทำได้หรือไม่?” เนี่ยลี่ยิ้มและตอบกับไป และเอามือลูบหัวเนี่ยหยู่ด้วยความเอ็นดู
         

       “เสี่ยวหยู่ทำได้ เสี่ยวหยู่จะไม่ให้ใครมารังแกท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านลุงกับท่านป้า ท่านพี่เนี่ยลี่เชื่อใจข้าได้” เนี่ยหยู่พูดพร้อมกับเอามืทุบอกด้วยความมั่นใจ
         

        เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เนี่ยลี่ยิ้มด้วยความยินดี การอยู่พร้อมหน้าครอบครัวเช่นนี้ เป็นเวลาที่เขามีความสุขยิ่งนัก เขาจะใช้เวลาเจ็ดวันที่เหลือ ในการอยู่กับครอบครัว และช่วยฝึกฝนเนี่ยหยู่ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
         

      ในวันที่ต้องออกเดินทาง เนี่ยเซี่ยวหยุน เตรียมอาหารเช้าให้แก่เนี่ยลี่ พร้อมกับบอกให้ดูแลตัวเอง ส่วนเนี่ยหยู่ร้องไห้และพูดขึ้นมาว่า
         

“ท่านพี่เนี่ยลี่จะต้องกลับมาเยี่ยมข้านะ”
         

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เนี่ยลี่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินมาลูบหัวเนี่ยหยู่และพูดว่า
         

“อีกไม่นานข้าจะกลับมา เสี่ยวหยู่ต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่นะ”
        

เนี่ยหยู่ได้แต่ร้องไห้และไม่ได้ตอบกลับมา
         

      “สหายของเจ้าคงจะไปรอกันแล้ว เจ้าจงดูแลตัวเองด้วยนะ” เนี่ยหมิงจับที่ไหล่ของบุตรชายและพูดออกไป
         

     “ครั้งหน้าที่ข้ากลับมา ข้าคงจะไม่จากไปที่ใดอีก ข้าสัญญา” เนี่ยลี่มองหน้าทุกคนในครอบครัว เขาจดจำทุกสิ่งเอาไว้ และเขาจะต้องกลับมาให้ได้
         

     ต่อมา ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง และมารวมตัวกันที่นครใต้พิภพ แม้ว่าจะยังคงเป็นถ้ำเช่นเดิม แต่ไร้ซึ่งฝุ่นละอองออกที่เคยปกคลุมอยู่ หมิงเฟยและเซี่ยวหยู่ยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้า
         

    “เซี่ยวหยู่ เจ้าคงจะต้องกลับเข้าไปอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำอีกครั้ง” เนี่ยลี่มองไปที่เซี่ยวหยู่และพูดออกไป
         

   “ข้าจะเข้าไปอยู่ข้างในนั้นด้วย” เทพธิดายู่หยานพูดขึ้นมา ในตอนนี้นางไร้ซึ่งพลังสัจธรรมแห่งอัคคี นางจึงต้องเข้าไปฝึกฝนเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น
         
   “ตกลง ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องฝากจินตานไว้ข้างในด้วย เป็นการชั่วคราว”  เนี่ยลี่พูดพร้อมกับสบัดมือขวาของเขา ทำให้เซี่ยวหยู่ เทพธิดายู่หยาน และจินตานเข้าไปอยู่ด้านในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
         

     “ทางด้านนี้ ข้าจะดูแลโลกใบเล็กให้เอง” หมิงเฟยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
         

    “ข้าคงต้องฝากท่านหมิงเฟยด้วย หากมีปัญหาอันใดท่านสามารถแจ้งไปยังนิยายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกเมื่อ” เนี่ยลี่พูดพร้อมกับประสานมือขอบคุณ
         

    “ไม่รู้ว่าทางฝั่งนั้นเป็นเช่นใดบ้างนะ?” ลู่เพียวอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
         

    “คงจะไม่มีเรื่องอันใด เพราะพวกเราเองก็เดินทางไปไม่นานนัก และในตอนนี้นิกายของเราเองก็เข้มแข็งขึ้นเป็นอย่างมาก” เนี่ยลี่ตอบกลับไป
         

   “ลู่เพียว แล้วเจ้ากับเซี่ยวซุ่ยจะทำเช่นใดกัน นิกายของพวกเจ้าเองก็อยู่ห่างกันมากมิใช่หรือ?” ตู่ซื่อมองไปที่ลู่เพียวและเซี่ยวซุ่ยก่อนที่จะถามออกไป
         
