ชีวิตคนเรามันก็น่าเบื่อแบบนี้แหละ
ตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน เมื่อวานก็เพิ่งจะไปมีเรื่องกับพวกโรงเรียนอื่นมา
ได้กระทืบจนมันส์สะใจเลยหล่ะ แล้วผมเป็นใครนะเหรอ ขอโทษทีลืมแนะนำตัวไป ใคร ๆ
ก็เรียกผมว่า นายมะพร้าว เป็นนักเรียนชั้น ม.ปลาย ปีสุดท้ายของโรงเรียนเจ้าชาย (Prince Royal's School) หอพักของผมอยู่ทางประตูทิศใต้ของโรงเรียน
ผมจึงเดินออกทางนี้ประจำ วันนี้เป็นวันสอบ วันสุดท้าย ถ้าพ้นวันนี้ไปก็จบชีวิต
ม.ปลายแล้วสินะ
ผมเดินเข้ามาในประตุโรงเรียน
รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครแอบมองตามหลังอยู่
ผมมองไปเห็นพวกที่ผมไปมีเรื่องด้วยเมื่อวานขี่มอเตอร์ไซค์ อยู่หน้าโรงเรียน
มีประมาณ 5-6 คนได้ สงสัยจะแอบมาดักตอนผมสอบเสร็จ
จำนวนคนแค่นั้นมันก็ไม่ได้พอมือผมหรอก เมื่อวานผมยังซัดเจ้าพวกนี้ตั้งสิบกว่าคนจนหมอบมาแล้ว
ผมจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แล้วก็เดินไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรกินก่อน
วันนี้ร้านข้าวราดแกงประจำโรงเรียนมีเมนุโปรดผมด้วย แกงกะหรี่
ผมสั่งราดข้าวแล้วก็มานั่งกินที่โต๊ะทานข้าว
“เฮ้ย
เมื่อวานได้ข่าวว่าไปกระทืบพวกโรงเรียนเทคนิค(Technical school)มาเหรอ เห็นพวกนั้นมาดักรอหน้าประตูโรงเรียนทั้ง 4 ประตูเลย
เย็นนี้ดูท่าทางแกจะไม่รอดกลับบ้านแล้วหว่ะ มะพร้าว”
เสียงดังมาจากทางข้างหลัง
เป็นเสียงของผู้ชายตัวใหญ่ ผมสั้นหน้าตากวนตีน ติดพลาสเตอร์ตรงจมูก เจ้า นุ
นี่เองก็ถือว่าเป็นนักเลงหัวไม้ประจำโรงเรียนคนหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า
หอพักของเจ้านี่อยู่ทางประตูทิศเหนือ
ก็เลยไม่ค่อยได้มีเรื่องกันเท่าไหร่แล้วมันก็ถือจานมานั่งกินข้าง ๆ ผม
“ไม่ต้องไปห่วงเจ้ามะพร้าวมันหรอก
นุ แกเองก็เคยไปกระทืบพวกมันมาเหมือนไม่ใช่เหรอ”
เสียงของผู้ชายที่ดูท่าทางเจ้าสำอางเป็น เสือผู้หญิง ชื่อว่า เบียร์ มีสาว ๆ
ควงไม่เคยซ้ำหน้าหมอนี่หอพักอยู่ทางประตูทิศตะวันตกของโรงเรียน
ถือแก้วน้ำมานั่งตรงข้ามผมอีกคน เริ่มจะชักรำคาญเจ้าสองคนนี่แล้วนี่แล้วสิ
“ไอ้เสือผู้อย่างแก
ก็ไปแย่งผู้หญิงของพวกมันมาเหมือนกันนี่ มีในสต๊อกยังไม่พอเหรอเบียร์”
เสียงดังมาจากโต๊ะข้าง ๆ เป็นเสียงเจ้าหนุ่มแว่นกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่