    “ข้าจะกลับไปยังนิกายเสียงสวรรคก่อน จากนั้นค่อยแจ้งกับอาจารย์ของข้าว่าได้แต่งงานกับลู่เพียว จากนั้นข้าจะขอท่านอาจารย์มาอยู่ที่นิกายขนนกสักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่ในการติดต่อสื่อสารระหว่างนิกายทั้งสอง” เซี่ยวซุ่ยพูดพร้อมกับยิ้ม
         

  “พวกเราไปกันได้แล้ว” เนี่ยลี่ยื่นมือไปเปิดประตูมิติ และกลับมายังนิกายขนนศักดิ์สิทธิ์


นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
         

     ทันที่ที่เห็นพวกเนี่ยลี่กลับมา ศิษย์ในนิกายต่างกู่ร้องชื่อของเนี่ยลี่
         

“ประมุขเนี่ย กลับมาแล้ว!
         

     เสียงดังกึกก้องไปทั่ว ทำให้พวกกู้เบ่ย หลี่ชิงอวิ๋น หลงยู่อิน และกู้หลาน รวมไปถึงปรมาจารย์ทั้งห้าได้รับรู้ถึงการกลับมาของเนี่ยลี่
         

    ทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่ตำหนักผู้นำนิกาย หลังจากที่ทุกคนนั่งกันที่โต๊ะ เนี่ยลี่จึงหันไปถามกู้หลาน
         

    “พี่กู้หลาน ไม่ทราบว่าช่วงที่ข้าไม่อยู่ ทางนิกายเป็นเช่นใดบ้าง?
         

      “ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ นิกายเทพอสูรก็ยังคงเก็บตัวเงียบ มิได้มารุกรานนิกายใด ๆ” กู้หลานตอบกลับไป พร้อมกับยิ้ม เนื่องจากได้ปรมาจารย์ทั้งห้าช่วยให้คำชี้แนะ การดูแลนิกายจึงเป็นไปอย่างราบรื่น
         

    “กู้เบ่ย นี่คือเซี่ยวเซี่ยวซุ่ย ภรรยาของข้า เราแต่งงานกันแล้วที่โลกใบเล็ก” ลู่เพียวรีบยืดอกแนะนำภรรยาของเขา แม้ว่าจะเคยพบเจอกันแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ฐานะของนางได้เปลี่ยนจากคู่หมั้นเป็นภรรยาแล้ว
         

       “ข้าเองก็มีภรรยาคนใหม่เช่นกัน คือแม่นางไฉ่เตี๋ย แห่งหอการค้าเทียนเป๋า เจ้ายังจำนางได้หรือไม่” กู้เบ่ยตอบกลับไป แม่นางไฉ่เตี๋ยคือคนที่ขายของวิเศษให้แก่พวกเนี่ยลี่ตอนที่ไปหาซื้ออาวุธและชุดเกราะวิเศษระดับที่หก
         

     “น้องสะใภ้คนใหม่ของข้า เก่งกาจด้านการค้า ข้าจึงให้นางดูแลเรื่องการค้าของตระกูล ซึ่งนางก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย” กู้หลานกล่าวชื่นชม
         

     กู้เบ่ยแอบกระซิบข้างหูของลู่เพียวว่า “แล้วเจ้าจะหาภรรยาคนใหม่อีกเมื่อใด ข้าจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้”
         
     แม้ว่าจะเป็นเพียงเสียงกระซิบแต่เซี่ยวซุ่ยก็ได้ยิน นางมองลู่เพียวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอํามหิต พร้อมกับใช้มือหยิกที่แขนของลู่เพียว ลู่เพียวจึงรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
         

    “ข้านั้นมีนางเป็นภรรยาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว นางคือหญิงเดียวในใจของข้า”
         

       เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยวซุ่ยจึงปล่อยมือที่หยิกอยู่ แต่นางก็คิดในใจว่า เมื่อนางมาอยู่ที่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นางจะต้องพยายามกันไม่ให้ลู่เพียวอยู่กับกู้เบ่ยสองต่อสอง ไม่เช่นนั้น ลู่เพียวอาจจะนอกลู่นอกทางไปได้
         

    “พวกข้าก็แต่งงานกันแล้วเช่นกัน” ตู่ซื่อที่นั่งเงียบอยู่พูดขึ้นมา
         

      “นับว่ามีแต่เรื่องที่น่ายินดี จริงสิ ยังมีคนที่จะแต่งงาน นางบอกว่าจะแต่งหลังจากที่พวกเจ้ากลับมา” กู้หลานพูดพร้อมกับมองไปที่คนผู้หนึ่ง
         

      “หลงยู่อิน!” เนี่ยลี่และคนอื่น ๆ พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ....................จบตอน
        
        

แต่งโดย นายมะพร้าว





เมนู นิยาย ล่าง

เมนู มังงะ ล่าง