เจ้ารงค์หนอนหนังสือแห่งโรงเรียนเจ้าชาย ชนะเลิศในการสอบแข่งทั่วประเทศ
แต่ฝีมือในการกระทืบคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร
เจ้านี่พักอยู่ที่หอพักทางประตูทิศตะวันออก
พออยู่กันครบ
4 คน เสียงคนรอบข้างเริ่มกระซิบเสียงดัง สอบวันสุดท้ายนี่ขออยู่แบบสงบ ๆ
ไม่ได้เหรอ มะพร้าวคิด
“นั่นไง 4
ผู้พิทักษ์ ของโรงเรียนเจ้าชาย มารวมตัวกันครบ 4 คนเลย”
“ผู้พิทักษ์ทิศใต้นายมะพร้าว
หนุ่มเจ้าเล่ห์ที่รักษาประตูทิศใต้ ทำให้ไม่มีพวกโรงเรียนอื่นกล้าเข้ามาวุ่นวาย”
“ผู้พิทักษ์ทิศเหนือเสือนุ
นักเลงหัวไม้ที่กระทืบคนทางฝั่งประตูทิศเหนือ”
“ผู้พิทักษ์ทิศตะวันตกวิหกคลอเคลียเบียร์
ชายมากเมีย หลีหญิงไปทั่วทั้งหอพักตะวันตก”
“ผู้พิทักษ์ทิศตะวันออกสายหมอกรงค์
หนอนหนังสือที่กล้ามีเรื่องกับเด็กต่างโรงเรียนเพียงเพราะทำน้ำหกใส่หนังสือ”
“เฮ้ย ๆ
ทำของฉันมันฟังดูแปร่ง ๆ กว่าคนอื่นวะ” เจ้าเบียร์บ่นขึ้นมา
“ก็เหมาะกับแกดีนี่”
มะพร้าวพูดแล้วลุกเดินเอาจานไปเก็บ”
“ใกล้ได้เวลาสอบแล้ว
ไปกันเถอะ” เจ้ารงค์ปิดหนังสือแล้วชวนกันไปที่หน้าห้องสอบ
พอสอบเสร็จทุกคนก็ออกมาเตรียมกระเป๋าเพื่อกลับหอพัก
จู่ ๆ ก็มีประกาสเสียงตามสายว่า
“ประกาศหลังสอบเสร็จขอให้นักเรียกทุกคนเก็บตัวในอาคาร
อย่าเพิ่งรีบกลับบ้าน ตอนนี้ที่หน้าประตูโรงเรียนมีกลุ่มนักเรียนเทคนิคกว่าร้อยคน
ปิดล้อมอยู่ที่ประตู้ทั้ง 4 ด้าน
ตอนนี้ทางอาจารย์กำลังติดต่อประสานงานกับตำรวจให้เข้ามาเปิดทางให้
ขอย้ำว่าอย่าเพิ่งออกจากอาคารเรียนโดยเด็ดขาด”
หลังเสียงประกาศ นักเรียนก็จับกลุ่มคุยกัน วุ่นวายไปหมด
บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะพวกเรา 4 คน ทำให้กลับบ้านไม่ได้ เออก็นะ
มันก็ใช่เพราะพวกเราจริง ๆ ด้วยนะแหละ ทั้ง 4
คนมองหน้ากันแล้วก็ถือกระเป๋าของตัวตัวเองเดินไปที่ประตูทั้ง 4 ด้านของโรงเรียน
เท่าที่ดูคร่าว ๆ ก็มีพวกนั้นอยู่ด้านละประมาณ 40 คน
ท่าทางจะเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน
ที่ประตูทางทิศเหนือ มันก็สนุกของเขาหล่ะ ไอ้เสือนุ
กระโดดเข้าไปกลางวง ทั้งต่อย ทั้งเตะ เอากระเป๋าฟาด พอล้มไปได้สักสิบคน
ที่เหลือก็เริ่มล้อมเป็นวง นุอยู่ตรงกลางก็พูดออกมาว่า
“การล้อมวงแบบนี้พวกแกรู้ไหม มันทำให้ฉันเลือกที่จะกระทืบใครก็ได้ง่าย
ๆ เลยหล่ะ” พูดจบนุก็เอานิ้วชี้มือซ้ายปัดจมูกขึ้น จากนั้นเอานิ้วโป้งปัดจมูกลง
ตามนิสัยประจำตัว จากนั้นก็วิ่งไปต่อยที่ด้านหนึ่งของพวกที่มารุม
พอเปิดช่องได้ก็วิ่งออกนอกวงแล้วไล่กระทืบทีละคน
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงประตูทิศเหนือก็เปิดออก
ทางประตูทิศตะวันตก
เจ้าเสือผู้หญิงเบียร์ กำลังยืนประจันหน้ากับนักเรียนเทคนิค 40 คน
“ไอ้นี่แหละที่มันแย่งแฟนข้าไป” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
“เดี๋ยว ๆ
แฟนนายนี่มันคนไหนเหรอ พอดีแฟนเรามีหลายคนหน่ะ ไม่ระบุชื่อมาแบบนี้
นึกหน้าไม่ออกจริง ๆ” เบียร์ยิ้มแล้วถามกลับไป
“ไอ้ห่านี่ พวกเรากระทืบมันเลย” พวกนักเรียนเทคนิค
ตะโกนแล้วเริ่มรุมเข้าใส่เจ้าเบียร์ เจ้าเบียร์เห็นอย่างนั้นเลยรีบต่อยคนที่พุ่งมาคนแรก
แล้วฉากหลบไปด้านข้าง แล้วพูดว่า
“ฉันชอบให้สาว ๆ มารุมนะ แต่ผู้ชายแบบพวกแกนี่ขอผ่านหว่ะ”
เจ้าเบียร์ค่อยต่อยทีละคนสองคนแล้ววิ่งวนหลบไปเรื่อย ๆ
พอจัดการไปได้สักครึ่งชั่วโมงก็เหลือแค่
ไอ้คนที่มาบอกว่าเจ้าเบียร์ไปแย่งแฟนมันคนเดียว
“เหลือแกคนเดียวแล้วหว่ะ เอาไงต่อหล่ะ?” เจ้าเบียร์ยิ้มแล้วพูดออกไป
“หนอยฝากไว้ก่อนเถอะ” นักเรียนเทคนิคคนสุดท้ายหันหลังจะวิ่งหนี
เจ้าเบียร์รีบกระชากเสื้อจากทางข้างหลังไม่ให้หนีไป
“รู้ไหมการวิ่งหนีหน่ะ จะทำให้สูญเสียทุกอย่าง ทั้งมิตรภาพ
และ ความรัก ” แล้วเจ้าเบียร์ก็ปล่อยมือ
นักเรียนเทคนิคที่พยายามวิ่งหนีเลยล้มหน้าฟาดกับพื้น แล้วก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาอีก
เจ้าเบียร์ก็เลยเดินกลับไปเปิดประตูทางออกของทิศตะวันตกเพื่อให้นักเรียนกลับบ้าน
ได้
ประตูทิศตะวันออก
เจ้ารงค์กำลังเดินออกประตูไป พวกนักเรียนเทคนิคมายืนขวาง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ไอ้เด็กเรียนนี่มันใครวะ
กล้าเดินออกมาคนเดียว”
“ไอ้เด็กแว่น รีบกลับเข้าไปข้างในดีกว่า
รอให้พวกข้าจัดการกับ 4 ผู้พิทักษ์ของพวกแกก่อน แล้วค่อยกลับบ้านนะ”
พูดจบพวกนักเรียนเทคนิคก็หัวเราะกัน
รงค์ได้แต่ถอนหายใจเอาหนังสือสารานุกรมที่อยู่ในมือฟาดไปที่หน้าของนักเรียนเทคนิคคนหนึ่ง
ถึงกับสลบเหมือดไปเลยทีเดียว
“จะมาหาเรื่องเค้า
แต่ไม่รู้จักหน้าค่าตาเขาเลยเนี่ยนะ
พวกแกนี่มันน่าเบื่อยิ่งกว่าหนังสือสารานุกรมอีกหว่ะ”
จากนั้นเจ้ารงค์ก็เอาหนังสือฟาดสลบไปอีกหลายคน จากนั้นเจ้ารงค์ก็พูดขึ้นมาว่า
“เดี๋ยวฉันจะติววิชากายภาคให้เป็นพิเศษเลย
สนใจไหม กระดูกแขนคนเราหน่ะมันหักได้ง่าย ๆ เลยถ้าฟาดลงตรงนี้”
เจ้ารงค์ฟาดหนังสือไปตรงข้อศอกของนักเรียนเทคนิค กร๊อบ เสียงกระดูกหักดังลั่น
“โอ๊ย”
นักเรียนเทคนิคที่โดนหักแขนร้องลั่น ลงไปนอนดิ้นกับพื้น
นักเรียนเทคนิครีบพุ่งเข้ามาต่อย
แต่เจ้ารงค์ก็หลบได้สบาย ๆ แล้วพูดว่า
“เวลาต่อยอย่าเหวี่ยงแขนให้กว้างนัก
ถึงจะทำให้แรงขึ้น แต่มันก็หลบง่าย แถมยังสวนกลับได้ง่ายอีก”
“ส่วนวิธีที่ทำให้คนสลบ
ก็ต้องตรงนี้” รงค์เอาหนังสือสารานุกรมฟาดไปยังท้ายทอยของนักเรียนเทคนิค อีก 2-3
คน แค่เวลาไม่นานก็นอนสลบลงไปทั้งหมด
“เชอะ
สารานุกรมเล่นใหม่ยับไปหมดเลย”
เจ้ารงค์เก็บหนังสือสารานุกรมเข้ากระเป๋าจากนั้นก็ไปเปิดประตูฝั่งตะวันออกแล้วก็เดินกลับหอพักไป
ณ
ประตูทางทิศใต้มะพร้าวยืนประจันหน้าอยู่ตรงหน้าประตูกับนักเรียนเทคนิค กว่า 40 คน
“เมื่อวานซ่านักนะแก
วันนี้พวกข้าจะเอาคืนเป็นสิบเท่าเลย” นักเรียนเทคนิคที่มะพร้าว
กระทืบมาเมื่อวานมายืนคุยตรงหน้า
มะพร้าวรีบล้วงเอาทรายที่เอาใส่กระเป๋ามา
ตอนที่เดินผ่านบ่อทรายสำหรับกระโดดไกลมาแล้วปาใส่หน้าพวกนักเรียกเทคนิค ทรายปาเข้าตาไปเกือบสิบคน
มะพร้าวรีบต่อยและเอากระเป๋าฟาด จนล้มไปครบทุกคนเหลือแต่พวกที่ยืนอยู่ข้างหลังอีกประมาณ
30 คนได้ มะพร้าวควักขวดน้ำที่อยู่ในกระเป๋าออกมา พร้อมกับไฟแช็คในขวดมีน้ำสีชมพูอยู่
“เฮ้ย! นั่นมันน้ำมัน” เสียงพวกนักเรียนเทคนิคตะโกน
มะพร้าวรีบเปิดฝาแล้วสาดน้ำสีชมพูดไฟ พวกนักเรียนแตกกระเจิง
“แค่น้ำเปล่าใส่น้ำยาอุทัย
หอมเย็นชื่นใจดีนะ” มะพร้าว พูดแล้วก็วิ่งเข้าไปจัดการพวกที่กำลังแตกฮือ
ล้มไปอีกสิบกว่าคน
“เหลือแค่ยี่สิบคนสินะ
เอาไงต่อหล่ะ” มะพร้าวพูดพร้อมกับยิ้ม แล้วก้มไปหยิบดาบไม้ขนาดพอดีมือจาก
พวกที่นอนอยู่กับพื้น
“ขอยืมไอ้นี่
หน่อยนะ ท่าทางน่าสนุกดี” จากนั้นมะพร้าวก็ใช้ดาบไม้ไล่ฟัน
พวกนักเรียนเทคนิคล้มลงทีละคนจนหมด
“อะ เอาคืนไป
ขอโทษทีนะที่ทำมันหัก” มะพร้าวโยนดาบไม้คืนให้นักเรียนเทคนิคที่สลบอยู่
จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูทิศใต้
พวกนักเรียนที่เดินมาแต่ละประตู
ได้เห็นนักเรียนเทคนิค นอนล้มลงกับฟื้นหลายสิบคน พวกเค้ากลายเป็นพยานคนสำคัญสำหรับ
วีรกรรมสุดท้ายของผู้พิทักษ์ทั้ง 4 แห่งโรงเรียนเจ้าชาย
และจะคอยเล่าขานถึงตำนานของพวกเค้าทั้ง 4
คนหลังจากที่ได้เรียนจบจากโรงเรียนแห่งนี้ไป